นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
 

“อาหารแปรรูป” ทานมากไป เสี่ยงขาดสารอาหาร แก่ก่อนวัย สมองเสื่อม จริงหรือ?


“อาหารแปรรูป” ทานมากไป เสี่ยงขาดสารอาหาร แก่ก่อนวัย สมองเสื่อม จริงหรือ?

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาทาน “อาหารแปรรูป” กันมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากรูปแบบการใช้ ชีวิตที่เร่งรีบ รวมถึงภาวะความเครียด จากเรื่องต่างๆ ส่งผลให้หลายคนไม่มีเวลาที่จะดูแลตัวเองเท่าที่ควร โดย บรรดาอาหารแปรรูป ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม มันฝรั่งทอด ไส้กรอก เบคอน แฮม ขนมคบเคี้ยวต่างๆ อาหารแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงอาหารบรรจุกระป๋อง อาหารเหล่านี้มักหาซื้อได้ง่ายมีขายอยู่ตาม ซุปเปอร์มาร์เกต และร้านสะดวกซื้อทั่วไป โดยได้ผ่านการจัดเตรียม ปรุงแต่งสีหรือกลิ่น ปรับเปลี่ยนรูปร่างบรรจุภัณฑ์ ให้มีความสะดวก ง่ายต่อการทาน รวมไปถึงการเก็บรักษา และที่สำคัญอาหารแปรรูปบางอย่าง ก็ได้มีการเติมส่วนผสมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล สารกันบูด เพื่อคงความสดใหม่และยืดอายุการเก็บรักษา โดยบางชนิดอาจมีการใส่ น้ำตาลธรรมชาติ หรือ น้ำตาลฟรุกโตส ในปริมาณมากอีกด้วย เพื่อให้อาหารแปรรูปมีรสชาติและสีตามที่ต้องการ ส่งผลให้มีปริมาณของน้ำตาล โซเดียม ไขมันอิ่มตัวที่สูง หากทานมากเกินไป และติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ผิวพรรณเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยดูแก่ก่อนวัย และเสี่ยงสมองเสื่อมได้


 

หากทานอาหารแปรรูปมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายเสี่ยงขาดสารอาหารสำคัญ ได้แก่

* วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ พบมากในผักผลไม้ มีส่วนช่วยให้กระบวนการต่างๆ ของร่างกายทำงานได้เป็นปกติ โดยเฉพาะระบบประสาทและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ผักผลไม้หลากสียังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้เกิดความเสียหาย หากร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้ จะส่งผลให้เซลล์ถูกทำลายได้ง่าย ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

* โปรตีน เป็นองค์ประกอบโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ทั้งผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ โปรตีนยังเป็นสารอาหารสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และใช้สร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันต่างๆ ด้วย หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ จะทำให้ป่วยง่าย หายช้า ผิวหนังหยาบกร้าน ดูแก่ก่อนวัย และอาจเสี่ยงสมองเสื่อมจากการขาดกรดอะมิโนจำเป็นต่อสมอง ซึ่งพบได้ในเนื้อสัตว์ นม ไข่

ใยอาหาร มีส่วนช่วยเรื่องของระบบขับถ่าย ทำให้เกิดกระบวนการหมักในลำไส้ กรดไขมันสายสั้นช่วยชะลอภาวะการอักเสบของสมองที่เพิ่มขึ้นตามอายุ และยังสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งและลดการอักเสบของลำไส้ใหญ่ ได้อีกด้วย

จะเห็นว่า การทานอาหารแปรรูปมากๆ ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพใดๆ เลย แนะนำให้เลือกทานผักผลไม้ เป็นประจำ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วเปลือกแข็ง และถั่วเมล็ดต่างๆ โปรตีนจากปลา ไข่ นม เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ฯลฯ

ลดอาหารหวาน มัน เต็ม เลี่ยงอาหารแปรรูป หรือศึกษาข้อมูลทางโภชนาการก่อนซื้ออาหารแปรรูปมาทานทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้กินอาหารมากเกินปริมาณที่กำหนด ได้รับพลังงานจากน้ำตาล และไขมันสูงเกินไป ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายในทุกๆ ด้านมากกว่าแน่นอน

นอกจากนี้การออกกำลังกายเป็นประจำ ผ่อนคลายความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงด้วยเช่นกันครับ..




