ริดสีดวงทวาร หายเองได้ไหม?... สังเกตอย่างไร?   ริดสีดวงทวาร หายเองได้ไหม?... สังเกตอย่างไร? ริดสีดวงทวาร แม้จะดูไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง แต่ถ้าเป็นริดสีดวงทวารแล้วไม่รักษาหรือรักษาไม่ถูกวิธี ก็มีโอกาสที่จะกำเริบอักเสบ หรือมีอาการแทรกซ้อนต่างๆ เกิดขึ้นตามมาได้เช่นกันนะครับ... อาการแสดง เบื้องต้นที่ให้สงสัยว่าเป็นริดสีดวงทวารคือ มีเลือดสีแดงสดๆ ออกมาเวลาเบ่งถ่ายอุจจาระอาจเป็นเลือดฉาบบนผิวของอุจจาระหรือมีคราบเลือดสดติดอยู่บนกระดาษชำระเวลาที่เช็ด หรือมีก้อนเนื้อนิ่มๆ โผล่ออกมาจากรูทวารหนัก ความรุนแรงของอาการก็จะแตกต่างกันไป ระยะแรก อาจมีเลือดออกให้เห็นไม่มีอาการเจ็บปวด ไม่มีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาจากรูทวารหนักเวลาถ่ายอุจจาระ   ระยะสอง มีก้อนเนื้อโผล่ออกมาจากทวารหนัก แต่ยุบหายไปได้เมื่อถ่ายอุจจาระเสร็จ   ระยะสาม ถ่ายเสร็จแล้วก้อนเนื้อยังอยู่ที่ทวารหนัก ต้องใช้นิ้วมือดันเข้าไป   ระยะสี่ ก้อนเนื้อไม่ยอมผลุบเข้าไปแม้ใช้นิ้วมือดัน ทำให้รู้สึกรำคาญ หรือมีอาการเจ็บปวด โรคริดสีดวงทวารยังอาจมีอาการคล้ายกับโรคอื่นๆ ทั้งที่ไม่ร้ายแรงและร้ายแรง เช่น โรคมะเร็งทวารหนักหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ ดังนั้นหากสังเกตเห็นอาการผิดปกติเหล่านี้ จึงควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัดตั้งแต่แรก และรับการรักษาที่เหมาะแต่เนินๆ ดีที่สุดครับ... การรักษา ก็ขึ้นอยู่กับระยะที่เป็นในระยะแรก สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการทานยา หรือใช้ยาเหน็บ ร่วมกับการดูแลตัวเอง กินอาหารที่มีกาก ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ และฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา หากเป็นระยะที่รุนแรงหัวริดสีดวงโผล่ บวมและอักเสบอยู่ภายนอกตลอดเวลา แพทย์อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด   Create Date : 16 ธันวาคม 2565     0 comment Last Update : 16 ธันวาคม 2565 10:14:09 น.     Counter : 582 Pageviews.   Share Tweet

ผ่าตัด “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” เรื่องไม่เล็ก... แต่แผลเล็ก ผ่าตัด “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” เรื่องไม่เล็ก... แต่แผลเล็ก หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของอาการปวดหลัง หากเส้นประสาทเกิดการอักเสบจะทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดขา ชาขา แต่ถ้าไปกดทับที่เส้นประสาท จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงชัดเจน โดยปกติแล้วหลังจากที่เกิดการอักเสบที่เส้นประสาทจะทำให้ปวดมากในช่วงแรก ๆ แต่อีกประมาณ 2 สัปดาห์ อาการจะดีขึ้นแต่จะยังเหลืออาการปวดตึงๆ อยู่ การตรวจวินิจฉัย เมื่อแพทย์ซักประวัติก็พอจะทราบแล้วว่ามีสาเหตุจากหมอนรองกระดูกหรือไม่ และถ้าสงสัยว่าจะเป็นหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท แพทย์จะส่งผู้ป่วยเข้ารับการสแกนด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI ซึ่งสามารถมองเห็นลักษณะของหมอนรองกระดูกที่มาทับเส้นประสาทได้อย่างชัดเจน เมื่อเป็นแล้วรักษาอย่างไร? การรักษาทำได้หลายวิธี ส่วนใหญ่แพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป โดยดูหลายอย่างตั้งแต่ตำแหน่ง ความรุนแรงของการกดทับ ความเสื่อมของตัวกระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลังของผู้ป่วย โดยการรักษาสามารถทำได้ตั้งแต่การทานยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัด หรือการฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในโพรงประสาท เพื่อลดอาการปวด ในผู้ป่วยบางคนที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาข้างต้น และยังมีอาการปวดมากจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ แพทย์จะแนะนำให้ทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดแผลเล็กผ่านกล้อง การผ่าตัดแผลเล็กผ่านกล้อง ศัลยแพทย์จะสอดกล้องเข้าไปยังเส้นประสาทส่วนที่ถูกกดทับ ผ่านทางแผลผ่าตัดขนาดเล็กประมาณ 1 ซม. ซึ่งจะช่วยให้แพทย์มองเห็นเส้นประสาทได้ชัดเจนมากขึ้น และเลือกตัดเฉพาะส่วนของหมอนรองกระดูกที่ไปกดทับเส้นประสาทออกได้โดยไม่ต้องตัดเลาะกล้ามเนื้อส่วนที่ดีออกลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อโดยรอบ ใช้เวลาไม่นานประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ผู้ป่วยเจ็บตัวน้อย แผลมีขนาดเล็ก ลดภาวะแทรกซ้อนและฟื้นตัวหลังผ่าตัดเร็วขึ้น ** โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท สามารถรักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ถ้ารีบมาพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ แต่ถ้าอาการรุนแรงและจำเป็นต้องผ่าตัดจริงๆ ปัจจุบันด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ รวมถึงความเชี่ยวชาญของแพทย์ จึงช่วยให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการบาดเจ็บ ลดการนอนโรงพยาบาล และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น... “เทคโนโลยีการผ่าตัดแผลเล็กผ่านกล้องเอ็นโดสโคป” คลิกชม >> https://bit.ly/3CzHf0e   Create Date : 14 ธันวาคม 2565     0 comment Last Update : 14 ธันวาคม 2565 10:27:57 น.     Counter : 314 Pageviews.   Share Tweet

เชียร์บอลโลก (2022) อย่างไร?.. ให้หน้าไม่พังและไม่เพลีย แม้นอนดึก   เชียร์บอลโลก (2022) อย่างไร?.. ให้หน้าไม่พังและไม่เพลีย แม้นอนดึก ฟุตบอลโลก 2022 ทั้งที หนุ่มสาวคอบอลทั้งหลายคงไม่พลาดที่จะดูทุกแมตช์การแข่งขัน เพราะบอลโลกไม่ได้มีทุกปี 4 ปีถึงมีให้ดูสักครั้ง จะพลาดได้ไง! เดี๋ยวคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง แม้ต้องอดหลับอดนอนก็ยอมเพื่อรอดูบอลคู่โปรด… แต่พอมาดูกระจกกลับต้องตกใจ เพราะใต้ตาดำคล้ำ หน้าหมองเป็นสิว ผิวก็เหี่ยวโทรมสุดๆ แถมร่างกายก็อ่อนเพลีย แบบนี้ปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆ ด้วยวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณดูบอลโลกได้ทุกนัดไม่ว่าจะดึกขนาดไหนก็ตื่นไปทำงานหรือไปเรียนได้แบบสดใส ไม่เสียสุขภาพ ราวกับนอนเต็มอิ่มทั้งคืน จะมีวิธีไหนบ้างมาดูกัน...! ทำความสะอาดผิวก่อนนอน ไม่ว่าจะดูบอลดึกแค่ไหน ห้ามไม่อาบน้ำหรือไม่ล้างหน้าเด็ดขาดเพราะสิ่งสกปรกจะเกิดการอุดตันผิว ทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าไม่อาบน้ำไม่ล้างหน้าร่วมกับนอนดึกด้วยแล้ว ก็จะทำให้ผิวทั้งเป็นสิว แห้งกร้าน แถมยังโทรมมากขึ้นด้วย    ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจะช่วยปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี เพราะการล้างหน้าด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจะส่งผลให้ผิวหน้าเกิดการอักเสบ และส่งผลให้ผิวคล้ำเสียได้ง่ายมากขึ้น   ทาครีมบำรุงก่อนนอน การทาครีมเป็นอีกวิธีในการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก และช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้ดีขึ้นได้ ยิ่งถ้ามาส์กหน้าร่วมด้วย ก็จะช่วยให้ผิวหน้าได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่มากขึ้น รับรองว่าตื่นมาหน้าจะสดใสเหมือนนอนแบบเต็มอิ่ม ดูแลผิวหน้าไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องดูแลร่างกายจากภายในบ้าง เพราะอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนนอนดึกเช่นกัน ดื่มน้ำเยอะๆ หากนอนน้อยหรืออดนอน จะส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ ดังนั้นระหว่างวันจึงควรจิบน้ำบ่อยๆ และควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยให้ออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้นร่างกายมีการตื่นตัวมากขึ้น   ทานผัก ผลไม้และถั่ว ผัก ผลไม้จะมีวิตามินซี วิตามีนบี ที่ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ส่วนถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน แร่ธาตุต่างๆ ที่สูงมาก แถมมีโพแทสเซียมที่มีส่วนในการบำรุงสมอง และระบบประสาท หากร่างกายอ่อนเพลียเพราะอดนอนการทานถั่วระหว่างวันช่วยได้   น้ำโกโก้ ในโกโก้มีสารฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงสมองดีขึ้น ซึ่งตื่นนอนมาสามารถดื่มโก้โกได้เลยทันที เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว สมองปลอดโปร่งมากขึ้น    ใบบัวบก ใครที่อดหลับอดนอน หรือนอนดึก บ่อยๆ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ และส่งผลให้เกิดการอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งการกินใบบัวบกจะช่วยลดการอักเสบเหล่านั้นได้ แถมยังทำให้ร่างกายสดชื่นได้อีก  เชียร์บอลให้สนุก และก็อย่าลืมดูแลผิวหน้าควบคู่กันไปด้วยนะ... ที่สำคัญควรหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ จัดตารางการดูบอลและเวลานอนให้ดี เพราะถ้าอดนอนมากๆ ไม่ใช่แค่ปัญหาผิวหน้าเท่านั้นที่ตามมา แต่ยังส่งผลต่อร่างกายและสมองด้วย ที่อาจทำให้รู้สึกเบลอๆ งงๆ ไม่มีสมาธิระหว่างทำงานหรือเรียนหนังสือได้ ลุ้นบอลได้แต่อย่าให้เสียงานหรือเสียการเรียนนะครับคอบอลทั้งหลาย...   Create Date : 12 ธันวาคม 2565     0 comment Last Update : 12 ธันวาคม 2565 10:23:59 น.     Counter : 335 Pageviews.   Share Tweet

โรคกระเพาะอาหาร ไม่รักษาอาจเสี่ยงเป็นมะเร็ง โรคกระเพาะอาหาร เป็นแล้วไม่รักษาปล่อยให้เรื้อรัง ระวัง! จะเป็น มะเร็งกระเพาะอาหาร เอาได้นะครับ ความน่ากลัวของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร คือมักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น กว่าจะรู้ว่าเป็นอาการก็รุนแรงและลุกลามไปมากแล้ว ใครที่มีอาการแบบนี้ไปพบแพทย์เถอะครับ แม้อาการเหมือนจะไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ป้องกันไว้ก็ไม่มีอะไรเสียหายนะ... ปวดท้องเรื้อรัง แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ เรอบ่อย ท้องอืด จุกเสียดแน่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ที่น่าห่วง คือโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มีอาการคล้ายกับโรคกระเพาะ ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นแค่โรคกระเพาะอาหารจึงไม่ไปพบแพทย์ และชอบซื้อยามาทานเอง จึงอยากแนะนำว่าหากเป็นโรคกระเพาะอาหารหรือมีอาการปวดคล้ายโรคกระเพาะไม่ควรซื้อยากินเอง แต่ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและตรวจติดตามอาการดีกว่า แต่ถ้ารักษาแล้วไม่ดีขึ้น แพทย์อาจ ตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่ามีแผลหรือมีการอักเสบในกระเพาะอาหาร เป็นเนื้องอกหรือมะเร็งกันแน่ เพราะหากไม่ใส่ใจหรือปล่อยไว้สุดท้ายหากเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารและมีการลุกลามรักษาไม่ทันอาจทำให้เสียชีวิตได้ ** ข้อดีของการตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหาร คือสามารถตรวจพบความผิดปกติของพื้นผิวกระเพาะได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่กระเพาะจะเป็นแผล เกิดการอักเสบหรือมีก้อนมะเร็ง และยังสามารถตรวจวินิจฉัยโรคในกระเพาะอาหารอื่นๆ ได้อีกด้วย   Create Date : 09 ธันวาคม 2565     0 comment Last Update : 9 ธันวาคม 2565 11:47:27 น.     Counter : 412 Pageviews.   Share Tweet

มือชา (อย่าปล่อยชิว)... หนึ่งในอาการ “พังผืดทับเส้นประสาทข้อมือ”   มือชา (อย่าปล่อยชิว)... หนึ่งในอาการ “พังผืดทับเส้นประสาทข้อมือ” พังผืดทับเส้นประสาทข้อมือ เป็นโรคที่เกิดจากการใช้มือเป็นประจำ หรือมีพฤติกรรมการใช้ข้อมืออยู่ในท่าเดิมนานๆ เช่น การงอข้อมือ การกระดกข้อมือต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์แทบจะตลอดเวลา หรือคนที่ทำกิจกรรมเดิมซ้ำๆ เป็นกิจวัตร หรือในนักกีฬาบางประเภทที่ต้องใช้ข้อมือมากๆ อาการพังผืดทับเส้นประสาทข้อมือ เมื่อพังผืดทับเส้นประสาทจะทำให้มีอาการใดอาการหนึ่ง หรือเป็นหลายๆ อาการก็ได้ เช่น มือชา เป็นเหน็บ ปวดบริเวณมือ ข้อมือและนิ้ว โดยเฉพาะบริเวณนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ บริเวณมือเหมือนมีเข็มทิ่ม รู้สึกออกร้อนที่มือ รู้สึกคล้ายโดนไฟช็อตที่บริเวณมือ กำมือได้ไม่สนิท มืออ่อนแรง หยิบจับของได้ยาก ระยะแรกอาการต่างๆ เหล่านี้อาจจะมีอาการชาเป็นบางช่วง มักเป็นตอนกลางคืนและเช้ามืด หากอาการมากขึ้น ก็จะเป็นบ่อยมากขึ้นหรือเป็นตลอดเวลาได้ ดังนั้นใครที่มีอาการเข้าข่ายว่าจะเป็นพังผืดทับเส้นประสาทข้อมือ และอาการเริ่มส่งผล กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่สามารถใช้ข้อมือได้อย่างเต็มที่ เช่น หยิบจับของไม่ถนัด หยิบแล้วหล่น ไม่สามารถขับรถได้นาน หรือใช้งานคอมพิวเตอร์แล้วเกิดอาการปวดที่บริเวณข้อมือ ควรพักการ ทำกิจกรรม และหยุดใช้ข้อมือข้างที่มีอาการประมาณ 1-2 อาทิตย์ หากพักแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ การรักษาพังผืดทับเส้นประสาทข้อมือ อาจเริ่มจากการปรับใช้งานมือให้เหมาะสม ทานยาเพื่อรักษาอาการ ใส่เฝือกอ่อน และทำกายภาพบำบัด หากรักษาด้วยวิธีดังกล่าวแล้วไม่ดีขึ้น เช่น รู้สึกชากว่าเดิม หรือกล้ามเนื้อโคนนิ้วหัวแม่มือฝ่อลีบ อาจต้องผ่าตัดคลายพังผืดที่มือเพื่อให้เส้นประสาททำงานให้ดีขึ้น พังผืดทับเส้นประสาทข้อมือ โรคยอดฮิตของคนทำงาน คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=g2vFrKTOc3Y   Create Date : 08 ธันวาคม 2565     0 comment Last Update : 8 ธันวาคม 2565 10:33:55 น.     Counter : 464 Pageviews.   Share Tweet