พาสต้า Anglehair ผัดขี้เมา กลับไปที่บ้านตอนเย็น เขากำลังเตรียมทำหมูผัดกระเพราะอยู่พอดี ก็ไปจัดการยึดกระเพราหมูมา ทำพาสต้าผัดขี้เมาแทน เพราะเกิดความอยากทาน พวกเส้นๆ พาสต้าที่ใช้เป็นเส้น Angel Hair เส้นขนาดเล็ก นุ่ม มีเหลืออยู่ครึ่งห่อพอดี สามารถผัดได้ 1 โถ เครื่องปรุงที่ใช้ก็มี หมูสับ เห็ดเข็มทอง ต้นกระเทียม ใบกระเพรา พริกตำ ใบมะกรูด หมูสับ พริก กระเทียม ตำ เห็ดเข็มทอง ต้นกระเทียม จัดการซอยเป็นชิ้นเล็กๆ ด้วยมีดซอย ตั้งกระทะ รวนพริกตำ กระเทียมก่อน ตอนนี้กลิ่นพริกและกระเทียมฟุ้งแรงมาก เติมหมูสับลงไปผัด ตามด้วยเห็ดเข็มทอง ต้นกระเทียมสับ และใบกระเพรา ปรุงรสด้วย ซีอิ้วดำ น้ำปลา พร้อมทั้งเติมน้ำซุปไป 1 ถ้วย เหล้าจีน 2 ช้อน ช่วงนี้ก็ไปจัดการลวกเส้น Angel Hair ในน้ำเดือด ลวกเพียง 2 นาทีเท่านั้น ตักเส้นใส่ลงในกระทะ คลุกให้เข้ากัน ตักใส่โถแก้ว Angel hair ผัดขี้เมา สูตรแบบมั่วๆ ครั้งหน้าเวลาทำผัดขี้เมา จะใส่ พริกไทยอ่อนเพิ่ม น่าจะทำให้หอมขึ้น หรือ อาจจะเอาพริกแห้งไปทอดในน้ำมันก่อน แล้วใช้น้ำมันพริกผัดต่อ รสชาติน่าจะร้อนแรงมากขึ้น   Create Date : 25 มิถุนายน 2552     8 comment Last Update : 25 มิถุนายน 2552 16:43:50 น.     Counter : 3899 Pageviews.   Share Tweet

ขนมจีนน้ำยาปลาดุกแบบอิสาน อาหารอิสานจัดเป็นอาหารไทยที่แพร่หลายมากที่สุดในประเทศไทย เหนือจดใต้ ตะวันออกจดตะวันตก ท่านจะหาอาหารอิสานทานได้ โดยเฉพาะส้มตำ ตามมาด้วย ลาบ น้ำตก แกงอ่อม และ อื่นๆ ทางอิสานก็มีน้ำยาขนมจีนแบบอิสาน ซึ่งเป็นอาหารที่ไม่ค่อยจะแพร่ไปที่อื่นมาก มีเฉพาะย่านอิสาน ที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ น้ำยาที่โคราช น้ำยาอิสานเป็นน้ำยาป่า ไม่ใช้กระทิ ใช้ปลาน้ำจืด เช่น ปลาช่อน ปลาดุก และที่ขาดไม่ได้คือ ต้องใส่ปลาร้า เป็นเครื่องชูรส ขนมจีนน้ำยาอิสานปลาดุก เครื่องปรุง - พริกขี้หนูแห้ง 40 เม็ด - หอมแดง 10 หัว - กระเทียม 10 กลีบ - กระชาย 1 ขีด - ตระใคร้ 3 ต้น - ปลาร้า - เนื้อปลาดุก 1 กก. พริกแห้ง หอม กระเทียม ตั้งน้ำในหม้อ 4 ถ้วย ใส่ตระใคร้ทุบลงไปในหม้อ พอน้ำเดือด ใส่ปลาดุกลงไปในหม้อ เนื้อปลาดุกสด ต้มจนสุก