ผัดหอยแมลงภู่ หรือ หอยแมลงภู่ผัด

สูตรหอยแมลงภู่ผัดนี้ได้มาจากร้านอาหารจีนที่สวีเดน
หอยแมลงภู่ในเขตน้ำเย็นจะมีแบบตัวเล็กและตัวโต เนื้อหอยจะนิ่มมาก
ตามร้านอาหารฝรั่งเขาก็จะเป็นหอยแมลงภู่อบไวน์ขาวเป็นหลัก
ร้านจีนก็มีการดัดแปลงเอาหอยแมลงภู่มาผัดกับกระเทียมใส่ซีอิ้ว น้ำมันหอย รสชาติอร่อยมาก ก็เลยมาทดลองทำดู โดยใช้หอยแมลงภู่ไทย
ตัวเล็กหน่อยแต่ราคาถูก กก. ละ 35 บาทเท่านั้น ถ้าใช้หอยนิวซีแลนด์ก็แพงกว่าเยอะ

เริ่มจากไปจัดการซื้อหอยแมลงภู่มาก่อน


ล้างทำความสะอาด ลงไปต้มในหม้อ ใส่น้ำนิดเดียว ต้มใช้เวลา2 - 3 นาทีเพื่อให้หอยแมลงภู่เปือกอ้าออกจากกัน


จากนั้นก็จัดการแกะฝาหอยแมลงภู่ออก 1 ฝา เหลือด้านที่ติดเนื้อหอยอยู่


ตั้งกระทะใส่น้ำมันไป 2 - 3 ช้อน ใส่กระเทียมสับลงไป ผัดให้หอม
ใส่หอยลงไปผัด เติมซีอิ้ว เหล้าจีน ผัดให้เข้ากัน
เติมใบโหระพา คลุกให้หอม ตักใส่จาน


เวลาทานก็ใช้มือหยิบหอยมาทั้งฝาแล้วก็ใช้ปากแทะเนื้อหอยออกพร้อมทั้งน้ำซอสที่ผัด

อร่อยมาก ทุกคนบอก
เมนูนี้ ดัดแปลงไปเป็น หอยแมลงภู่ผัดกระเพรา ผัดฉ่าก็ได้
จะให้หรูหราขึ้นก็ใช้หอยแมลงภู่จากนอก (ครั้งหน้าจะลองดู)

ลองทำดูได้ ง่ายมากๆ




 

Create Date : 30 มิถุนายน 2551   
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:54:57 น.   
Counter : 9800 Pageviews.  


มะระยัดใส้ผัดเต้าซี่

มะระยัดใส้ผัดเต้าซี่
ใส้มี 2 ปบบคือ หมูสับ+ปู และ ปลากราย ที่ต้องทำใส้ปลากรายด้วยเพราะมีคนไม่ทานเนื้อหมู
สูตรนี้ได้มาจากตำราอาหารจีน ดูตามภาพและวิธีการทำไม่ยาก และท่าทางน่าจะอร่อย ก็เลยมาทำดู
ปกติเราก็จะคุ้นกับ แกงจืดมะระยัดใส้หมู

มะระ
ส่วนผสมใส้หมู+ปู
- หมูสับ
- เนื้อปู
- รากผักชี กระเทียม พริกไทย ตำละเอียด
- ต้นหอมซอย
- ซีอิ้วขาว
- เหล้าจีน
- ไข่ไก่ 1 หรือ 2 ฟอง ตามปริมาณใส้

ถ้าเป็นใส้ปลากราย ก็ใช้เนื้อปลากรายแทนหมู+ปู แต่ต้องนวดให้เหนียว ไม่ต้องใส่ไข่ เพราะเนื้อปลาเหนียวอยู่แล้ว
มะระ

หั่นมะระเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว ควักใส้ออกให้หมด


นำมะระที่หั่นไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 3 นาที แล้วตักใส่น้ำเย็นทันที เพื่อลดอุณหภูมิ ตักขึ้นใส่ตะแกรงสะเด็ดน้ำให้แห้ง
มะระที่ลวกแล้ว

