ลิ้มอ่วงซุย ลูกชิ้นปลา ตลาดเก่า สัมพันธวงศ์ ร้านอยู่ที่ตลาดเก่า เยาวราช - เจริญกรุง ค่อนไปทางถนน เจริญกรุง ลูกชิ้นปลา รสชาติใช้ได้ แต่ยังเทียบร้านลูกชิ้นปลาชั้นนำไม่ได้ ส่วนลูกชิ้นกุ้งนี้ รสชาติใช้ได้เลย ราคาถูกกว่าร้านลูกชิ้นปลาทั่วไป   Create Date : 20 มิถุนายน 2554     0 comment Last Update : 27 กรกฎาคม 2554 10:17:12 น.     Counter : 6771 Pageviews.   Share Tweet

พาสตา ซอส Bolognese กระดูกหมูอ่อน ทำซอส Bolognese เนื้อ แล้ว ก็มีคนที่ไม่ทานเนื้อถามหาว่า เมื่อไรมี ซอส Bolognese ที่เป็นหมูดูบ้าง เลยนำเอากระดูกหมูอ่อน หรือ ซี่โครงหมูอ่อน มาทำซอส Bolognese นำไปราดพาสตาทาน และ นำไปทำบ๊ะจ่างแบบ fusion ดู พาสตาซอส Bolognese กระดูกหมูอ่อน กระดูกหมูอ่อนซื้อมาจากฟู้ดแลนด์ เนื้อหมูเยอะดี เอากระดูกหมูไปทอดก่อน ทอดให้ผิวนอกสุก ตอนทอดกระดูกหมู ก็จัดการหั่นเบคอนเป็นชิ้นเล็กๆ ไว้ พร้อมกับหั่นผักได้แก่ คึ่นใช่ฝรั่ง แครอท และ หอมหัวใหญ่ นำเบคอนไปรวนในหม้อที่ทอดกระดูกหมู ใส่ผักลงไปผัด ผัดไฟอ่อนประมาณ 5 นาที ผักสุก ใส่กระดูกหมูทอดลงไป พร้อมกับเติมไวน์แดง 1 ถ้วย นมสด 500 ซซ. มะเขือเทศบด 1/2 ถ้วย เติมน้ำให้ท่วมกระดูกหมู เคี่ยวไฟอ่อนๆ ไป 3 ช.ม. จนกระดูกหมูเปื่อย ซอส Bolognese ที่เคี่ยวไว้ 3 ช.ม. ตักกระดูกหมูเปื่อยๆ ขึ้นมาจากซอส ทั้งหมด ตอนนี้กระดูกหมูเปื่อยมาก ใช้ช้อนแกะเนื้อหมูออกมาจากกระดูกหมูทั้งหมด ขยี้เป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนกระดูกที่เหลือก็จัดการให้ลูกสมุนไปแทะเล่น ใส่เนื้อหมูคืนไปที่หม้อซอส เคี่ยวต่อไป 1 ช.ม. อีกจนเนื้อหมูเข้ากันกับซอส ซอส Bolognese กระดูกหมูอ่อน ซอส Bolognese นำไปราดพาสตา ใช้พาสตา Gnocchi Sardi เป็นพาสตาของเกาะซาร์ดิเนีย รูปร่างเหมือนตัวหนอน ต้มพาสตาไป 10 นาที จนนิ่มแบบเป็นไต พาสตา ซอส Bolognese กระดูกหมูอ่อน ซอส Bolognese กระดูกหมูอ่อนนี้ รสชาติจะดีกว่า ใช้หมูสับมาก เพราะเนื้อกระดูกหมูอ่อนนิ่ม มีพังผืดและกระดูกหมูอ่อนกรุบ   Create Date : 20 มิถุนายน 2554     7 comment Last Update : 6 มีนาคม 2556 18:10:11 น.     Counter : 5645 Pageviews.   Share Tweet

RAGU - ซอส Bolognese เนื้อ ราดพาสตาTagliatelle สด ทำพาสตาสด เส้นแบน Tagliatelle ราดด้วยซอสเนื้อ Bolognese ขนานแท้ RAGU หรือ Bolognese Sauce เป็นซอสเนื้อสำหรับราดเส้นพาสตาหรือทำสาซานยา มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Bologna ประเทศอิตาลี จัดเป็นซอสพาสตาที่นิยมทานกันมากที่สุดในโลก และ มีสูตรการทำหลากหลายมาก เพราะแม่บ้านาอิตาเลียนต้องทำซอสนี้เป็น และแต่ละบ้านก็จะมีสูตรที่ตกทอดกันมาตั้งแต่คุณย่า คุณ ทวด ต่อ มาชาวอิตาลีก็อพยพไปยังที่ต่างๆ ในโลก ก็มีการนำซอสเนื้อนี้ไปด้วย ยิ่งห่างอิตาลี สูตรก็มีการเปลี่ยนแปลงไป และได้นำซอสนี้ไปทานร่วมกับเส้นสปาเกตตี จนมีชื่อเป็น "Spaghetti alla Bolognese" ซึ่งเป็นอาหารที่มีอยู่ตามร้านพิซซาพวกฟาสฟูดทั้งหลาย ต่อ มาบรรดาชาวอิตาเลียน พวกพ่อครัว แม่ครัว ทั้งหลาย รู้สึกว่า ซอส ฺBolognese นี้เพี้ยนไป น่าจะทำการค้นคว้าหาสูตรดั้งเดิมที่แท้จริง ออกมา ภารกิจนี้ได้ดำเนินการโดย สถาบัน "Accademia Italiana della Cucina" ที่มีชื่อเสียง ในวันที่ 17 ตุลาคม 1982 ทางสถาบัน AIC จึงได้ประกาศสูตร ซอส Bolognese ออกมาอย่างเป็นทางการ ใน เมือง Bologna ประเทศอิตาลี ซอส Bolognese จะทานคู่กับพาสตา Tagliatelle (พาสตาเส้นแบน) เท่านั้น จะไม่ทานกับเส้นสปาเกตตีเพราะว่า เส้นสปาเกตตีกลมไม่สามารถที่ซึมซับน้ำซอสได้ดีเท่าพาสตาเส้นแบน ซอส Bolognese ของแท้ดั้งเดิม จะใส่มะเขือเทศบด (paste) หรือ มะเขือเทศสับ ไปนิดหน่อยเท่านั้น ใน ขณะที่ ซอส Bolognese ที่อื่นๆ (นอกอิตาลี) จะใส่ซอสมะเขือเทศปริมาณมาก เป็นส่วนผสมหลัก และทานกับเส้นสปาเกตตี เรียกว่า Spaghetti alla Bolognese. เครื่องปรุง ซอส Bolognese สูตรใกล้เคียงของแท้ - เนื้อบด 1 กก. - pancetta (อิตาเลียนเบคอน) ใส่เบคอนแทน 300 กรัม - แครอท 2 หัว - ซาลารี (คึ่นใช่ฝรั่ง) 1 ถ้วย - หอมใหญ่ 2 หัว - ไวน์แดง 1 ถ้วย (ที่เหลือไว้ดื่มตอนเคี่ยวน้ำซอส) - นมสด 2 ถ้วย - มะเขือเทศบด (Tomato Paste) 1/4 ถ้วย เบคอนหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นผักเป็นชิ้นเล็กๆ เอาเบคอนลงไปผัดในหม้อก่อน ให้คลายน้ำมันออกมาหน่อย ใส่ผักลงไปผัดด้วย ผัดประมาณ 7 - 8 นาที ไฟอ่อนๆ จนผักสุก ตักผักและเบคอนขึ้นมาก่อน ใส่น้ำมันมะกอกลงไปในหม้อ 4 ช้อน ใส่เนื้อลงไปผัด ผัดจนเนื้อสุก เทไวน์แดง และ นมสดลงไป ผัดให้เข้ากัน ใส่ผักที่ผัดไว้ลงไป และเติม มะเขือเทศบด คลุกให้เข้ากัน หรี่ไฟอ่อนๆ เคี่ยวซอสไปเรื่อยๆ เคี่ยวซอสไป 4 ช.ม. ได้ ซอส Bolognese ระหว่างเคี่ยวซอสเนื้อ ก็มาทำพาสตาสด ใช้แป้งสาลีทำขนมปัง 200 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง ผสมกัน นวดให้เข้ากันเป็นก้อน พักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาที นำแป้งมารีดเป็นแผ่น และ ตัดเป็นเส้น Tagliatelle ต้มน้ำ ลวกเส้น พาสตาสด ลวกแบบเป็นไตนิดหน่อย พาสตาสด Tagliatelle ราดซอสเนื้อ Bolognese รสชาติเข้มข้น ทานพาสตาไป จิบไวน์ไปด้วย   Create Date : 17 มิถุนายน 2554     5 comment Last Update : 17 มิถุนายน 2554 17:01:04 น.     Counter : 12442 Pageviews.   Share Tweet