ตักปลาดุกขึ้นมาทั้งหมด แกะเอาแต่เนื้อปลาดุกไว้ทำน้ำแกงต่อ จากนั้นก็นำเอาพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม กระชาย ลงไปต้มต่อในหม้อ ต้มจนพริกแห้งนิ่ม ตัก กระชาย พริก หอม กระเทียม ขึ้นจากหม้อ นำ กระชาย พริก หอม กระเทียม ไปตำให้ละเอียดในครก แต่ขี้เกียจตำ เลยใช้เครื่องบดแทน เนื้อปลาดุกที่ต้มแล้วก็ไปใส่ครกตำให้ละเอียด (ใช้ Food Processor แทน) สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับน้ำยาอิสาน ปลาร้า นำปลาร้าไปต้มกับน้ำ 1 ถ้วยก่อน กรองเอาแต่น้ำปลาร้า ไปใส่ในน้ำที่ลวกปลาดุก เครื่องแกง ตามด้วยเครื่องแกงน้ำยาที่บดไว้และเนื้อปลาดุก ใส่ต้นหอมและใบมะกรูด ปรุงรสเค็มด้วยเกลือ ถ้าชอบรสหวานนิดๆ ก็เติมน้ำตาลปึกลงไป น้ำยาอิสานปลาดุก แนมขนมจีนด้วยผักสดต่างๆ ตามชอบ ถ้าทนกลิ่นปลาร้าไม่ได้ ก็ใช้กะปิแทนปลาร้า ใส่กะปิตอนตำเครื่องแกง นอกจากปลาดุก ปลาช่อนแล้ว เอาปูนามาทำน้ำยาอิสานก็ได้ ปูนา ขนมจีนน้ำยาอิสานปูนา ถ้าจะให้หรูหรา ไฮโซ ก็ใช้ กุ้งก้ามกรามทำน้ำยาอิสาน น้ำยาอิสานกุ้ง ถ้าชื่นชอบน้ำยาป่า ก็ลองทำน้ำยาแบบอิสานทานดูกันบ้าง ทำง่ายๆ   Create Date : 24 มิถุนายน 2552     7 comment Last Update : 24 มิถุนายน 2552 17:45:52 น.     Counter : 11987 Pageviews.   Share Tweet

ไก่อบตระใคร้ เมนูจากเวียดนาม อาหารเวียดนามจะมีตระใคร้และน้ำปลาเป็นเครื่องปรุงสำคัญ ส่วนประกอบ - ไก่บ้าน 2 ตัว - ตระใคร้ 3 - 4 ต้น ซอยละเอียด - หอมแดง 8 หัว - น้ำปลาอย่างดี - น้ำผึ้ง - พริกไทยดำ นำตระใคร้ หอมแดง พริกไทย ไปตำหรือบดให้ละเอียด ใส่น้ำปลา น้ำผึ้ง ผสมลงไป อย่าลืมชิมรสดูก่อน เค็ม + หวาน เอาไก่ลงไปหมัก ให้แทรกเครื่องหมักเข้าไประหว่างหนังไก่และเนื้อไก่ หมักไว้อย่างน้อย 2 ช.ม. ตั้งเตาอบ อุณหภูมิ 160 องศา ตอนอบไก่ ก็มีอุปกรณ์ ช่วยตั้งตัวไก่ให้อยู่ในแนวดิ่ง ได้มาจากนิวซีแลนด์ เอาไก่ที่หมักแล้ว สวมลงไป นำไปวางบนถาดอบ อบไป 2 ช.ม. ไก่ก็สุก ด้านบนหนังเกรียม หอมดี น้ำไก่ก็ใหลลงไปอยู่ในถาดข้างล่าง ไก่อบตระใคร้ จัดการสับเป็นชิ้นเล็กๆ แต่ฝีมือสับไก่แย่มาก เลยออกมาไม่สวยเหมือนตามร้าน รสชาติก็หอมตระใคร้และน้ำปลา พร้อมรสหวานของน้ำผึ้ง ทานกับข้าวเหนียว อร่อยดี ไก่อบตระใคร้เป็นอาหารง่ายๆ หอมกลิ่นน้ำปลาและตระใคร้ ใช้ไก่เป็นชิ้นทำได้เลย   Create Date : 24 มิถุนายน 2552     2 comment Last Update : 24 มิถุนายน 2552 16:23:52 น.     Counter : 12037 Pageviews.   Share Tweet

ข้าวหมกปลาแซลมอน Salmon Biryani ข้าวหมก เป็นอาหารอินเดีย ชื่อ Biryani แต่ Biryani นี้ ไม่ใช่อาหารอินเดียแท้ เป็นอาหารที่ได้รับมาจากทางเปอร์เซีย ตอนที่ราชวงศ์โมกุล เข้ามายึดอินเดีย และ ปกครองอินเดียอยู่นาน จนกระทั่งประเทศอังกฤษมาครอง Biryani จัดเป็นอาหารง่ายๆ เขาจะทำทานกันตอนเดินทาง เดิม Biryani จะเป็นพวก เนื้อแกะ เนื้อแพะ ไก่ เพราะเป็นอาหารมุสลิม และมาอยู่ที่อินเดีย ก็จะต้องไม่มีเนื้อ เพราะวัวเป็นพระเจ้า ส่วน Biryani ที่เป็น ปลา กุ้ง พวกนี้จะเกิดตอนหลัง Biryani คนไทยเรียกว่าข้าวหมก เพราะวิธีการทำ จะ นำเนื้อสัตว์มาแกงก่อนในหม้อ แล้วเอาข้าวปิดทับแกง หรือหมก ตั้งไฟอ่อนๆ จนข้าวสุก ชาวไทยถึงเรียกว่าข้าวหมกต่างๆ เมื่อวานเย็น ไปที่ คาร์ฟูรังสิต จะไปซื้อของมาทำอาหารเย็น ไปที่แผนกปลาเป็ฯปลาแซลมอนชิ้นโต ก็จัดการซื้อมา 1 ชิ้นใหญ่ จะมาทำข้าวหมกปลาแซลมอนทาน ข้าวหมกปลาแซลมอน เนื้อปลาแซลมอน ชิ้นโต หนัก 1 กก. หั่นเป็นชิ้นเล็ก หนา 1 ซ.ม. เอาผง Korma หรือแกงมัสมั่น ที่ซื้อจากร้านสุวรรณเครื่องเทศ บางรัก มาคลุกกับ โยเกริต รสธรรมชาติ 1 ถ้วย (150 กรัม) เอาปลาแซลมอน ลงไปหมัก ให้หมักทิ้งไว้ 30 นาที ตั้งกระทะ หรือ หม้อ นำหอมใหญ่ 2 หัว ซอยละเอียด ลงไปผัดกับน้ำมัน จนกระทั่งนิ่ม (ประมาณ 5 นาที) เอาปลาที่หมักไว้ลงใส่ลงไปในกระทะ ให้ระวังเพราะเนื้อปลานิ่ม ไม่งั้นเนื้อปลาจะแหลก เป็นชิ้นเล็ก ไม่สวย เติมโยเกริตเพิ่มไปอีก 1 กระปุก เติมน้ำอีกนิด ให้ท่วมปลา ตอนนี้ก็มาผัดและต้มข้าว ระหว่างรอให้ปลาสุก ตั้งหม้อใสน้ำ 2 ลิตร ต้มน้ำไว้ก่อน เพื่อจะต้มข้าวให้เป็นตากบ หรือ ต้มจนข้าวบาน แบบสมัยก่อน ที่หุงข้าวแบบเช็ดน้ำ เอาข้าวสาร 2 ถ้วยตวงแช่น้ำไว้ก่อนประมาณ 30 นาที ให้ใช้ข้าวที่ร่วน เช่น ข้าวขาวตาแห้ง ข้าวกอเดียว ข้าวหอมมะลิไม่ค่อยจะเหมาะเพราะมียาง นิ่มเกินไป ไม่ร่วน ตั้งกระทะอีก ใบ ใส่น้ำมัน 3 ช้อน เอากระเทียบสับ 1 หัวไปรวนในกระทะ เอาข้าวลงไปผัดกับกระเทียม ผัดพอให้น้ำมันเคลือบเม็ดข้าว แล้วถ่ายลงหม้อที่ต้นน้ำเดือดไว้ก้อน ใส่ อบเชยยาว 2 นิ้ว ลงไปในหม้อด้วย พอปลาสุก ให้ตักปลาออกมาก่อน เพราะถ้าเอาข้าวไปหมก เนื้อปลาจะแหลก ถ้าเป็นข้าวหมกไก่ แพะ แกะ ไม่ต้องตักออก จะเอาข้าวหมกทับไปเลย ตอนตักขึ้นให้ระวัง เพราะเนื้อปลานิ่ม เนื้อปลาแซลมอน น้ำแกงในกระทะที่ตักปลาออกแล้ว ปรุงรสเค็มด้วยเกลือ ในหม้อที่ต้มข้าว ต้มประมาณ 5 - 6 นาที เม็ดข้าวจะบาน (ตอนนี้ข้าวยังดิบอยู่) ให้เทข้าวลงตระแกง นำข้าวมาใส่ในกระทะหรือหม้อ เกลี่ยข้าวให้ทับแกงทั้งหมด (ไม่ใช่กวน) น้ำแกงจะอยู่ด้านล่าง หรี่ไฟเป็นไฟอ่อน ๆ (Simmer) แบบที่เขาดงข้าว เอาฝาปิดกระทะหรือหม้อไว้ ทิ้งไว้ 15 นาที ข้าวจะสุก ตอนนี้ ถ้าเป็นร้านอินเดีย เขาจะเอาสีเหลืองมาราดบนข้าวเพื่อให้ดูสวยงาม ตำรับของแท้ เขาจะใช้ Saffron หรือ หญ้าฝรั่น แต่ครั้งนี้ไม่ได้ใส่เพราะน้ำแกงมันมีสีเหลืองอยู่แล้ว ทำการคลุกข้าวที่สุกแล้วในกระทะ เอาปลาแซลมอนไปวางหน้า ปิดฝาอบอีก 5 นาที นำหอมเจียวมาโรยหน้า ยกเสริฟทั้งกระทะเลย ข้าวหมกปลาแซลมอน ทานกับน้ำจิ้มตามชอบ สูตรข้าวหมกนี้จะไปทางอินเดียมากกว่าข้าวหมกไก่ของไทย ถ้าจะทำข้าวหมกไก่ ถ้าไม่ใช้เครื่องแกงมัสมั่นของร้านสุวรรณเครื่องเทศ ให้ใช้ผงกระหรี่ 2 ช้อน ปนกับ เครื่องแกงเผ็ด 1 ช้อน ทำการหมักไก่กับโยเกริตก่อน หรือจะใช้ผงทำข้าวหมกไก่ที่มีขายเป็นซองก็ได้ หม้อที่ใช้ ก้นต้องหนา ไม่งั้นตอนที่ดงข้าว ข้าวจะไหม้ หรือใช้หม้อเทฟลอนแทนได้ ทั่วไปเขาจะหุงด้วยหม้อ ที่ใช้กระทะหุงเพราะตั้งใจจะยกเสริฟทั้งกระทะเลย แบบ Paella ข้าวหมกปลานิล ข้าวหมกไก่ให้ทำแบบเดียวกับ ข้าวหมกซี่โครงหมู ซี่โครงหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยแล้ว เอาข้าวสารที่ต้มไว้จนบานมา กลบหน้าซี่โครงหมู เอาสีเหลืองและสีแดง (สีสำหรับทำอาหาร) ราดข้าว แบบร้านอินเดียที่เขาทำข้าวหมก หรือ Biryani ปิดฝาดงข้าวไว้ 15 นาที ข้าวสุก ทำการคลุกข้าวในกระทะ ข้าวจะมีสีขาว เหลือง แดง ปนกัน สวยดี โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ข้าวหมกซี่โครงหมู (Pork Spare Ribs Biryani) ว่างๆ ลองทำ Biryani กันดู ง่ายมากๆ   Create Date : 24 มิถุนายน 2552     9 comment Last Update : 1 พฤษภาคม 2555 10:16:40 น.     Counter : 12280 Pageviews.   Share Tweet