 

Create Date : 25 กันยายน 2566   
Last Update : 25 กันยายน 2566 11:15:01 น.   
Counter : 45 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


เคลียร์บ้านให้ปอดภัย.. สำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์


เคลียร์บ้านให้ปอดภัย.. สำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์

เพราะ ‘โรคอัลไซเมอร์’ ไม่ใช่แค่หลงลืม แต่ส่งผลกระทบต่อความคิด ความจำ และการตัดสินใจ จากกิจวัตรที่เคยง่าย ก็กลายเป็นเรื่องยากไปหมด ลูกหลานจึงต้องเข้าใจและคอยดูแลอย่างใกล้ชิด อาจจะต้องใช้ความใจเย็นมาก ๆ แต่ถ้าครอบครัวพยายามเข้าใจและคอยให้กำลังใจกันเพื่อคนที่เรารัก เชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่ยากเกินไปแน่นอน

แม้ว่าอัลไซเมอร์จะไม่ใช่โรคร้าย แต่สร้างความเสียหายได้มากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอะไรที่ป้องกันได้ ก็ควรป้องกันไว้ก่อน โดยเฉพาะการจัดโซนภายในบ้านให้ปลอดภัยถือเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลผู้ป่วยเลยทีเดียว

“การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่บ้าน” อ่านข้อมูลเพิ่มเติม >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/58




 

Create Date : 21 กันยายน 2566   
Last Update : 21 กันยายน 2566 10:42:29 น.   
Counter : 59 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


​​​​​​​เตือน! หัวใจไม่เคยหยุดพัก AF Awareness Month 2023 AF ภาวะหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว... ภัยเงียบที่อ



เตือน! หัวใจไม่เคยหยุดพัก AF Awareness Month 2023
AF ภาวะหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว... ภัยเงียบที่อาจถึงชีวิต

เดือนกันยายนของทุกปี เป็น AF Awareness Month หรือเดือนแห่งการตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว (Atrial Fibrillation: AF) ซึ่งเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดที่รุนแรงและพบได้บ่อยที่สุด เป็นภาวะที่หัวใจห้องบนเต้นเร็วและไม่เป็นจังหวะ ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และทำให้เสียชีวิตได้

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด AF คือ อายุที่มากขึ้น ภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน โรคอ้วน โรคไทรอยด์ โรคไต ฯลฯ

ผู้ป่วย AF มักจะมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วไม่สม่ำเสมอ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก หรือแน่นหน้าอก เป็นๆ หายๆ หรืออาจไม่มีอาการใดๆ เลย ใครที่ไม่แน่ใจว่าอาการผิดปกติที่เป็นอยู่นั้นใช่ AF หรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจ

ผู้ที่มีอาการผิดปกติบ่อยๆ และเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แพทย์อาจแนะนำให้ติดอุปกรณ์บันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Multiday Patch Holter เพื่อบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจตลอด 24-72 ชั่วโมง วิธีนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจจับ AF ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

Multiday Patch Holter เทคโนโลยีบันทึกการเต้นของหัวใจในโลกยุคดิจิทัล คลิกอ่าน >> https://bit.ly/3Rk7jno

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและควบคุมโรคประจำตัวให้ดี จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิด AFได้ ด้วยการหมั่นตรวจเช็คสุขภาพทั้งระดับน้ำตาล ไขมัน ความดันโลหิต ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่สูบบุหรี่ รวมถึงตรวจคัดกรอง AF เป็นระยะๆ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในผู้ที่มีความเสี่ยง




 

Create Date : 20 กันยายน 2566   
Last Update : 20 กันยายน 2566 14:30:34 น.   
Counter : 71 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


สุขภาพเล็บบอกโรค... หากมองเล็บแล้วมีลักษณะแปลกๆ ควรเช็คสุขภาพด่วน!


 

สุขภาพเล็บบอกโรค... หากมองเล็บแล้วมีลักษณะแปลกๆ ควรเช็คสุขภาพด่วน!

เล็บของเรา เป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกาย ที่หลายคนมักไม่ได้สนใจ แต่เล็บก็มีความสำคัญนะครับ เพราะเล็บสามารถบ่งบอกสุขภาพของเราได้เหมือนกัน...