เตรียมใส้หมู+ปู
นำส่วนผสมต่างๆ

มาคลุกเคล้ากัน นวดให้เหนียว

ใส้ปลากราย


ก่อนจะยัดใส้ ต้องนำแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดมาทาด้านในของมะระก่อนเพื่อที่จะได้ยึดใส้ให้ติดแน่นกับเนื้อมะระ

จากนั้นก็เอาใส้ทั้งหลายยัดใส่ในมะระ
มะระยัดใส้

นำมะระยัดใส้ไปทอดในน้ำมัน
มะระยัดใส้ปลาที่ทอดแล้ว

ชิมมะระยัดใส้ที่ทอด เออ อร่อยดี นำมาจิ้มซอสพริก ก็เข้ากันได้ดี
แต่ชิ้นมันใหญ่เกินไป ก็เลยแบ่งมะระเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ใส้ไป

มะระใส้หมู+ปู ที่ทอดแล้ว

มะระใส้ปลากราย

มะระชิ้นเล็กก็จิ้มกับซอสพริกเป็นอาหารทานเล่นได้อย่างดี
ตอนนี้ก็มาเตรียมการผัดเต้าซี่
- เต้าซี่ 2 ช้อน
- ขิง หั่นเป็นแว่นๆ 10 ชิ้น
- กระเทียม 5 - 10 กลีบ
- น้ำซุป
- แป้งมัน

เต้าซี่ ชิมดูก่อน ถ้าเค็มมากก็ไปล้างน้ำร้อนก่อน จากนั้นก็ใช้มีดสับหรือหั่นให้ละเอียด

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันไป 2 - 3 ช้อน นำขิงกระเทียมไปผัดให้หอม เติมเต้าซี่สับไปผัดต่อ เติมเหล้าจีนไป 3 ฝา
พอหอมดีก็นำมะระที่ทอดแล้วลงในกระทะไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
เติมน้ำซุป (เย็น) ที่ผสมแป้งมันลงไป เพื่อให้เต้าซี่เหนียว ได้เคลือบมะระ
ตักใส่จาน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก


ลองทำดู ไม่ยาก แต่เสียเวลาเล็กน้อยเพราะมีหลายขั้นตอน





 

Create Date : 09 มิถุนายน 2551   
Last Update : 9 มิถุนายน 2551 18:32:06 น.   
Counter : 3654 Pageviews.  


หมูพะโล้น้ำมะพร้าวอ่อน

หมูพะโล้ อาหารจีนที่คนไทยทุกคนรู้จักกันดี หมูพะโล้เป็นอาหารที่แพร่หลายมาก ร้านข้าวแกงเกือบทุกร้านต้องมีเมนูหมูพะโล้กันทั้งนั้น
หมูพะโล้ก็มีหลายตำรับ แตกต่างกันไปตามเมืองต่างๆ ที่ประเทศจีน
เมืองเซี่ยงไฮ้ ไต้หวัน ก็จะมีหมูพะโล้ตามแบบฉบับของเมือง

บังเอิญไปได้สูตรหมูพะโล้มาใหม่ เขาใช้น้ำมะพร้าวอ่อนแทนน้ำเปล่าในการทำหมูพะโล้ อ่านดูแล้วน่าเลื่อมใส
เพราะน้ำมะพร้าวอ่อนก็มีรสหอมหวาน มาทำพะโล้น่าจะอร่อยยิ่งขึ้น

พะโล้ครั้งนี้จะทำแบบใต้หวัน แต่ใส่น้ำมะพร้าวอ่อน

ชาวใต้หวันเวลาทำหมูพะโล้ เขาจะให้หมูสามชั้นชิ้นใหญ่ทำพะโล้ ในขณะที่บ้านเราจะหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กๆ

- มะพร้าวอ่อน 4 ลูก ลูกละ 13 บาท
- หมู 3 ชั้น 1.5 กก. หั่นเป็นชิ้นใหญ่ขนาด 10 x 10 ซ.ม. 3 ชิ้น
- หอมใหญ่ซอย 2 ลูก
- รากผักชี
- ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว
- เหล้าจีน 50 ซซ.