แกงพริกซี่โครงหมูอ่อน แกงพริกเป็นอาหารปักษ์ใต้ เป็นประเภทเดียวกับแกงป่าของทางภาคกลางคือ ไม่ใช้กระทิ สิ่งที่แตกต่างกับแกงป่าคือเครื่องเทศ แกงพริกจะใส่ ขมิ้น ส่วนแกงป่าจะใส่กระชาย แกงพริกจะมีรสเผ็ดจัดเพราะใช้พริกขีหนูแห้งปริมาณเยอะ และน้ำแกงจะเข้มข้น ส่วนแกงป่า ที่ กทม. น้ำจะใส รสชาติไม่ค่อยจะเผ็ด แต่ถ้าเป็นแกงป่าของกาญจนบุรี รสชาติจะเผ็ดร้อนเพราะใช้พริกกระเหรี่ยง แกงพริกก็จะมีทั้ง ซี่โครงหมู ปลาทะเลต่างๆ เช่น ปลากระพง ปราทราย เป็นต้น แกงพริกซี่โครงหมูอ่อน ซี่โครงหมูอ่อนที่ซื้อมาจากห้างคาร์ฟู ชิ้นโต มีเนื้อหมูติดกระดูกอ่อนเยอะดี ไม่เหมือนตามเขียงในตลาดที่มีแต่กระดูก มาที่บ้าน ก็จัดการใช้หม้อความดันต้มซี่โครงให้เปื่อยนิ่มก่อน สาเหตุที่ใช้หม้อความดันเพราะตอนเย็นแล้ว ไม่มีเวลาเคี่ยว เครื่องแกงพริก - หอมแดง 4 หัว - กระเทียม 2 หัว - พริก 40 เม็ด - ตระใคร้ 2 ต้น - ข่า 4 - 5 แว่น - ขมิ้น ยาว 2 ซ.ม. - พริกไทย 1 ช้อน - ผิวมะกรูด - กะปิ 1.5 ช้อน จัดการปั่นเครื่องแกงในครกไฟฟ้า (Blender) เร็วดี ตั้งหม้อใส่น้ำซุปกระดูกหมูและเครื่องแกงลงไปในหม้อ เติมกระดูกหมูที่ต้มเปื่อยแล้วลงไป พร้อมทั้งน้ำซุปให้พอท่วมกระดูกหมู ตั้งจนเดือด ปรุงรสด้วย เกลือ และน้ำตาลปึก ตามรสที่ท่านชอบ พอเดือดก็เติมมะเชือยาวลงไป หรือจะใส่ผักอื่น เช่น มะเขือเปาะ มะเขือพวง ตามชอบ ตั้งไฟจนเดือด ปิดฝาหม้อ ดับไฟ ทิ้งไว้ 10 นาที มะเขือยาวก็นิ่มพอดี แกงพริกกระดูกหมู มะเขือยาว รสชาติ ตักมาทานคำแรก จะรู้สึกเผ็ดร้อน พอทานไป เรื่อยๆ ความเผ็ดก็เริ่มจะหายไป ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้ทานแกงพริก ดังนั้น ครั้งหน้า จะใส่พริก 50 เม็ด จะได้เผ็ดให้เหมือนแกงพริก เพื่อนๆ ว่างๆ ก็ลองทำแกงพริกทานกันดู ง่ายๆ   Create Date : 09 มิถุนายน 2552     7 comment Last Update : 2 สิงหาคม 2553 16:56:42 น.     Counter : 19430 Pageviews.   Share Tweet