เล็บสุขภาพดี จะมีลักษณะเป็นสีชมพูจางๆมีพื้นผิวของเล็บที่เรียบ ไม่มีขรุขระ ผิวหนังรอบๆเล็บไม่เปื่อยร่น และที่สำคัญคือ เล็บไม่หนาและไม่บางมากเกินไป

เล็บผิดปกติ คือเล็บที่มีลักษณะแปลกไปจากที่กล่าวมา โดยอาจมีลักษณะบาง มีฝ้าหรือผิวโดยรอบไม่เรียบ ขรุขระ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เกิดการติดเชื้อ เกิดการระคายเคืองจากสารเคมี หรือเกิดจากโรคอื่นๆ ที่มีผลต่อเล็บ ซึ่งมีลักษณะผิดปกติหลากหลายแบบ
 


เล็บของเราผิดปกติหรือไม่ แล้วสิ่งผิดปกติเหล่านั้นบอกอะไร? ในร่างกายของเราบ้าง มาดูกัน!

  • เล็บหนามากเกินไป การมีเล็บที่หนาผิดปกติอาจเสี่ยงต่อการเป็น โรคเชื้อรา ยิ่งไปกว่านั้นอาจพบอาการร่วมอื่นๆได้ด้วย เช่น เล็บอาจมีสีเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือขาว ผิวเล็บและส่วนปลายเล็บอาจมีความขรุขระ ที่สำคัญคืออาจเสี่ยงต่อการเป็น โรคสะเก็ดเงิน เนื่องจากโรคนี้อาจทำให้เล็บหนาหลายเล็บ ตรงข้ามกับโรคเชื้อราที่เป็นเพียงบางเล็บเท่านั้น
     
  • เล็บบางกว่าปกติ อาจเกิดจาก โรคโลหิตจาง ที่ขาดธาตุเหล็ก โดยเล็บจะมีลักษณะบางและแอ่นคล้ายช้อน รวมถึงในผู้สูงอายุก็อาจมีเล็บที่บางและเปราะแตกง่ายตรงบริเวณปลายเล็บได้
     
  • เล็บมีพื้นผิวขรุขระ เป็นอาการที่พบได้ค่อนข้างบ่อยเลยก็ว่าได้ครับ โดยบริเวณผิวของเล็บจะเป็นหลุมเล็กๆแล้วถ้าเป็นหลายเล็บก็อาจบ่งบอกถึง โรคสะเก็ดเงินหรือ โรคภูมิแพ้ ได้ อาการดังกล่าวอาจพบได้ในเด็กบางรายโดยที่ไม่มีสาเหตุ และในบางกรณีอาจมาจากอาการเจ็บป่วยอาจพบเล็บเป็นร่องลึกตามแนวขวางจากการที่เล็บมีการสร้างเล็บผิดปกติขณะป่วยได้
     
  • ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง พบได้ในผู้ที่สัมผัสกับน้ำบ่อยๆ บริเวณผิวหนังรอบเล็บอาจมีการเปื่อยยุ่ย ทำให้เกิดการระคายเคืองจากสารเคมีได้ง่าย เช่น สารเคมีจากน้ำยาล้างจาน สารเคมีจากน้ำยาทำความสะอาดบ้าน ซึ่งบางครั้งก็อาจเกิดการติดเชื้อราตามมาได้และในผู้ป่วยบางคนที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังที่อ่อนแอนี้อาจส่งผลให้ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง รวมถึงมีหนองร่วมด้วย
     
  • เล็บเปลี่ยนสี อาจมีสาเหตุมาจากโรคทางกายที่มีผลกับสีของเล็บ เช่น เล็บมีสีดำ อาจเป็นเพราะ มะเร็งผิวหนัง เชื้อรา การกระแทก ไฝ เล็บเป็นสีดำขึ้นมาเอง แต่ถ้าหากเป็นใน กรณีของมะเร็งผิวหนัง ก็จะมีข้อสังเกตคือ ลักษณะเล็บที่ดำจะมีลักษณะเป็นปื้นสีดำและสีไม่สม่ำเสมอ เป็นแค่เล็บเดียว มีประวัติเป็นมาไม่นาน อาจมีผิวหนังที่โคนเล็บเป็นสีดำร่วมด้วยเล็บมีสีขาวครึ่งเล็บพบได้ในผู้ป่วย โรคไตวายเรื้อรัง เป็นส่วนใหญ่ เล็บมีสีขาวสองในสามของเล็บ ส่วนมากจะพบได้ในผู้ป่วยที่เป็น โรคเบาหวาน,โรคตับแข็ง,โรคหัวใจวาย เล็บที่มีสีขาวเป็นแถบขวาง อาจเกิดจาก โรคโปรตีนในร่างกายต่ำ เมื่อใช้มือกดไปที่เล็บ สีขาวที่เห็นก็จะจางลง
     
