นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
 

สภากาชาดไทย ร่วมกับ โรงพยาบาลรามคำแหง เชิญร่วมบริจาคโลหิต ครั้งที่ 47 



สภากาชาดไทย ร่วมกับ โรงพยาบาลรามคำแหง เชิญร่วมบริจาคโลหิต ครั้งที่ 47 

วันอังคารที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 09.00-15.00 น. (พักเที่ยง 12.00-13.00 น.) ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคาร 3 ชั้น 10 โรงพยาบาลรามคำแหง

"โดยหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ของสภากาชาดไทยมารับบริจาคโลหิตของท่านเอง"

โรงพยาบาลรามคำแหงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการรับบริจาคเลือดนอกพื้นที่ให้กับสภากาชาดไทย โลหิตทุกยูนิตที่ได้รับบริจาคจากท่าน สภากาชาดไทย จะนำไปใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั่วประเทศ

คำแนะนำการเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต
  • 5 ขั้นตอนในวันมาบริจาคโลหิต
  • Q & A เพิ่งฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือ วัคซีนป้องกันโควิด บริจาคโลหิตได้ไหม?
คลิกอ่าน >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1000

เตรียมร่างกายให้พร้อมแล้วมาบริจาคเลือดกันเยอะๆ นะครับ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
Call center โทร.1512  
Line Official : https://lin.ee/dED0pj2




 

Create Date : 02 เมษายน 2567   
Last Update : 2 เมษายน 2567 11:50:32 น.   
Counter : 174 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


“ตับ” คุณยังแข็งแรงดีอยู่ไหม?... มาเช็กกัน



“ตับ” คุณยังแข็งแรงดีอยู่ไหม?... มาเช็กกัน

สัญญาณเตือนว่าตับอาจมีปัญหา..
.
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
  • ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม
  • ผิวแห้ง คัน
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
** หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

ภาวะตับอักเสบเรื้อรังเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะไขมันพอกตับ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน ใช้ยาเกินความจำเป็น ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เมื่อตับอักเสบเป็นเวลานานจะส่งผลทำให้เกิดภาวะตับแข็งได้

ปัจจุบันเราสามารถตรวจเช็กการทำงานของตับได้ละเอียดมากขึ้น ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่าเครื่อง Liver Scan หน้าตาของเครื่องก็จะมีลักษณะเหมือนเครื่องอัลตราซาวนด์ เข้ามาทดแทนการเจาะตรวจชิ้นเนื้อตับ สามารถตรวจวัดปริมาณไขมันในตับและพังผืดในตับได้พร้อมกัน วิธีการตรวจทำได้ง่ายโดยการใช้หัวตรวจแตะที่บริเวณผิวหนังของคนไข้และส่งคลื่นเสียงสะท้อนไปยังบริเวณตับ ซึ่งสะดวกรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องมีความเสี่ยงจากการโดนเจาะตับ แล้วก็ไม่เจ็บตัวอีกด้วย

ตรวจตับ แบบไม่เจ็บด้วย Liver Scan อ่านข้อมูลเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3vzNwaR

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
แผนกโรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลรามคำแหง >> https://bit.ly/4bar1cL
โทร.1512 ต่อ 2280, 2288, 2289
Line Official : @ramhospital




 

Create Date : 01 เมษายน 2567   
Last Update : 1 เมษายน 2567 9:58:08 น.   
Counter : 109 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


รู้หรือไม่?... โรคลมชักไม่ได้มีแค่อาการชักเกร็งและหมดสติ



รู้หรือไม่?... โรคลมชักไม่ได้มีแค่อาการชักเกร็งและหมดสติ

26 มีนาคม วันโรคลมชักโลก โอกาสดีที่จะมาทำความรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้น 

โรคลมชัก เกิดจากความผิดปกติของสมองส่งผลต่อระบบไฟฟ้า ทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทหลากหลายรูปแบบ หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่า “โรคลมชัก” มีเพียงอาการชักเกร็งและหมดสติ แต่ความจริงแล้ว ยังมีอาการอีกหลากหลายรูปแบบที่คนทั่วไปอาจไม่รู้จัก

มาทำความรู้จัก 3 ลักษณะเด่นของอาการชัก ที่ช่วยให้สังเกตได้ว่าเป็นอาการของโรคลมชักหรือไม่
  • การเคลื่อนไหวร่างกายผิดปกติ ควบคุมไม่ได้ เช่น อาการมือ แขน ขาเกร็งหรือกระตุก หน้าเบี้ยว มือหยิบจับสิ่งของโดยไม่รู้ตัว ส่งเสียงแปลกๆ เป็นต้น
     
  • แบบแผนคล้ายเดิม อาการชักจะเกิดขึ้นแบบเดิมซ้ำๆ เช่น ถ้ามีอาการมือขวาเกร็ง ก็จะมีอาการเกร็งที่มือขวาเหมือนเดิมซ้ำๆ โดยจะไม่เปลี่ยนไปเป็นข้างซ้าย
     
  • ระยะเวลาสั้นๆ หายได้เอง อาการชักมักเป็นเวลาสั้นๆ ประมาณ 10 วินาที ถึง 3 นาที และหายได้เอง
ใครที่มีอาการเคลื่อนไหวผิดปกติที่ไม่สามารถควบคุมได้ ลักษณะคล้ายๆ เดิมทุกครั้ง และเป็นในเวลาสั้นๆ ควรสงสัยว่าเป็นอาการชักเสมอ แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรับการรักษาที่ถูกต้องตรงจุด ป้องกันไม่ให้อาการของโรคลมชักรุนแรงมากขึ้น และช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นจากอาการชักด้วย...

“วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคลมชักและการปฐมพยาบาลผู้ป่วยโรคลมชัก” คลิกอ่าน https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/612

สายด่วนสุขภาพโทร. 1512 ต่อ 2999
Line Official : https://lin.ee/dED0pj2




 

Create Date : 26 มีนาคม 2567   
Last Update : 26 มีนาคม 2567 10:57:45 น.   
Counter : 93 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


อาการ “ปวดศีรษะ” จาก “เนื้องอกในสมอง”



อาการ “ปวดศีรษะ” จาก “เนื้องอกในสมอง”

เนื้องอกในสมอง คือ ก้อนเนื้อที่เจริญเติบโตผิดปกติในสมองหรือบริเวณใกล้เคียง มักทำให้เกิดอาการปวดศีรษะเป็นอาการหลัก เนื่องจากเนื้องอกจะเบียดเนื้อสมองและเพิ่มความดันในกะโหลกศีรษะ

อาการปวดศีรษะจากเนื้องอกในสมอง มักมีลักษณะดังนี้ 
  •  ปวดศีรษะรุนแรง ปวดตลอดเวลา
  • ปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะทานยาแก้ปวดก็ไม่สามารถบรรเทาได้
  • ปวดศีรษะมักเกิดตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือช่วงเวลากลางคืน
  • ปวดศีรษะมากกว่า 15 วันต่อเดือน อย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน

นอกจากอาการปวดศีรษะแล้ว หากเนื้องอกไปกดเบียดหรือทำลายเนื้อสมอง ผู้ป่วยอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ชา อ่อนแรง หน้าเบี้ยว ชัก ความจำหรือพฤติกรรมผิดปกติ

การตรวจหาความผิดปกติของเนื้องอกในสมอง สามารถทำได้ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และวางแผนการรักษาได้ทันทีก่อนที่จะลุกลาม

เนื้องอกในสมองอันตรายแค่ไหน รักษาได้หรือไม่? คลิกอ่าน >> https://bit.ly/3u0Thhp

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันโรคเนื้องอกในสมองได้อย่างสมบูรณ์ แต่สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ เช่น หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดเนื้องอก เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อตรวจหาความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่เนิ่นๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์รักษาเนื้องอกในสมอง โรงพยาบาลรามคำแหง >> https://bit.ly/4aVgNgt
โทร 0 2743 9999 ต่อ 2130, 2138, 2139
Line Official : https://lin.ee/dED0pj2




 

Create Date : 25 มีนาคม 2567   
Last Update : 25 มีนาคม 2567 9:59:15 น.   
Counter : 109 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


ปวดท้องประจำเดือน... อาจไม่ใช่เรื่องปกติ




ปวดท้องประจำเดือน... อาจไม่ใช่เรื่องปกติ





ผู้หญิงหลายคนคงคุ้นเคยกับอาการปวดท้องก่อนและระหว่างมีประจำเดือน บางคนอาจรู้สึกปวดหน่วง ปวดเกร็ง ไปจนถึงปวดรุนแรงบริเวณท้องน้อย บางรายมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหลัง คลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูก หรือปวดศีรษะ หลายคนมักเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง






แต่รู้หรือไม่? ว่าอาการปวดท้องประจำเดือนอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงได้ หากคุณมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้ไปพบแพทย์

  • ทานยาแล้วไม่หาย แม้จะทานยาแก้ปวดแล้ว แต่อาการปวดไม่ดีขึ้น หรือมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
  • มีไข้ร่วมด้วย อาการปวดท้องประจำเดือนที่มาร่วมกับไข้ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  • เลือดออกมากผิดปกติ เลือดประจำเดือนออกมากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย หรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่
  • เลือดมีสีแปลก เลือดประจำเดือนมีสีคล้ำ ดำ หรือมีกลิ่นเหม็น
  • ปวดท้องน้อยแม้ไม่มีประจำเดือน อาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ
  • ตกขาวมีกลิ่น คัน อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในช่องคลอด
  • ปวดท้องประจำเดือนรุนแรง ปวดจนรบกวนกิจวัตรประจำวัน ส่งผลต่อการทำงาน เรียน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ
การปวดท้องประจำเดือนที่รุนแรง หรือมีอาการผิดปกติร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง เช่น เนื้องอกมดลูก, ถุงน้ำรังไข่, เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่, ช็อกโกแลตซีสต์ ฯลฯ

ดังนั้น คุณผู้หญิงควรใส่ใจกับสัญญาณเตือนของร่างกายตัวเอง หากมีอาการปวดท้องประจำเดือนที่ผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาอย่างถูกต้อง

อย่ามัวแต่ทนปวดเลยครับ!! การรักษาที่ทันท่วงที จะช่วยให้คุณผู้หญิงมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข





 




 

Create Date : 22 มีนาคม 2567   
Last Update : 22 มีนาคม 2567 11:40:00 น.   
Counter : 126 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com