สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
รวมสูตรขนมไทยเย็นฉ่ำรับลมร้อนจ้า

ข้าวต้มน้ำวุ้น





ส่วนผสม

ข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
น้ำดอกไม้สด 2 ถ้วยตวง
ใบตองตานีฉีกกว้าง 1 นิ้ว
น้ำแข็งทุบละเอียด


วิธีทำ

1. เลือกสิ่งสกปรกออกจากข้าวเหนียว
2. ซาวข้าวเหนียวให้สะอาด แช่น้ำไว้สักครู่ในหม้อเคลือบ ต้มให้เดือด
3. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลและน้ำดอกไม้ลงในหม้อเคลือบ ต้มให้เดือด
4. พับใบตองตานีเป็นรูปสามเหลี่ยม เอาข้าวเหนียวใส่ พับกลับไปกลับมาจนสุดใบตอง ใช้ไม้กลัด กลัดใบตอง นำไปต้มจนสุก รินน้ำทิ้ง ตั้งไว้ให้เย็น
5. เวลาจะรับประทาน แก้ห่อใบตองออก เอาข้าวเหนียวใส่ถ้วย ใส่น้ำเชื่อม และน้ำแข็งทุบ





ซ่าหริ่ม





ส่วนผสม

แป้งถั่วเขียว 5 ถ้วยตวง
น้ำใบเตย 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
น้ำดอกมะลิ 6 ถ้วยตวง
มะพร้าว 1/2 ถ้วยตวง
น้ำ 5 ถ้วยตวง


วิธีทำ

1. นำแป้งผสมกับน้ำใบเตย น้ำ กรองให้สะอาด ใส่กระทะทอง กวนให้สุก
2. นำเครื่องกดซ่าหริ่ม วางบนถังน้ำเย็นใส่แป้งที่คนไว้กดให้ตัวยาว เปลี่ยนน้ำเย็นอีก 1 ครั้ง แช่ให้ตัวซ่าหริ่มเย็น
3. ผสมน้ำดอกมะลิกับน้ำตาล ตั้งไฟเคี่ยวให้เป็นยางมะตูม
4. คั้นกะทิเอาหัวกะทิ 2 ถ้วยตวง ตั้งไฟให้เดือด (ต้องคอยคนอย่าให้เป็นลูก)
5. เวลาจะรับประทาน ตักตัวซ่าหริ่มผสมน้ำเชื่อมและหยอดหัวกะทิ ใส่น้ำแข็ง





แตงไทยน้ำกะทิ





ส่วนผสม

แตงไทยสุกหนัก 800 กรัม 1 ผล
น้ำแข็งทุบละเอียด 2 ถ้วยตวง
กะทิขาวข้นปานกลางคั้นด้วยน้ำดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 1/3 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา


วิธีทำ

1. ล้างแตงไทยทั้งเปลือกให้สะอาด ตัดขวางผลกว้าง 1 นิ้ว ปอกเปลือกออก คว้านไส้ออกหั่นหนา 1/2 นิ้ว ตวงได้ 6 ถ้วยตวง
2. ทำน้ำกะทิโดยผสมส่วนผสมทั้งหมดรวมกัน คนให้ละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำส่วนผสมตั้งไฟอ่อนปานกลาง พอเดือดยกลง ควรตั้งไฟคนบ่อยๆ
3. วิธีเสิร์ฟ ตักแตงไทยใส่ถ้วยของหวานเฉพาะคน 1/3 ถ้วยตวง ใส่น้ำกะทิ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำแข็งทุบ 1 ช้อนพูน เสิร์ฟทันที





รวมมิตร





ส่วนผสม

น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
กะทิคั้นด้วยน้ำดอกไม้ 8 ถ้วยตวง
สาคูเม็ดใหญ่ลวก 1 ถ้วยตวง
ตัวลอดช่องสิงคโปร์ 2 ถ้วยตวง
ขนุนหั่น 2 ถ้วยตวง
ตัวครองแครง (ทำด้วยแป้งมันลวกสุก) 1 ถ้วยตวง
น้ำดอกไม้ 3 ถ้วยตวง


วิธีทำ

1. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำดอกไม้ กรองให้สะอาด เคี่ยวให้เป็นยางมะตูม
2. ผสมกะทิกับสาคู ลอดช่อง ขนุน
3. เวลาจัดเสิร์ฟ ตักส่วนผสมที่อยู่ในกะทิลงชามผสมน้ำเชื่อม และน้ำแข็งทุบ





ลอดช่องน้ำกะทิ





ส่วนผสม

ข้าวสาร 1 กิโลกรัม
น้ำดอกไม้ 10 ถ้วยตวง
มะพร้าว 1/2 กิโลกรัม
น้ำปูนใส 20 ถ้วยตวง
น้ำตาลโตนด 3 ถ้วยตวง
ใบเตย 15 ใบ


วิธีทำ

1. นำข้าวสารแช่น้ำอย่างน้อย 3 ชม. แล้วเทน้ำทิ้ง แช่น้ำปูนใสอีก 1 ชม. นำข้าวสารโม่ให้ละเอียด
2. หั่นใบเตยให้ละเอียด ตำ คั้นน้ำ 1/2 ถ้วยตวง
3. นำแป้งที่โม่ละเอียดแล้ว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน แป้งส่วนหนึ่งผสมกับน้ำ ใบเตย กวนให้สุกเหนียวทั้ง 2 สี (เขียว และขาว)
4. นำถังน้ำเย็นและที่กดลอดช่องวางบนถังน้ำ นำแป้งที่กวนแล้วขณะที่อุ่นๆ รีบกดให้ตัวขนมลงในน้ำเย็นจัด กดสีขาวก่อนจึงทำสีเขียว
5. เมื่อหมดแป้งแล้ว เทน้ำที่แช่ทิ้ง แช่ใหม่อีกครั้งแล้วช้อนขึ้นใส่ในผ้าขาวบาง แช่น้ำแข็งไว้
6. คั้นมะพร้าวด้วยน้ำดอกไม้
7. ละลายน้ำตาลด้วยควันเทียน
8. เวลาจะรับประทานตักตัวลอดช่องทั้ง 2 สี ใส่น้ำกะทิ น้ำแข็งไสหรือทุบ

หมายเหตุ สมัยโบราณ การกดลอดช่องทำโดยใช้กะลาเจาะรู





วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน





ส่วนผสม

วุ้นผง 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม
กะทิ 1/2 กิโลกรัม
เนื้อมะพร้าวอ่อน 2 ถ้วยตวง


วิธีทำ

1. ผสมน้ำกะทิและวุ้น คนให้ละลาย ตั้งไฟพอเดือด เคี่ยวให้พอเหนียว คนตลอดเวลา
2. ใส่น้ำตาลทราย มะพร้าวอ่อน พอเดือดอีกครั้งยกลง
3. เทใส่พิมพ์ พักไว้จนวุ้นแข็ง







ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก naichef






Create Date : 11 เมษายน 2552
Last Update : 11 เมษายน 2552 10:29:56 น. 1 comments
Counter : 9836 Pageviews.

 
มื้อเช้าขอข้าวต้มน้ำวุ้น
มื้อเที่ยงขอรวมมิตรไปเลย
มื้อเย็นเบาๆ ขอน้ำกะทิแตงไทยนะจ๊ะ อยากกินๆ
สุขสันต์วันสงกานต์ล่วงหน้าอ่ะจ้า


โดย: บ้านหวานเย็น วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:11:18:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
11 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.