  • ปลายเล็บร่น โดยปกติแล้วผิวหนังส่วนปลายจะติดกับเล็บ แต่ถ้าหาก มีโรคบางอย่างเช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคไทรอยด์ โรคเชื้อรา โรคผดผื่นผิวหนังอักเสบ รวมถึงผลข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิด ก็อาจส่งผลให้ขอบของผิวหนังที่ติดกับเล็บมีการร่นลงได้
     


ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของเล็บแบบใดก็ถือว่ามีความอันตรายไม่แพ้กันนะครับ สำหรับ วิธีการรักษาอาการเล็บผิดปกตินั้นแพทย์จะดำเนินการรักษาตามสาเหตุที่เกิดขึ้นของผู้ป่วยแต่ละคน เช่น หากผู้ป่วยเล็บเป็นเชื้อราแพทย์อาจขูดขุยจากบริเวณเล็บที่หนาไปตรวจหาเชื้อรา จากนั้นก็จะทำการเพาะเชื้อราแยกชนิดเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค หากในกรณีที่แพทย์สงสัยว่าจะเป็น มะเร็งผิวหนัง อาจต้องทำการตัดชิ้นเนื้อที่ใต้เล็บ เพื่อตรวจลักษณะทางพยาธิวิทยาเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค ถ้าหากเป็น เล็บบอกถึงโรคทางกาย ก็อาจต้องมีการตรวจเลือด โดยเป็นการตรวจหาระดับธาตุเหล็ก โรคไทรอยด์ โรคไต โรคตับ ทั้งหมดนี้ก็จะนำไปสู่กระบวนการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

แม้ว่าเล็บจะเป็นอวัยวะชิ้นเล็กๆแต่ทุกคนก็ควรต้องให้ความสำคัญ หมั่นคอยสังเกตสม่ำเสมอว่าเล็บมีลักษณะผิดปกติหรือต่างจากเดิมไหม หรือถ้าหากดูแล้วไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ดีที่สุด เพราะถ้าหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นจริงจะได้รีบรักษาให้หายโดยเร็ว... ** สังเกตตัวเองแล้วก็อย่าลืมสังเกตคนรอบข้างหรือคนใกล้ตัวด้วยนะครับ..
 




 

Create Date : 18 กันยายน 2566   
Last Update : 18 กันยายน 2566 9:57:33 น.   
Counter : 70 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


4 อาการเสี่ยง "เบาหวาน"

 

4 อาการเสี่ยง "เบาหวาน"

โรคเบาหวาน พูดเบาๆ ก็เจ็บ หากมีอาการแล้วไม่รีบตรวจเพื่อรักษาอาจเจ็บหนักของจริง อันตรายมาก เพราะส่งผลต่อสุขภาพลุกลามจนเกิดปัญหาในระยะยาว ทั้งร่างกายและจิตใจ คนไข้บางรายอาจมีอารมณ์ทางเพศลดลงด้วย

อาการเบื้องต้นที่บ่งชี้ โรคเบาหวาน

1. ปัสสาวะบ่อย

2. คอแห้ง หิวน้ำตลอด

3. ชา ปลายมือ ปลายเท้า

4. แผลหายช้ากว่าปกติ

ใครที่มีอาการผิดปกติดังกล่าว แนะนำให้พบแพทย์ตรวจวินิจฉัย ว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นใช่โรคเบาหวานหรือไม่ เพื่อจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

สายด่วนสุขภาพโทร. 0 2743 9999 ต่อ 2999
Line Official : https://lin.ee/dED0pj2




 

Create Date : 15 กันยายน 2566   
Last Update : 15 กันยายน 2566 9:30:36 น.   
Counter : 78 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com