ปลาหมึกยัดใส้ ราดพริกแกงเขียวหวาน ปลาหมึกตัวเล็ก นำมายัดใส้หมู นึ่งให้สุก นำมาราดด้วยพริกแกงเขียวหวานข้นๆ ปลาหมึกสดตัวเล็ก นำหมูสับมาคลุกกับสามเกลอ (รากผักชี พริกไทย กระเทียม) ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่แป้งนิดหน่อยให้เหนียวๆ นำไปยัดในตัวปลาหมึก เนื่องจากทำครั้งแรก เลยลองทำปลาหมึก 1 ตัวก่อน ใส่ใส้อย่าให้เต็มเพราะตอนนึ่ง เนื้อปลาหมึกจะหดตัวลง บีบไส้ทะลักออกมา วางปลาหมึกบนถ้วยใบเล็กนำไปนึ่ง นึ่งประมาณ 3 นาที ปลาหมึกยัดไส้นึ่งสุกแล้ว ไส้ไม่ทะลักออกมา แปลว่าสูตรนี้ถูกต้อง ปลาหมึกยัดใส้ หั่นเป็นแว่นๆ ปลาหมึกยัดไส้ นำไปนึ่ง สุกแล้ว ไส้โผล่มานิดหน่อย หนวดปลาหมึกเหลืออยู่เลยนำไปนึ่งมะนาว วางหนวดปลาหมึกสดบน ตระใคร้และข่า วางหมูบดที่เหลือลงไปด้วย นึ่งให้สุก เอาพริกขี้หนูตำใส่น้ำมะนาวและน้ำปลานิดหน่อย (รสมะนาวนำ) ราดไปบนหนวดปลาหมึก หนวดปลาหมึกนึ่งมะนาว ตั้งกระทะ เคี่ยวหัวกะทิให้ข้น ใส่เครื่องแกงเขียวหวานลงไป กวนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา นำไปราดปลาหมึกยัดไส้ที่หั่นเป็นแว่นๆ ไว้ ปลาหมึกยัดไส้ราดพริกแกงเขียวหวาน ทานกับข้าวสวย ไข่ต้มยางมะตูม อร่อยดี ปลาหมึกยัดไส้นี้ นำไปประกอบอาหารต่างๆ ได้เยอะ ทำง่ายๆ เด็ก ผู้ใหญ่ ชอบทานทั้งนั้น   Create Date : 16 มิถุนายน 2554     8 comment Last Update : 16 มิถุนายน 2554 9:03:48 น.     Counter : 5021 Pageviews.   Share Tweet

เมนูไข่ เมนูไข่ แกงกะหรี่หมูหุ้มไข่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=29-04-2011&group=2&gblog=447 แซนด์วิชสลัดไข่ต้ม //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=16-02-2011&group=2&gblog=415 ไข่เจียวเห็ดเข็มทอง ด้วยเตาไมโครเวป //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=30-06-2010&group=2&gblog=260 ไข่เจียวหมูสับ +ไข่เค็มดิบ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=22-04-2010&group=2&gblog=215 แกงเคย- ปู - ไข่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=22-03-2010&group=2&gblog=203 ไข่คนปลาแซลมอนรมควัน //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=18-03-2009&group=2&gblog=96 ปอเปี้ยะหมู-ไข่แดง แบบ Tunesia //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=17-02-2009&group=2&gblog=88 ไข่ก้อนญี่ปุ่น //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=03-04-2008&group=2&gblog=35   Create Date : 15 มิถุนายน 2554     0 comment Last Update : 29 มิถุนายน 2555 15:48:48 น.     Counter : 2260 Pageviews.   Share Tweet