นำหมูไปทอดในกระทะที่ใส่น้ำมันเพียง 2 ช้อน ทอดให้หนังหมูสุกเท่านั้น เพื่อที่ว่าเวลาต้มไปแล้วหนังจะไม่เปื่อยยุ่ย
หมูสามชั้นที่ทอดหนังแล้ว


นำหมูที่ทอดแล้วมาทำการบั้งเนื้อหมูเพื่อให้น้ำพะโล้ได้ซึมเข้าไป บั้งไปประมาณ 1.5 - 2 ซ.ม.


นำหอมใหญ่ซอยมาผัดกับน้ำมัน ใส่ผงพะโล้ ในภาพจะมีหมูชิ้นอยู่ด้วย หมูนี้ตอนซื้อเขาหั่นเพิ่มมาให้น้ำหนักครบ 1.5 กก.


จากนั้นก็เทหอมใหญ่ที่ผัดลงในหม้อ วางหมูชิ้นลงไป เติมน้ำมะพร้าว รากผักชี ซีอิ้วต่างๆ และเหล้าจีน

ตั้งไปเดือด หรี่ไฟ เคี่ยวไปจนกระทั่งหมูเปื่อย
ให้ตักหมูขึ้นมาพักไว้ก่อน เพราะถ้าทิ้งไว้ในหม้อ หมูจะเปื่อยมากไป


น้ำพะโล้ถ้าอยากให้ข้นก็เร่งไฟแรงให้เดือด ทิ้งไว้ 20 นาที น้ำพะโล้ก็จะข้นขึ้น
หมูก็ทำการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ



จัดใส่จานราดน้ำพะโล้


วันนั้นทำข้าวคลุกกะปิพอดี ก็เลยทานร่วมกับข้าวคลุกกะปิแทนหมูหวาน


น้ำพะโล้รสดีมากเพราะได้ความหวานของน้ำมะพร้าวอ่อน
ส่วนเนื้อหมูพะโล้ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะต้มเร็วเกินไป เนื่องจากเที่ยงพอดี ต้องการทานกับข้าวคลุกกะปิ
ถ้าต้มอีก 1 ช.ม. ก็รสดีกว่านี้มาก




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2551   
Last Update : 3 มิถุนายน 2551 18:45:20 น.   
Counter : 5301 Pageviews.  


แกงมัสมั่นเนื้อแบบอินโดนีเซีย Beef Rendang

เวลาไปทานอาหารอินโดนีเซียที่ร้าน BALI อาหารที่สั่งมาทานบ่อยคือ Beef Rendang หน้าตาคล้ายๆกับแกงมัสมั่นของเรา แต่มีความแตกต่างกันที่เครื่องเทศและวิธีการปรุงเท่านั้น เพราะ Beef Rendang นี้น้ำจะขลุกขลิก แห้งๆ คล้ายๆกับ คั่วกลิ้งของทางภาคใต้

ปัจจุบันนี้ แกงมัสเมั่นเนื้อ จะหายไปจากร้านข้าวแกงแล้ว แกงมัสมั่นเปรียบเหมือนอาหารโบราณที่กำลังจะถูกลืมไป ตอนนี้จะหาทานได้ที่ร้านอาหารมุสลิมเท่านั้น
สาเหตุคงเป็นเพราะ คนทานเนื้อวัวน้อยลง เนื้อวัวราคาแพง และ แกงมัสมั่นทำค่อนข้างจะยากกว่าแกงทั่วๆ ไป

ตอนที่ไปประเทศอินโดนีเซีย ช่วงเที่ยงก็มักจะไปทานร้านข้าวแกงกันซึ่ง ทุกร้านจะต้องมี Beef Rendang เสมอ

