นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
 

คืนความฟิตให้หัวใจด้วย Cardiac rehab


คืนความฟิตให้หัวใจด้วย Cardiac rehab

❤ ปกติแล้วเราอาจเคยได้ยิน คนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ หลังผ่าตัดหรือเข้ารับการรักษาแล้ว จะไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงทำกิจกรรมที่โลดโผนหรือทำให้หัวใจทำงานหนักไม่ได้อีกต่อไป

แต่ทว่านั่นเป็นชุดข้อมูลเก่า เพราะปัจจุบันนี้เราสามารถฟื้นฟูผู้ป่วยได้ด้วยการทำ Cardiac rehab ผู้ป่วยหลังเข้ารับการฟื้นฟูแล้วจะกลับมามีสมรรถภาพและสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ มีอาการเหนื่อยน้อยลงอีกด้วย

เรียกว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ดีเหมือนก่อนที่จะป่วยทั้งสภาพร่างกายและจิตใจก็ไม่ผิดอะไรนัก

📌 หลักๆ แล้ว เราจะแบ่งการฟื้นฟูออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยการออกกำลังกาย ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้วิธีการออกกำลังกายอย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น มีพลังงานมากขึ้น กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น มีสุขภาพจิตที่ดีและลดภาวะแทรกซ้อนของโรคต่างๆ

และส่วนที่สองจะเป็นการให้คำแนะนำเรื่องโรคหัวใจและวิธีการดูแลสุขภาพ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยไม่กลับมาเป็นโรคหัวใจอีก โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจเป็นผู้ประเมินและวางแผนโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน

จะดีแค่ไหน?… หากคนที่คุณรัก จะสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ อย่างที่เคยทำได้

👉 ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/318




 

Create Date : 18 มกราคม 2564   
Last Update : 18 มกราคม 2564 10:23:36 น.   
Counter : 633 Pageviews.  


ถ้าสิ่งเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ?



✔ เที่ยวพักผ่อนคนเดียว
✔ ทำงานอดิเรกที่รัก
✔ ลุยกิจกรรมกับลูกหลาน
✔ สังสรรค์กับเพื่อน

ถ้าสิ่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องยาก อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

เพราะหัวใจของคุณกำลังมีปัญหา และต้องการการดูแล ที่โรงพยาบาลรามคำแหง แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ CARDIAC REHABILITATION เราพร้อมดูแลคุณ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจ เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่เหมาะสม และตรงจุดที่หัวใจแต่ละคนต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ

⭐แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด รพ.รามคำแหง รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.ram-hosp.co.th/readcenter_clinic/81

สายด่วนสุขภาพโทร 0 2743 9999 




 

Create Date : 15 มกราคม 2564   
Last Update : 15 มกราคม 2564 10:50:55 น.   
Counter : 557 Pageviews.  


หัวใจของคุณต้องการอะไร?

 


หัวใจของคุณต้องการอะไร?

❤️ ไม่ว่าหัวใจของคุณกำลังต้องการบอกอะไร อยากทำตามฝัน หรือต้องการการรักษาแบบไหน

เราพร้อมดูแลคุณ ที่โรงพยาบาลรามคำแหงแผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ CARDIAC REHABILITATION โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจ เพื่อการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุดที่หัวใจแต่ละคนต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ

⭐แผนกฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด รพ.รามคำแหง รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.ram-hosp.co.th/readcenter_clinic/81




 

Create Date : 13 มกราคม 2564   
Last Update : 13 มกราคม 2564 11:35:44 น.   
Counter : 565 Pageviews.  


ทำไม?... เราถึงง่วง หลังกินข้าวเที่ยง



🍛🍜 “Food Coma” กินเที่ยง ง่วงบ่าย อาการที่จัดการได้

หลายคนที่มีอาการช่วงเช้ากระปรี้กระเปร่า แต่พอพักเที่ยงซัดข้าวจนจุกทีไร ทำไม๊มันถึงง่วงได้ง่วงดีแบบนี้ ใครที่เคยมีอาการดังกล่าวขอให้ล้อมวงเข้ามา เพราะเรื่องแบบนี้มันมีคำอธิบายในวิทยาศาสตร์นะ

ซึ่งอาการที่กินอาหารมาอิ่มๆ แล้วดูง่วง ดูเซื่องซึมไม่อยากเคลื่อนตัวประหนึ่งงูเหลือมแบบนี้ เราเรียกว่าอาการ “Food Coma” มักเกิดขึ้นหลังกินอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมันเป็นหลัก เพราะหลังจากที่อาหารเหล่านี้ผ่านกระบวนการย่อยแล้ว จะได้กรดอะมิโนตัวหนึ่งที่เรียกว่า ทริปโตเฟน (Tryptophan) เมื่อทริปโตเฟนเข้าสู่ระบบประสาท จะมีผลให้สมองผ่อนคลายความเครียด เมื่อร่างกายเข้าสู่ระยะผ่อนคลายจึงเกิดอาการง่วงนอนนี่แหละ ไม่ได้เป็นพิษจากข้าวเหนียวหรือข้าวเที่ยงแต่อย่างใดนะ

นอกจากนี้การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือทำงานใช้สมองหนักเกินไปในช่วงเช้า ก็อาจทำให้เกิดอาการ Food Coma ตอนกลางวันได้เช่นกัน ซึ่งอาการจะมากหรือน้อย เป็นบ่อยหรือนานๆ เป็นที อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนไป

และไม่ต้องตกใจไปนะครับ... อาการ Food Coma ไม่ใช่โรคร้ายแรงแค่เป็นภาวะทางสรีรวิทยาที่พบได้ในคนทั่วไป อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เช่น เผลอหลับตอนทำงานหรือตอนเข้าประชุมอะไรแบบนี้ แต่ถ้าคุณดันเป็น Food Coma ตอนขับรถไปด้วย อันนี้เข้าข่ายอันตรายแล้ว เพราะอาจพาให้หลับในลงข้างทางเอาได้ง่ายๆ

📌 ฉะนั้นถ้าเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นหลังกินข้าวจุกๆ ควรปฏิบัติตามนี้นะ

✳️ หลังอาหารมื้อกลางวัน ควรขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง อาจไปเดินย่อยซัก 10-15 นาที ก็จะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายได้ดีขึ้น

✳️ กินอาหารแต่ละมื้อให้พอดีอย่ากินอิ่มจนเกินไป โดยเฉพาะมื้อกลางวัน ให้เลี่ยงอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

✳️ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน เพื่อให้สมองและร่างกายสดชื่น

✳️ จัดการงานกองโตบนโต๊ะทำงานของคุณในช่วงเช้า เพราะเป็นช่วงที่สมองกำลังตื่นตัว หากสะสมมาทำตอนบ่ายหรือหลังทานมื้อกลางวัน อาจทำให้คุณรู้สึกเบื่อ เหนื่อย เพิ่มความล้าและกระตุ้นการง่วงนอนได้

✳️ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยที่สุดคือ 6 ชั่วโมง ถ้าร่างกายพักผ่อนเต็มที่ โอกาสที่จะง่วง ระหว่างวันก็จะน้อยลง

✳️ หาโอกาสงีบหลับในช่วงพักสักประมาณ 15-20 นาที ก็จะช่วยให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นได้




 

Create Date : 11 มกราคม 2564   
Last Update : 11 มกราคม 2564 9:59:10 น.   
Counter : 779 Pageviews.  


3 ท่า สู้อาการปวดหลัง ของชาวออฟฟิศซินโดรม

 

3 ท่า สู้อาการปวดหลัง ของชาวออฟฟิศซินโดรม

นอกจากโรคซึมเศร้าที่จะเป็นที่พูดถึงในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาแล้ว โรคออฟฟิศซินโดรม ก็เป็นอีกโรคที่อยู่ในกระแสหลักไม่แพ้กัน เพราะคนส่วนใหญ่ก็นั่งทำงานในออฟฟิศกันเป็นหลัก ยิ่งช่วงที่ต้อง Work Form Home คนทำงานที่บ้านหลายรายที่โต๊ะและเก้าอี้ไม่ได้ระดับที่ถูกต้อง ก็ป่วยเป็นอาการนี้กันถมเลยทีเดียว

อาการของโรคออฟฟิศซินโดรมส่วนใหญ่ที่เจอกันมากที่สุด ก็คือ “อาการปวดหลัง” นี่แหละ เข้าใจนะว่ามาหาหมอแต่ละทีเสียเวลาเยอะแยะเลย ฉะนั้นแล้วเราเลยมีท่าบริหารง่ายๆ เพื่อช่วยผ่อนคลายอาการปวดหลังมาให้ลองทำที่บ้านดูก่อน
 

* ท่าก้มหน้า

ให้นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานจากนั้นยื่นมือไปด้านหน้า และค่อยๆ โน้มตัวลงให้หน้าอกติดกับต้นขามากที่สุด พร้อมเอื้อมมือให้จับถึงบริเวณข้อเท้าหรือปลายขาให้ได้มากที่สุด (ค้างไว้ 5 วินาที)


* ท่ายืดกล้ามเนื้อใต้ท้องแขน ไหล่ หลัง

เริ่มต้นยกแขนสูงจากนั้นให้เอื้อมมือไปจับพนักพิงหัว (ถ้าไม่มีพนักพิงหัวให้ประสานมือที่ท้ายทอยแทน) จากนั้นดึงตัวไปข้างหน้า เพื่อยืดกล้ามเนื้อทุกส่วนให้ยืดหยุ่น (ค้างไว้ 5 วินาที)



 

* ท่ายกหลัง

เริ่มต้นให้ท้าวมือกับเก้าอี้นั่งของเรา จากนั้นทิ้งน้ำหนักลงไปที่เท้า แล้วเกร็งกล้ามเนื้อยกสะโพกขึ้น พยายามยกให้ได้มากที่สุด (ค้างไว้ 5 วินาที)

 


โดยทำทั้ง 3 ท่ารวมเป็นเซ็ต เซ็ตละ 5-10 ครั้งก็พอ แนะนำว่าถ้าใครมีอาการปวดหลังมาก ควรทำทุกวันเป็นอย่างยิ่ง เท่านี้หลัง คอและไหล่ ก็ได้ผ่อนคลายหายปวดลงได้เพียบเลยล่ะ

แต่ถ้าทำไปซักสองสัปดาห์แล้วอาการปวดหลังยังไม่ทุเลาลง อันนี้แนะนำให้พบแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูเพื่อตรวจหาสาเหตุ และรักษาอาการให้ตรงจุดนะ บางครั้งการกายภาพด้วยท่าพื้นฐานแบบนี้อาจฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้ไม่ทันใจ ต้องใช้เครื่องมืออื่นๆช่วยในการรักษาอีกทีนะ




 

Create Date : 08 มกราคม 2564   
Last Update : 8 มกราคม 2564 10:47:58 น.   
Counter : 670 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com