นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
 

พาร์กินสัน อาการสั่นที่ต้องรีบพบแพทย์



พาร์กินสัน อาการสั่นที่ต้องรีบพบแพทย์

โรคพาร์กินสัน เป็นโรคทางสมองที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง โรคนี้เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ประสาทในสมองส่วนลึกและก้านสมอง ส่งผลให้ระดับสารโดปามีน (Dopamine) ลดลง ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย

อาการของโรคพาร์กินสัน สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
  • อาการที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว
    ผู้ป่วยมักมีอาการสั่นขณะอยู่เฉย ๆ กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง โดยเฉพาะบริเวณแขนและขา การเคลื่อนไหวช้าลง และเมื่อโรคดำเนินไป อาจเริ่มมีปัญหาในการเดิน เช่น เดินช้าหรือเดินติดขัด
     
  • อาการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว
    นอกจากอาการทางการเคลื่อนไหวแล้ว ผู้ป่วยอาจมีอาการสูญเสียการรับกลิ่น ทำให้รับรสอาหารได้น้อยลง มีปัญหาท้องผูก นอนละเมอ หรือมีภาวะซึมเศร้าได้

การวินิจฉัยโรคพาร์กินสัน แพทย์จะซักประวัติจากผู้ป่วยและญาติร่วมกับการตรวจร่างกายเป็นหลัก ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีการสแกนสมองมาใช้เพื่อประเมินระดับสารโดปามีนในสมอง หากพบว่ามีระดับลดลง ก็จะช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำยิ่งขึ้น

การรักษาโรคพาร์กินสัน จะเป็นการรักษาประคับประคองที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงคนปกติ ด้วยการทานยาที่ช่วยกระตุ้นการสร้างสารโดปามีนในสมอง การทำกายภาพบำบัด และการผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าในสมองส่วนลึก

นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การดูแลด้านจิตใจและสังคมก็สำคัญไม่แพ้กัน ผู้ดูแลควรส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน และกระตุ้นให้มีการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นได้

แม้ว่าโรคพาร์กินสันจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ด้วยการรักษาและการดูแลที่เหมาะสม ผู้ป่วยก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น

โรคพาร์กินสัน อาการ สาเหตุ และวิธีสังเกตคนใกล้ตัว คลิกอ่านข้อมูล >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1668

 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center 1512 ต่อ 2999
Line Official :  https://lin.ee/dED0pj2 




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2568   
Last Update : 20 พฤษภาคม 2568 10:06:25 น.   
Counter : 64 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


“เนื้องอกมดลูก” ความเสี่ยงที่ผู้หญิงต้องเจอ 



“เนื้องอกมดลูก” ความเสี่ยงที่ผู้หญิงต้องเจอ 

เนื้องอกมดลูก เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของเซลล์กล้ามเนื้อในมดลูก อาจเกิดขึ้นภายในเนื้อมดลูก โพรงมดลูก หรือโตเป็นก้อนยื่นออกมาจากตัวมดลูกก็ได้ เนื้องอกมดลูกส่วนใหญ่ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่สามารถมีขนาดเล็กหรือโตเป็นก้อนใหญ่หลายก้อน ซึ่งเมื่อขยายตัวขึ้นอาจไปกดทับอวัยวะใกล้เคียง ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น
  • ประจำเดือนมามากและนานขึ้น มีลิ่มเลือดหรือเป็นก้อนปนออกมา
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ทั้งที่ไม่เคยเจ็บมาก่อน
  • อาจทำให้มีบุตรยากหรือเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
** บางคนอาจไม่มีอาการหรือก้อนเนื้องอกอาจไม่โตขึ้น **

แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เนื้องอกมดลูกมีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตจากรังไข่ นี่! จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม? ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ช่วงอายุประมาณ 30-50 ปี จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดเนื้องอกมดลูกมากขึ้น

การรักษาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของเนื้องอก อาการ และความต้องการมีบุตร ซึ่งจำเป็นต้องรักษามดลูกไว้ไม่ตัดทิ้ง โดยหากเนื้องอกมีขนาดเล็กอาจรักษาด้วยวิธีทานยา ฉีดยา เพื่อลดขนาด แต่ถ้าเนื้องอกมีขนาดใหญ่และส่งผลต่อสุขภาพจำเป็นต้องผ่าตัด อาจผ่าตัดเอาเฉพาะเนื้องอกออก หรือตัดมดลูกออกทั้งหมด ในกรณีที่มดลูกมีความผิดปกติมาก และผู้ป่วยไม่ต้องการมีบุตรแล้ว

** อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผ่าตัดเฉพาะเนื้องอกออกไป หากอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นเนื้องอกมดลูกได้อีกครั้ง จึงยังต้องไปตรวจกับแพทย์ตามนัด และตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี

การผ่าตัดส่องกล้องเนื้องอกมดลูก แผลเล็ก ฟื้นเร็ว หายไว ปวดน้อยลง คลิกอ่าน >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1210

 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center 1512 ต่อ 2999
Line Official :  https://lin.ee/dED0pj2 




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2568   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2568 9:38:25 น.   
Counter : 50 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


เรื่องลับๆ ของผู้ชาย ที่ควรรู้ : ผื่นนูน PPP ที่อวัยวะเพศชาย



เรื่องลับๆ ของผู้ชาย ที่ควรรู้ : ผื่นนูน PPP ที่อวัยวะเพศชาย

ผื่นนูน PPP (Pearly Penile Papule) เป็นผื่นนูนใสเรียงตัวกันอยู่รอบส่วนหัวของอวัยวะเพศชาย ไม่เจ็บ ไม่คัน พบได้บ่อยในผู้ที่ไม่ผ่านการขลิบ ผื่นชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ไม่ถือว่าเป็นโรค ไม่ติดต่อไปสู่ผู้อื่น แต่ผู้ป่วยมักจะกังวลเนื่องจากบางครั้งอาจจะมีลักษณะคล้ายหูดหงอนไก่หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ ซึ่งถ้าไม่แน่ใจควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เนื่องจากผื่นชนิดนี้ไม่ได้มีอันตราย ผู้ป่วยจะรักษาหรือไม่ก็ได้ ถ้าต้องการรักษาสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ทำเลเซอร์ จี้ไฟฟ้า หรือพ่นไอเย็น

ที่โรงพยาบาลรามคำแหง เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่เชี่ยวชาญในการดูแลปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้ชาย โดยแพทย์ผู้ชายและการตรวจในห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ทุกข้อมูลและการรักษาจะถูกเก็บเป็นความลับ คุณสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้อย่างมั่นใจ

อย่าให้ความเขินอายมาปิดกั้นสุขภาพของคุณ เพราะปัญหาผิวหนังที่ปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามจนการรักษายากขึ้น การพบแพทย์แต่เนิ่นๆ คือการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด

นพ.ภค สาธิตพิฐกุล
แพทย์ผู้ชำนาญการโรคผิวหนัง โรงพยาบาลรามคำแหง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center 1512 ต่อ 2999
Line Official :  https://lin.ee/dED0pj2 




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2568   
Last Update : 17 พฤษภาคม 2568 10:54:26 น.   
Counter : 55 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


เรื่องลับๆ ของผู้ชาย ที่ควรรู้ : ผื่นแพ้ยาที่อวัยวะเพศชาย



เรื่องลับๆ ของผู้ชาย ที่ควรรู้ : ผื่นแพ้ยาที่อวัยวะเพศชาย

ที่บริเวณอวัยวะเพศชายสามารถแสดงอาการของผื่นแพ้ยาได้หลายแบบ แต่แบบที่พบได้บ่อย คือ ผื่นแพ้ยาชนิดผื่นม่วง (Fixed drug eruption) ผื่นแพ้ยาชนิดนี้จริงๆ แล้วสามารถพบได้ทุกที่ทั่วร่างกาย แต่มักจะพบบ่อยบริเวณอวัยวะเพศ มีลักษณะเป็นผื่นบวมแดงม่วง อาจมีอาการเจ็บหรือคัน ถ้าเป็นมากอาจจะกลายเป็นตุ่มน้ำ แตกเป็นแผลได้ ผื่นชนิดนี้มีลักษณะที่สำคัญคือผื่นจะขึ้นที่เดิมทุกครั้งเมื่อได้รับยาที่แพ้ ถ้าเป็นการแพ้ครั้งแรกจะเกิดตามหลังการได้รับยา 1-2 อาทิตย์ แต่ถ้าเป็นครั้งต่อไปจะเกิดภายในไม่กี่ชั่วโมง ถ้าเกิดผื่นลักษณะนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาต่อไป

