สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
สูตรข้าวเหนียวมูนหน้าต่างๆ




พอเริ่มเข้าฤดูร้อนขนมไทยสุดแสนอร่อยที่นิยมทานกันก็ได้แก่
ข้าวเหนียวมูนที่สามารถรับประทานได้กับหน้าสังขยา หน้ากระฉีก
ก็เลยนำสูตรมาฝากกันคะ ลองทำทานกันดูนะคะ


ส่วนผสมข้าวเหนียว

ข้าวเหนียวงู 6 ถ้วยตวง
หัวกะทิข้น 2 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 2 ช้อนชา
สารส้มป่น 1/4 ถ้วยตวง


วิธีทำ

1. นำข้าวเหนียวใส่หม้อ ใส่น้ำให้ท่วมข้าวเหนียว ขัดด้วยสารส้มให้ทั่ว เทน้ำสารส้มทิ้ง แช่ด้วยน้ำเปล่าให้เท่วมข้าวเหนียว พักไว้ 1 คืน
2. ใช้ผ้าขาวบางปูลังถึง นำข้าวเหนียวเกลี่ยให้ทั่ว นึ่งน้ำเดือดไฟแรงประมาณ 45 นาที
3. เอาน้ำตาลทราย เกลือป่น ใส่ในหัวกะทิ ตั้งไฟคนให้ละลาย พอเดือด ยกลง
4. เมื่อข้าวเหนียวสุก ตักใส่ชามผสมหรือภาชนะ ใส่กะทิที่ผสมในข้อ 3 คนให้ทั่ว ปิดฝาพักไว้ ข้าวเหนียวจะดูดกะทิจนแห้ง (ต้องทำขณะข้าวเหนียวสุกจากลังถึง เพราะถ้าข้าวเหนียวไม่ร้อนจะไม่ดูดน้ำกะทิ)

ส่วนผสมหน้ากระฉีก

มะพร้าวทึนทึกขูดกระต่ายจีน 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่าหรือน้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วยตวง


วิธีทำ

1. ผสมมะพร้าว น้ำตาลปีบ และน้ำเปล่า
2. ตั้งไฟกวนให้เหนียว ยกลง

ส่วนผสมสังขยา

กะทิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลโตนด 1 1/2 ถ้วยตวง
ไข่ 4 ถ้วยตวง


วิธีทำ

1. ละลายน้ำตาลกับกะทิ กรองด้วยผ้าขาวบาง
2. ใส่ไข่ และตีให้เข้ากันดี
3. ใส่ภาชนะ นึ่งประมาณ 45 นาที

หมายเหตุ

1. สังขยาที่รับประทานกับข้าวเหนียวจะต้องหวานจัดสักหน่อย ถ้าเป็นสังขยาธรรมดา ลดน้ำตาลได้
2. เมื่อจะรับประทานข้าวเหนียว จัดใส่จาน ใช้ช้อนสังกะสีแบนค่อยๆ ช้อนสังขยาให้แบนๆ วางหน้าข้าวเหนียว


ส่วนผสมหน้ากุ้ง

เครื่องปรุง

กุ้งนางปอกแล้วสับ 1 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูด ? ถ้วยตวง
พริกไทยเม็ด ? ช้อนชา
รากผักชีหั่นแล้ว 1 ช้อนชา
กระเทียมหั่นหยาบๆ 1 ช้อนชา
น้ำมันหมูหรือน้ำมันพืช ? ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. สับกุ้งที่ปอกแล้วกับมะพร้าวทึนทึก พอแหลกอย่าสับให้ละเอียดจนยิบ
2. โขลกพริกไทย รากผักชี และกระเทียมรวมกันให้ละเอียด
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน นำเครื่องที่โขลกไว้ลงผัด จนมีกลิ่นหอม แล้วใส่กุ้งสับลงผัดให้กุ้งกระจายตัวดี ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาล เมื่อเข้ากันดีแล้ว ชิมรสเมื่อได้รสตามต้องการโรยใบมะกรูดหั่นฝอย เคล้าพอเข้ากัน ตักใส่ชามไว้
4. เสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูลสีเหลือง

หมายเหตุ

กุ้งทะเลใช้แทนกุ้งหลวงหรือกุ้งนางได้ แต่กลิ่นและรสด้อยกว่าเล็กน้อย ถ้ำไม่มีกุ้งสด กุ้งแห้งที่โขลกจนฟู ใช้แทนได้ แต่กลิ่นรสสู้กุ้งสดไม่ได้ แต่ถ้านำกุ้งแห้งไปผัดแบบหน้าปลาแห้งจะอร่อยกว่าผัดแบบหน้ากุ้ง





ส่วนผสมน้ำกะทิทุเรียน

ส่วนผสม

น้ำกะทิข้น 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง
เนื้อทุเรียนฉีกเล็ก ๆ 1 1/2 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. คั้นมะพร้าวด้วยน้ำต้มใบเตยไว้จนเย็นแล้ว ใช้มะพร้าวขูด ขาวน้ำหนัก 1/2 กิโลกรัม
2. คั้นด้วยเติมน้ำต้มใบเตยลง ครั้งละ 1/2 ถ้วยตวง คั้นประมาณ 3 ครั้ง จะได้กะทิ 3 ถ้วยตวง
3. ผสมกะทิกับน้ำตาลปึกที่ฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ใช้ช้อนไม้ หรอืไม้พายคนจนน้ำตาลละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง
4. ผสมเนื้อทุเรียนที่ฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงในน้ำกะทิ

กลเม็ดเคล็ดลับ

ข้าวเหนียวน้ำกะทิ ถ้านอกฤดูอาจเปลี่ยนเป็นผลไม้อื่นได้ เช่น น้อยหน่า ขนุน บางท่านชอบข้าวเหนียว น้ำกะทิที่ไม่ใส่ผลไม้ ถ้าต้องการเก็บไว้หลายชั่วโมง ควรน้ำกะทิขึ้นต้มให้เดือด เสียก่อนที่จะใส่เนื้อทุเรียน ขณะต้มต้องคนตลอดเวลา เพื่อมิให้ กะทิจับตัวเป็นลูก

ข้าวเหนียวทุเรียนควรเสิร์ฟกับน้ำกะทิที่ไม่ขุ่นมัวจาก น้ำตาลปึกมากนัก ทุเรียนสีเหลืองสวย ข้าวเหนียวต้องนุ่ม รสหวาน มัน หอมทุเรียน








ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก naichef
//manyofdessert.tripod.com
//www.geocities.com



Create Date : 13 เมษายน 2552
Last Update : 13 เมษายน 2552 10:34:11 น. 2 comments
Counter : 4762 Pageviews.

 
เห็นแล้วหิวเลยค่ะ


โดย: ถั่วงอกน้อยค่ะ วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:10:47:07 น.  

 
อยากลองทำจังค่ะ


โดย: never the last วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:5:07:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
13 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.