ดูแลช่องปากลูกน้อยให้ดี เพราะเบบี๋ก็ฟันผุได้!
“โรคฟันผุ” ในเด็กเล็กเป็นปัญหาสุขภาพที่พ่อแม่ต้องใส่ใจ และต้องไม่ละเลยการทำความสะอาดช่องปากให้เด็ก เริ่มตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น โดยทั่วไปทันตแพทย์จะแนะนำให้ผู้ปกครองพาเด็กมาตรวจสุขภาพช่องปากครั้งแรกภายใน 6 เดือน หลังจากฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น หรืออย่างช้าไม่เกินอายุ 1 ปี เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก ประเมินความเสี่ยงโรคฟันผุ และให้คำแนะนำวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟัน รวมถึงพาเด็กกลับมาตรวจและรับการเคลือบฟลูออไรด์ ทุก 3-6 เดือน ตามความเสี่ยงโรคฟันผุของเด็กแต่ละคน
คุณพ่อคุณแม่จึงควรดูแลทำความสะอาดช่องปากและฟันให้เด็กอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เด็กมีความคุ้นเคยกับการทำความสะอาดช่องปาก โดยช่วงที่ฟันยังไม่ขึ้นให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วเช็ดทำความสะอาดสันเหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม วันละ 2 ครั้งช่วงเช้าและก่อนเข้านอน เมื่อมีฟันขึ้นแล้วก็เพิ่มการทำความสะอาดฟันโดยการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แล้วเช็ดยาสีฟันออกทันที เพื่อไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟัน แล้วตามด้วยการเช็ดลิ้นและกระพุ้งแก้มวันละ 2 ครั้งเช่นกัน
การเลือกใช้ยาสีฟัน แนะนำให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่มีความเข้มข้นของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยใช้ยาสีฟันในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ดังนี้
- อายุน้อยกว่า 3 ปี ใช้ปริมาณยาสีฟันเป็นฟิล์มบางๆ คุณพ่อคุณแม่ช่วยแปรงให้โดยให้เด็กนอนราบ และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดยาสีฟันออกทันทีในการแปรงแต่ละตำแหน่ง
- อายุ 3-6 ปี ใช้ปริมาณยาสีฟัน เท่าเมล็ดข้าวโพด คุณพ่อคุณแม่ช่วยแปรงให้ และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดยาสีฟันออกทันที เช่นเดียวกับเด็กเล็ก
- 6 ปีขึ้นไป ใช้ปริมาณยาสีฟันเท่าความยาวของแปรง ให้เด็กฝึกแปรงเองโดยคุณพ่อคุณแม่ช่วยตรวจดูและแปรงซ้ำให้
** การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ จะช่วยป้องกันฟันผุได้ แต่ควรระมัดระวังไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟัน
นอกจากการดูแลรักษาความสะอาดฟันแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกและสอนให้เด็กทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงอาหารที่ทำให้ฟันผุ เช่น นมรสหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยวฯลฯ และทานอาหารให้เป็นมื้อ โดยมื้อหลักและอาหารว่างควรห่างกันไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง