สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
รวมสูตร Love & Edible Flower ดอกไม้ อาหาร และความรัก

ยำทวายเก้าเกสร



เมนูนี้นำดอกไม้รับประทานได้หลากสีเก้าชนิด มาปรุงเป็นยำทวายแบบไทย ๆ ใช้ทั้งดอกสดและลวกในน้ำกะทิธัญพืชพอสุก รับประทานคู่กับน้ำยำรสเปรี้ยว เค็ม หวาน มัน นอกจากจะอร่อยเข้ากันแล้ว สีสันต่าง ๆ ในดอกไม้ยังช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้อีกด้วย

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 30 นาที ปรุง 45 นาที


•ดอกไม้รับประทานได้ 9 ชนิด ชนิดละ 1/2 ถ้วย (พวงชมพู กลีบในของดอกบัวฉัตร ดอกเข็ม ดอกอัญชัน ดอกโสน ดอกแคขาวดึงเกสรออก ดอกผักกวางตุ้ง ดอกเล็บมือนาง หัวปลีซอยเป็นเส้นแช่น้ำมะขามเปียกไว้)
•อกไก่ต้มสุกฉีกเป็นเส้น 1 ถ้วย
•ถั่วงอก 1 ถ้วย
•พริกหวานสามสี เขียว เหลือง แดง ซอยเป็นเส้นบาง ชนิดละ 1/4 ถ้วย
•กะทิธัญพืช 1 ½ ถ้วย
•น้ำเปล่า 4 ถ้วย
•เกลือ 1/2 ช้อนชา
•งาคั่วตามชอบ
•กะทิธัญพืชเคี่ยวผสมกับแป้งข้าวเจ้าเล็กน้อยจนข้น สำหรับราดหน้ายำ ตามชอบ

ส่วนผสมน้ำยำ

•พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดเอาเมล็ดออก นำไปแช่น้ำจนนิ่ม 7 เม็ด
•หอมเล็กปอกเปลือกซอยบางตามขวาง 7 หัว
•กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 7 กลีบ
•ข่า 3 แว่น
•ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
•ปลาย่าง (ปลาเนื้ออ่อนหรือปลาสลาดก็ได้) แกะเอาแต่เนื้อโขลกละเอียด 1/4 ถ้วย
•น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
•น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
•น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
•เกลือ 1/4 ช้อนชา
•กะทิธัญพืช 1 ถ้วย

วิธีทำ

1.ทำน้ำยำ โดย โขลก พริกกับเกลือให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ลงโขลกจนเนียนจึงใส่หอมและกระเทียม เมื่อเครื่องแกงละเอียดดีแล้วจึงใส่ปลาย่างลงไป โขลกต่อสักพักจนเข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้
2.ใส่กะทิธัญพืช (ส่วนเครื่องปรุงน้ำยำ) ลงในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาล ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเตรียมเสิร์ฟ
3.ผสมกะทิธัญพืช กับน้ำในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เกลือคนให้ละลาย แล้วจึงนำถั่วงอก พริกหวาน และดอกไม้ลงลวก โดยเรียงลำดับจากสีอ่อนไปจนถึงสีเข้ม (ดอกอัญชันและพวงชมพูไม่ต้องลวกก็ได้ เพราะสามารถรับประทานสด ๆ )
4.จัดดอกไม้ลวกและผักใส่จาน เคียงด้วยเนื้อไก่ฉีกฝอย ราดน้ำยำ และน้ำกะทิธัญพืชสำหรับราดที่เตรียมไว้ โรยงาตามชอบ รับประทานทันที

Tip

•การลวกดอกพวงชมพูจะทำให้สีของดอกไม้จางลงเป็นสีชมพูอ่อนจนถึงสีขาว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการลวก
•ก่อนนำหัวปลีไปลวก ควรล้างน้ำมะขามเปียกออกก่อน เพื่อป้องกันรสเปรี้ยวจากน้ำมะขามทำให้รสยำเสีย
•สามารถปรับเปลี่ยนดอกไม้ได้ตามชอบ


ฉู่ฉี่ดอกฟักทองมันกุ้ง



ฉู่ฉี่จานนี้นำเนื้อกุ้งโขลกจนเหนียวมาเคล้ากับเนื้อปูต้ม นำไปหุ้มกับดอกฟักทองอ่อนแล้วชุบแป้งทอด ก่อนนำไปปรุงเป็นฉู่ฉี่รสเผ็ดร้อนแบบไทย เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยหุงสุกใหม่ ๆ นอกจากจะอร่อยจนชวนเจริญอาหารแล้ว ดอกฟักทองยังมีสรรพคุณ ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ขับลมในกระเพาะอาหาร และหากใช้ดอกบานก็สามารถช่วยแก้โรคตาบอดกลางคืนได้ดี

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 30 นาที ปรุง 20 นาที

•ดอกฟักทองอ่อน 18 ดอก
•กุ้งแชบ๊วยแกะเอาแต่เนื้อผ่าหลัง 200 กรัม
•เนื้อปูนึ่งสุก 1 ถ้วย
•มันกุ้ง 1 ถ้วย
•รากผักชีสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
•กระเทียม 10 กลีบ
•พริกไทย 1 ช้อนชา
•กะทิธัญพืช 1 ถ้วย
•น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
•น้ำปลา (1) 1 ช้อนโต๊ะ
•น้ำปลา (2) 3 ช้อนโต๊ะ
•แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
•น้ำเปล่า ¾ ถ้วย
•ไข่เป็ด(เฉพาะไข่แดง) 1 ฟอง
•พริกชี้ฟ้าสีเหลือง สีแดง หั่นแฉลบ 1/4 ถ้วย
•ใบมะกรูดหั่นฝอยสำหรับโรยหน้า
•กะทิธัญพืชผสมกับแป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย นำไปเคี่ยวจนข้นสำหรับราดบนฉู่ฉี่
•น้ำมันพืชสำหรับผัดเล็กน้อย
•น้ำมันพืชสำหรับทอด

ส่วนผสมพริกแกง

•พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดเมล็ดออกไปแช่น้ำจนนิ่ม 7 เม็ด
•ข่า 7 แว่น
•ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
•หอมเล็กซอยบางตามขวาง 5 หัว
•กระเทียม 5 กลีบ
•พริกไทย 20 เม็ด
•ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
•กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1.โขลกส่วนผสมพริกแกงรวมกันให้ละเอียดพักไว้
2.ตำรากผักชีกระเทียมพริกไทยรวมกันพักไว้ในครก ล้างกุ้งให้สะอาด ซับด้วยกระดาษทิชชูหรือผ้าให้แห้ง ใส่ลงในครกใบเดิม ตำจนกุ้งละเอียด เหนียว และเข้าเนื้อกับเครื่องเทศดี ตักออกจากครกใส่ลงภาชนะ เติมน้ำปลา (1) นวดให้เข้ากัน ใส่เนื้อปูลงไป ใช้มือนวดเคล้าพอเข้ากันอย่าให้เนื้อปูแตก
3.ตัดก้านดอกฟักทองให้ห่างจากฐานดอกประมาณ 3 นิ้ว แล้วจับดอกฟักทองสามดอกรวบเข้าด้วยกัน นำส่วนผสมในข้อสองปั้นหุ้มก้านฟักทองให้ชิดฐานรองดอก เว้นก้านส่วนปลายไว้เล็กน้อย ทำอย่างนี้จนส่วนผสมและดอกฟักทองหมดพักไว้
4.ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำและไข่แดงคนให้เข้ากันพักไว้
5.ใส่น้ำมันลงในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟให้ร้อน ลดไฟลงเป็นไฟกลาง นำดอกฟักทองที่เตรียมไว้ ชุบส่วนผสมแป้ง แล้วทอดจนสุกเป็นสีทองสวย ตักขึ้นซับน้ำมันพักไว้
6.ตั้งกระทะอีกใบ ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันพืชเล็กน้อยจนขึ้นสีสวย ใส่กะทิธัญพืชลงไปผัดจนเข้ากันดี เมื่อกะทิเดือดจัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา (2) น้ำตาล แล้วใส่ดอกฟักทองทอดลงไปเคล้า โรยพริกชี้ฟ้า ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยกะทิ ใบมะกรูดซอย ตามชอบ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย


แกงต้มส้มต้มกะปิใส่ดอกอโศก



ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เวลาเตรียม 30 นาที เวลาปรุง 15 นาที

•กุ้งนาง 4 ตัว
•แตงโมอ่อนผ่า 8 ส่วน 3 ผล
•ดอกอโศกน้ำ 1 กำมือ
•น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
•น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา
•น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
•น้ำเปล่า 4 ถ้วย
•ไข่เป็ด 1 ฟอง
•น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมน้ำพริกแกง
•พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดเอาเมล็ดออกแช่น้ำจนนิ่ม 7 เม็ด
•พริกขี้หนูแห้งกรีดเอาเมล็ดออกแช่น้ำจนนิ่ม 5 เม็ด
•หอมเล็กปอกเปลือก 7 หัว
•กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 7 กลีบ
•ปลาช่อนแห้งนึ่งจนนิ่ม หรือปลาช่อนแดดเดียวย่าง แกะเอาแต่เนื้อ 1/4 ถ้วย
•กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
•เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1.แกะเปลือกกุ้งโดยเว้นหัวและหางไว้ ตัดกรีและหนวดทิ้ง ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก ล้างให้สะอาดพักไว้
2.เด็ดดอกอโศกออกจากก้านดอก ล้างน้ำอย่างเบามือ พักใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
3.โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงรวมกัน โดยเริ่มจาก โขลกพริกทั้งสองชนิดกับเกลือจนละเอียด จึงใส่หอมลงโขลก ตามด้วยกระเทียม กะปิ เนื้อปลา โขลกจนส่วนผสมละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
4.ต้มน้ำให้เดือด ใส่น้ำพริกแกง คนให้ละลาย ใส่แตงโมอ่อนลงต้มเมื่อใกล้สุก จึงใส่กุ้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก ต้มต่อสักครู่
5.ตอกไข่ใส่ชามตีให้เข้ากัน โรยลงในหม้อแกง ไม่ต้องคน แล้วใส่ดอกอโศกลงไป ปิดฝาทันที ทิ้งให้เดือดสักครู่ ปิดไฟ เปิดฝา บีบมะนาว คนเบา ๆ พอเข้ากัน ตักเสิร์ฟพร้อมกับไข่เจียวดอกไม้และข้าวหุงดอกอัญชัน


ทอดมันกุ้งดอกเฟื่องฟ้า



มื้อเย็นนี้จึงขอเปิดสำรับด้วย ทอดมันเฟื่องฟ้า สีสวย รสเข้มข้น เนื้อทอดมันหนึบหอมกลิ่นน้ำพริกแกงที่ตำเองกับมือ รับรองว่าใครได้เห็นและได้ชิม ต้องหลงรักอาหารเรียกน้ำย่อยจานนี้ เป็นลางดีว่าภายภาคหน้าชีวิตรักคงเฟื่องฟูอย่างแน่นอน

ส่วนผสมสำหรับทอดมัน 20-25 ชิ้น
เวลาเตรียม 45 นาที เวลาปรุง 20 นาที

•กุ้งแชบ๊วยแกะเอาแต่เนื้อ ผ่าหลังดึงเส้นดำทิ้ง 150 กรัม
•ดอกเฟื่องฟ้าสีตามชอบ 20-25 ดอก
•น้ำปลา 1/4 ช้อนชา
•พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
•ใบมะกรูดซอยละเอียด 2 ใบ
•ถั่วฝักยาวซอยบางตามขวาง 1/4 ถ้วย
•น้ำมันสำหรับทอด
ส่วนผสมน้ำพริกแกง
•พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดนำเมล็ดออกแช่น้ำจนนิ่ม 1 เม็ด
•พริกขี้หนูแห้งกรีดนำเมล็ดออกแช่น้ำจนนิ่ม 2 เม็ด
•หอมเล็กซอยบางตามขวาง 1 ช้อนโต๊ะ
•กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 8 กลีบ
•ข่าสับหยาบ 1/2 ช้อนโต๊ะ
•ตะไคร้ซอยบาง 1 ช้อนโต๊ะ
•ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนชา
•รากผักชีสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
•ลูกผักชีคั่วไฟอ่อนจนหอม 1/4 ช้อนชา
•ยี่หร่าคั่วไฟอ่อนจนหอม 1/4 ช้อนชา
•เกลือ 1 ช้อนชา
•กะปิ
ส่วนผสมอาจาด
•น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
•น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
•น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
•เกลือ 1 ช้อนชา
•แตงกวาซอยบาง 1/4 ถ้วย
•หอมเล็กหรือหอมแขกซอยบางตามขวาง 1/4 ถ้วย
•พริกชี้ฟ้าสีเหลือง และสีแดง ซอยบางตามขวาง 1/4 ถ้วย

วิธีทำ

1.ทำอาจาด โดยผสมน้ำตาล น้ำเปล่า น้ำส้มสายชูลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปรุงรสด้วยเกลือ เคี่ยวต่อจนเหนียวดี ปิดไฟ พักให้เย็น เทใส่ถ้วย ใส่แตงกวา หอม และพริกชี้ฟ้า ลงไป คนเล็กน้อย พักไว้
2.ทำทอดมันโดยเริ่มจาก ตำพริกกับเกลือจนละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี ลูกผักชี ยี่หร่า โขลกจนละเอียด แล้วจึงใส่หอม กระเทียม และกะปิ ตำจนเนียนเข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้
3.ล้างกุ้งให้สะอาด ซับด้วยกระดาษทิชชู หรือผ้าให้แห้ง ใส่ลงครกแล้วตำกุ้งจนละเอียดและเหนียว ใส่น้ำพริกแกงในข้อหนึ่งลงตำให้เข้ากันดี ตักส่วนผสมออกจากครก ใส่ลงในชามนวดต่ออีกสักพักจนส่วนผสมเหนียว ใส่ใบมะกรูดซอยและถั่วฝักยาว น้ำปลาและพริกไทยป่น นวดจนเข้ากัน พักไว้
4.ล้างดอกเฟื่องฟ้าให้สะอาด ซับให้แห้ง นำส่วนผสมทอดมันปั้นเป็นก้อนแล้วยัดใส่ตรงกลางดอกเฟื่องฟ้า ทำอย่างนี้จนส่วนผสมและดอกไม้หมด
5.ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่ดอกเฟื่องฟ้าที่ยัดไส้แล้วลงทอดจนสุก ตักขึ้นซับน้ำมัน เสิร์ฟทันทีคู่กับอาจาด


แกงจืดลูกรอกดอกไม้จีน



ปิดสำรับด้วยแกงจืดแบบไทย ”อย่างแกงจืดลูกรอก” ที่ต้องใช้เวลาปรุงนานสักหน่อยแต่รับรองอร่อยไม่ผิดหวัง
สูตรนี้เพิ่มดอกไม้จีนลงไป เพื่อให้ได้สรรพคุณ ช่วยผ่อนคลาย เป็นยาบำรุงประสาท ทำให้นอนหลับสบาย ส่งคุณให้หลับฝันหวานในค่ำคืนของเดือนแห่งความรักนี้ อย่างสุขใจ

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่ )
เตรียม 45 นาที ปรุง 2 ชั่วโมง 30 นาที
ส่วนผสมลูกรอก

•ไข่ไก่ 3 ฟอง
•ไข่เป็ด(เฉพาะไข่แดง) 3 ฟอง
•ไส้อ่อนหมูตัดพังพืดสีขาวทิ้ง แล้วตัดส่วนไส้ให้ได้ความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร
•น้ำปูนใส 1 ถ้วย
•เกลือ 4 ช้อนโต๊ะ
•น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
•น้ำสำหรับต้มลูกรอก
•เชือกสำหรับมัดปลายลูกรอก
ส่วนผสมสำหรับแกง
•กุ้งกุลาดำตัดหัวทิ้ง แกะเปลือก เว้นหาง ผ่าหลัง ดึงเส้นดำทิ้ง ล้างสะอาด 6 ตัว
•ดอกไม้จีนแช่น้ำจนนิ่ม 20 ดอก
•รากผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
•กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 7 กลีบ
•พริกไทยดำเม็ดคั่วจนหอม 1/4 ช้อนโต๊ะ
•น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
•น้ำมันหอย ½ ช้อนโต๊ะ
•น้ำมันกระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
•น้ำเปล่า 4 ถ้วย
•ผักชีซอยหยาบสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

1.ใช้มือรีดไส้หมูให้เมือกด้านในไส้หลุดออก แล้วใส่ไส้ลงในชามใบโต โรยเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ขยำให้ทั่วแล้วล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้น ใช้ตะเกียบกลับไส้ด้านในออกมา โรยเกลือ1 ช้อนโต๊ะ ขยำจนทั่ว ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งใส่น้ำปูนใสลงไปแช่ไว้ประมาณ 1-2 นาที จากนั้นใช้มือคนแล้วเทน้ำทิ้ง โรยเกลือ 1 ช้อนโต๊ะและขยำไส้อีกครั้ง ล้างออก จากนั้นใช้ตะเกียบกลับไส้ให้เหมือนเดิมใส่เกลือ1 ช้อนโต๊ะ ขยำให้ทั่ว ล้างให้สะอาด พักใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2.ตอกไข่ใส่ชามตีให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา พักไว้
3.ใช้เชือกมัดด้านปลายด้านหนึ่งของไส้ แล้วกรอกไข่ใส่ลงไปในไส้จนหมด ใช้เชือกมัดปลายอีกข้างหนึ่งให้แน่น พักไว้
4.นำหม้อใบโตใส่น้ำยกขึ้นตั้งไฟ นำชามอะลูมิเนียมวางบนปากหม้อให้พอดี ใส่น้ำลงในชาม แล้วใส่ลูกรอกลงต้ม
ขั้นตอนนี้เมื่อน้ำในอ่างร้อนต้องคอยตักออกแล้วเติมน้ำลงไป เพื่อคุมอุณหภูมิน้ำให้ร้อนแต่ไม่เดือดเพื่อไม่ให้ลูกรอกแตก ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนเส้นลูกรอกสุก โดยสังเกตจากสีของไข่ในลูกรอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองขุ่นและเส้นลูกรอกจะลอยเมื่อจับดูเนื้อจะแข็งแน่นดี ถือว่าใช้ได้ (ขั้นตอนนี้ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง)
5.นำลูกรอกที่สุกแล้วขึ้นจากน้ำ หั่นเป็นท่อนความยาวประมาณครึ่งนิ้ว แล้วใช้มีดกรีดบนผิวหน้าตัดของลูกรอกเบา ๆ เป็นกากบาท เตรียมไว้
6.ใช้หม้ออีกใบต้มน้ำด้วยไฟกลางเพื่อเตรียมทำแกงจืด ระหว่างรอน้ำเดือด ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทย รวมกันให้ละเอียด เมื่อน้ำเดือดจึงใส่เครื่องเทศดังกล่าวลงไปคนให้ละลายดี ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมันหอย ใส่กุ้ง แล้วมัดดอกไม้จีนใส่ลงไป ตามด้วยลูกรอก ต้มจนน้ำแกงเดือด และไส้รัดตัวลูกรอกจนมีลักษณะคล้าย รอกจริง ๆ และรอยกรีดบนหน้าตัดบานเป็นลักษณะคล้ายดอกไม้ ปิดไฟ โรยผักชี ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟขณะร้อน





ขอบคุณสูตรอาหารสุขภาพและความรัก
จาก//www.healthandcuisine.com/recipeView.aspx?cId=23&aId=1727



Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2554 9:41:18 น. 0 comments
Counter : 1768 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
13 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.