ที่โรงพยาบาลรามคำแหง เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่เชี่ยวชาญในการดูแลปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้ชายโดยแพทย์ผู้ชายและการตรวจในห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ทุกข้อมูลและการรักษาจะถูกเก็บเป็นความลับ คุณสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้อย่างมั่นใจ

อย่าให้ความเขินอายมาปิดกั้นสุขภาพของคุณ เพราะปัญหาผิวหนังที่ปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามจนการรักษายากขึ้น การพบแพทย์แต่เนิ่นๆ คือการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด

นพ.ภค สาธิตพิฐกุล
แพทย์ผู้ชำนาญการโรคผิวหนัง โรงพยาบาลรามคำแหง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center 1512 ต่อ 2999
Line Official :  https://lin.ee/dED0pj2 




 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2568   
Last Update : 15 พฤษภาคม 2568 10:06:59 น.   
Counter : 96 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


ซนตามวัย หรือ สมาธิสั้น?



ซนตามวัย หรือ สมาธิสั้น?

พ่อแม่หลายคนอาจเคยกังวลเมื่อลูกซน วิ่งเล่นไม่หยุด จนมีคนทักว่า "ลูกสมาธิสั้นหรือเปล่า?" คำถามนี้อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจ ว่าพฤติกรรมของลูกที่อยู่ไม่นิ่งนั้นเป็นเรื่องปกติ หรือเป็นสัญญาณของภาวะสมาธิสั้นกันแน่?

ความแตกต่างระหว่างเด็กซนตามวัยกับโรคสมาธิสั้น
โรคสมาธิสั้น (ADHD) เกิดจากความบกพร่องของสมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่ควบคุมสมาธิและพฤติกรรม โดยเฉพาะในเด็กวัย 2-3 ขวบ สมองส่วนนี้ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้เด็กมีพฤติกรรมซุกซน อยู่ไม่นิ่ง เปลี่ยนความสนใจง่าย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของพัฒนาการวัยนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กโตขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าโรงเรียนอนุบาล สมาธิจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่หากเด็กยังมีพฤติกรรมไม่จดจ่อ ซนมากกว่าปกติ ไม่สามารถทำตามคำสั่ง เหม่อลอยบ่อยๆ หรือควบคุมตัวเองได้ยาก อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะสมาธิสั้น

ควรพาเด็กไปพบแพทย์เมื่อไหร่?
หากพ่อแม่สังเกตเห็นว่า ลูกมีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่งเกินวัย เปลี่ยนกิจกรรมบ่อยจนส่งผลกระทบต่อการเรียน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคสมาธิสั้นหรือไม่ แม้ว่าประมาณ 10-20% ของเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นอาจดีขึ้นเองเมื่อโตขึ้น แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รับการรักษา อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางความคิด การเรียนรู้ การจัดการชีวิต รวมถึงความสัมพันธ์กับผู้อื่นในอนาคต

การรักษาและการดูแล
โรคสมาธิสั้นต้องอาศัยการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องได้รับความร่วมมือจากพ่อแม่ ครู และทีมสหวิชาชีพ เช่น กุมารแพทย์ นักจิตวิทยา หรือครูการศึกษาพิเศษ การดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาสมาธิ ควบคุมพฤติกรรม และเพิ่มความมั่นใจในตนเอง ส่งผลให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ

พ่อแม่ควรสังเกต ใส่ใจและเข้าใจลูก เพื่อให้สามารถรับมือกับภาวะสมาธิสั้นได้อย่างถูกต้อง เพราะหากตรวจพบและดูแลได้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในอนาคต

“กิจกรรมบำบัด กับการพัฒนาการเด็กพิเศษ” คลิกอ่าน >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/2027

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center 1512 ต่อ 2999
Line Official :  https://lin.ee/dED0pj2 

 




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2568   
Last Update : 13 พฤษภาคม 2568 10:26:17 น.   
Counter : 75 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com