หลังวัย 40 ทำไม?.. กินอะไร ก็อ้วนง่ายจัง
![](https://www.bloggang.com/data/r/ramtalk/picture/1640317981.jpg)
หลังวัย 40 ทำไม?.. กินอะไร ก็อ้วนง่ายจัง![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2021/12/24/c381f5581643b08b33704947ca5046ea.jpeg)
เคยรู้สึกมั้ยว่า พออายุเริ่มมากขึ้น กินข้าวเท่าเดิมแต่ทำไม? น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางวันแค่หายใจยังอ้วนเลย ทั้งที่สมัยเป็นวัยรุ่นไม่เคยเป็นแบบนี้เลย!
ขออธิบายง่ายๆ ว่า สาเหตุหนึ่งเกิดจากการที่ระบบเผาผลาญหรือเมตาบอลิซึม (Metabolism) มันเริ่มเสื่อมยังไงล่ะ โดยร่างกายจะมีระบบเผาผลาญดีที่สุดวัยไม่เกิน 40 ปี หลังจากนั้นกินอะไรก็จะอ้วนง่ายแล้ว ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจกับคำว่า “ระบบเผาผลาญ” ที่เราเรียกกันว่าเมตาบอลิซึมกันก่อน ระบบนี้มันคือกระบวนการเคมีในร่างกายที่เปลี่ยนสารอาหารที่เรากินให้กลายเป็นพลังงานไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน หรือระบบอวัยวะในร่างกายก็ต้องใช้พลังงานทั้งสิ้น เหมือนเราขับรถแล้วต้องเติมน้ำมัน เครื่องยนต์จะขับเคลื่อนได้ก็ต้องไปเผาน้ำมันจนกลายเป็นพลังงาน ระบบเมตาบอลิซึมในร่างกายก็คล้ายๆ กันการเผาผลาญของคนก็เหมือนกับเครื่องยนต์ พอใช้ไปนานๆ เข้า มันก็เริ่มเสื่อมสภาพได้ ทำให้เผาผลาญได้ไม่เต็มที่เหมือนตอนเป็นวัยรุ่น ![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2021/12/24/166b5eae5b36eee30d0c682ebb7b0134.jpeg)
ซึ่งได้รับการวิจัยมาแล้วว่าระบบเผาผลาญของเราจะค่อยๆ เสื่อมลง 5% ทุก 10 ปี ตั้งแต่อายุเลยวัย 40 ปีไปแล้วคือถ้าปล่อยไว้ไม่ทำอะไรเจ้าค่าเมตาบอลิซึมมันก็จะลดไปเรื่อยๆ กินเท่าเดิมแต่เพิ่มเติมคือน้ำหนักมากขึ้น พูดแบบบ้านๆ ก็คืออ้วนง่ายนั่นแหละ แต่ถ้าไม่อยากเป็นแบบนั้นก็พอมีวิธีชะลอไม่ให้มันเสื่อมลง ซึ่งวิธีซ่อมเมตาบอลิซึมหลักๆ มีอยู่ 2 อย่างคือ การทานอาหารและการออกกำลังกาย
![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2021/12/24/19fb1de87820e7f8aa4663a5459e19c1.jpeg)
อย่างเรื่องอาหาร ก็ต้องปรับพฤติกรรมกันหน่อย เลี่ยงของหวาน ของมัน ทานผักเยอะๆ ที่สำคัญต้องทานอาหารที่มีโปรตีนเพื่อเสริมกล้ามเนื้อด้วยพอมีกล้ามเนื้อมากขึ้นร่างกายก็ต้องใช้พลังงานในการเผาผลาญมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ยิ่งกล้ามเนื้อเยอะกว่าไขมันก็ยิ่งเผาผลาญเยอะนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สาวๆ เผาผลาญได้น้อยกว่า เพราะตัวเล็กกว่าเลยมีกล้ามเนื้อน้อยกว่าและมีส่วนที่เป็นไขมันเยอะกว่าผู้ชายนั่นเอง
![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2021/12/24/a3b4e98ab962d9967ca0fd96373177ee.jpeg)
อีกเรื่องที่เพิ่มเมตาบอลิซึมได้ก็คือการออกกำลังกายเพราะจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานต่อวันให้ดียิ่งขึ้นถ้าจะออกกำลังกายให้เพิ่มการเผาผลาญก็ควรต้องออกกำลังโดยให้หัวใจเต้นในอัตรา 60-70 % ของอัตราสูงสุด
** คำนวนได้จากการเอาเลข 220-อายุปัจจุบัน จะได้ฮาร์ทเรทสูงสุด แล้วออกกำลังกายแค่ 60-70 %ของฮาร์ทเรทสูงสุดซึ่งตัวเลขที่ให้ออกกำลังกายที่ได้เป็นตัวเลขค่าประมาณเท่านั้น ถ้าจะเอาชัวร์ๆ ว่าเราต้องออกกำลังกายสักเท่าไร เพื่อให้ฮาร์ทเรตอยู่ในช่วงเผาผลาญไขมัน หรือถ้าอยากจะเพิ่มเมตาบอลิซึมด้วยการออกกำลัง ก็ควรจะรู้ลิมิตตัวเองด้วยการตรวจ Vo2 Max และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาล อันนี้จะช่วยให้ได้ผลและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แถมข้อดีของการทำเทส Vo2 Max จะทำให้เรารู้โซนออกกำลังกายที่เพิ่มความฟิตได้ด้วย ช่วยให้การออกกำลังกายไปแล้วจะฟิตขึ้น อึดขึ้น วิ่งได้ไกลขึ้นอะไรแบบนี้...(คุณแข็งแรงหรือฟิตแค่ไหน? VO2 Max มีคำตอบด้วยเทคโนโลยี CPET วัดอัตราการเผาผลาญออกซิเจนของร่างกาย คลิกอ่าน >> https://bit.ly/2L1uDCA) ดังนั่นใครที่อายุเกิน 40 ปีแล้วโปรดอย่านิ่งนอนใจ เพราะเมตาบอลิซึมมันเริ่มนับเวลาถอยหลังลดลงเรื่อยๆ แล้ว ฉะนั้นการออกกำลังกาย และเปลี่ยนพฤติกรรมการกินตั้งกะวันนี้คุ้มค่ากว่าการปล่อยให้อ้วน แล้วต้องจ่ายค่ารักษาโรคต่างๆ ทีหลังแน่นอน ![](https://talk.mthai.com/storage/uploads/2021/12/24/aac50cb1f16794d5f5a3413a9e816f08.jpeg)
Create Date : 24 ธันวาคม 2564 |
Last Update : 24 ธันวาคม 2564 10:55:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 688 Pageviews. |
|
![](../images/bg-follower.png) |
|