วันนี้ก็มาลองทำ Beef Rendang แบบไทยๆ

เครื่องปรุง
- ซี่โครงวัว 2 กก. หรือ เนื้อวัวก็ได้
- หัวกะทิ 1 กก. หางกะทิไว้ตุ๋นให้เนื้อเปื่อยเพื่อมาแกง
- เครื่องแกงมัสมั่น 2 ซอง จากร้าน
- เครื่องแกงเผ็ด 100 กรัม
- หอมใหญ่ 3 - 4 หัว ซอยหยาบๆ

แกงครั้งนี้ใช้ซี่โครงวัวเพราะเนื้อรสดีมาก ไม่ค่อยจะเหนียว ราคาถูก ถ้าเป็นที่อินโดนีเซียเขาจะใช้เนื้อสะโพก
ซี่โครงเนื้อ

นำไปตุ๋นให้เปื่อยกับหางกะทิ ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง

เนื้อที่ตุ๋นจนเปื่อยแล้ว


นำหอมใหญ่ที่ซอยหยาบๆ ไปผัดกับน้ำมันในหม้อเทฟลอน แนะนำให้ใช้
หม้อเทฟลอนเพราะต้องเคี่ยวจนกระทั่งน้ำกะทิแห้ง ถ้าเป็นหม้อทั่วไปแกงจะไหม้ติดก้นหม้อ
ผัดพอสุกก็เติมเครื่องแกงมัสมั่นลงไปผัดด้วย
เครื่องแกงมัสมั่น จากร้าน สุวรรณเครื่องเทศ




ผัดให้เครื่องเทศหอม


เติมหัวกะทิลงไปผัดให้เข้ากัน และใส่เครื่องแกงเผ็ดลงไปผัดด้วย


เติมเนื้อวัว ผัดต่อจนเดือด


เติมหัวกะทิที่เหลือลงไปให้หมด


ตั้งให้เดือด ใช้ไฟกลาง เคี่ยวไปเรื่อยๆจนกระทั่งน้ำข้น

เครื่องแกงกับเนื้อผสมกัน ชิ้นเนื้อจะเปื่อยยุ่ย




ฺแกง Beef Rendang นี้ ทานกับข้าวสวย ข้าวเหลือง โรตี หรือ ขนมปัง ได้ทั้งนั้น

ตอนที่ทำแกงนี้ก็อบขนมปัง Tuscany Saltless (ขนมปังที่ไม่ใส่เกลือ) ไว้ 1 ก้อน ก็เลยนำมาทานกับแกงมัสมั่นเลย เข้ากันได้ดีมาก เพราะขนมปังไม่ใส่เกลือนี้ทานเฉยๆ ไม่ได้ ต้องจิ้มน้ำมันมะกอกถึงอร่อย
มาทานกับแกงก็อร่อย

ขนมปัง Tuscany Saltless


ขนมปังและแกง


เชิญเพื่อนๆ ลองทำดู ถ้าชอบอาหารที่มีเครื่องเทศ




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 1 พฤษภาคม 2555 10:11:15 น.   
Counter : 8878 Pageviews.  


แกงกะหรี่หัวปลา Fish Head Curry แบบมาเลย์-สิงคโปร์


เวลาไปประเทศมาเลเซีย หรือ ประเทศสิงคโปร์ อาหารประจำที่ต้องหาโอกาศแวะไปทานคือ แกงกระหรี่หัวปลา หรือ Fish Head Curry
Fish Head Curry นี้เป็นการผสมของสูตรอาหารกันระหว่าง มาเลย์และจีน บางครั้งก็เรียกว่าเป็นอาหารกลุ่ม Nonya อาหารมาเลย์ก็ได้รับอิทธิพลมาจากทางอินเดีย
พอไปทาน Fish Head Curry ก็จะเจอที่ร้าน อินเดีย มาเลย์ และ จีน สรุปทุกคนชอบหมด

ตามปกติที่บ้านเราเวลาแกงหัวปลา ก็จะสับหัวปลาเป็นชิ้นๆ ก่อน แล้วค่อยไปปรุงอาหาร เช่น แกงเหลืองหัวปลา+หน่อไม้ หรือ ข้าวต้มหัวปลา หัวปลาหม้อไฟ เป็นต้น

แต่ Fish Head Curry นี้ ทางข้านเขาจะแกงทั้งหัวปลา โดยที่หัวปลาจะมีขนาดประมาณ 1 กก. ขึ้นไป ดังนั้น Fish Head Curry 1 ที่ ก็ทานกันได้หลายคน

เครื่องปรุง
- หัวปลา 1 หัว ประมาณ 1 กก.
- กะทิ 1 กก. (คั้นจากมะพร้าว 1 กก.)
- เครื่องแกงเผ็ด 100 กรัม
- ผงกระหรี่ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ
- หอมใหญ่ซอย 1 หัวใหญ่
- มะเขือเทศ
- กระเจี้ยบ
- น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วย

สูตรเครื่องปรุงนี้ดัดแปลงโดยใส่เครื่องแกงเผ็ดไปด้วย เพราะชอบรสจัด

เริ่มจากไปจ่ายตลาดก่อน ไปซื้อปลาประพงขาวตัวใหญ่ หนัก 4.5 กก. มา ให้เขาตัดส่วนหัวปลาที่ติดเนื้อด้วย ส่วนเนื้อปลาก็แล่ไว้ประกอบอาหารอย่างอื่น ปลาซื้อทั้งตัวที่ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ กก. ละ 160 บาท

หัวปลากระพงขาว หนักประมาณ 1.3 กก.


มะเขือเทศ กระเจี้ยบ



ผงกระหรี่ซื้อมาจากร้านสุวรรณเครื่องเทศ


เนื่องจากหัวปลามีขนาดใหญ่มาก เลยต้องทำแกงด้วยกระทะ แทนหม้อ
นำกระทะตั้งไฟ ใส่หอมหัวใหญ่ซอยผัดกับน้ำมันประมาณ 3 นาที
เติมผงกระหรี่ไปผัดให้หอมและเติมเครื่องแกงลงไปผัดให้เข้ากัน ถ้าแห้งไปให้เติมหัวกะทิ ผัดจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมกะทิลงไปให้หมด ตั้งให้กะทิเดือด

เติมหัวปลาลงในกระทะ

ปิดฝา

เคี่ยวไปประมาณ 10 นาที กลับหัวปลา ใส่มะเขือเทศ กระเจี้ยบ
ปรุงรสโดยน้ำส้มมะขามเปียก ให้มีรสเปรี้ยวนิดๆ เติมเกลือเล็กน้อย

ปิดฝา ตั้งไปอีก 10 นาที ก็สุกตักใส่ชาม


หัวปลาใหญ่มาก ทานกัน 5 คน กำลังดี รสปนกันระหว่างไทยและเทศ รสจัดเล็กน้อยเพราะใส่เครื่องแกงเผ็ดลงไปด้วย
Fish Head Curry นี้ เหมาะสำหรับคนชอบทานหัวปลาเท่านั้น ถ้าไม่ทานหัวปลาแกงด้วยเนื้อปลาแทนก็ได้
ทานกับไข่ต้มยางมะตูม

ไข่ต้มยางมะตูมนี้ทำง่ายมาก ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ไข่ลงไปต้ม 6 นาที ตักไข่ขึ้นแช่ในน้ำเย็นทันที เพื่อหยุดการต้มไข่ รอจนเย็นแล้วก็ปอกไข่ เวลาปอกก็ใช้ฝีมือเล็กน้อยไม่งั้นไข่จะเละ (ฟองแรกเละไม่สวย)
และไข่เจียว Zuccini





 

Create Date : 29 เมษายน 2551   
Last Update : 1 พฤษภาคม 2555 10:19:10 น.   
Counter : 18804 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  190  191  192  193  194  195  196  197  198  199  200  201  202  203  204  205  206  207  208  209  210  211  212  213  214  215  216  217  218  

swin
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 442 คน [?]




[Add swin's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com