|
Food For Fun : Hot Wok Return # 96 ประจำเดือนมิถุนายน 2567
โดย พี่โอ (เนินน้ำ) กับโจทย์ "กับข้าวกับปลา"
   
แกงฮังเลเป็นอีกเมนูที่ที่บ้านชอบค่ะ ตามร้านมักใช้หมูสามชั้นจะได้แกงฮังเลที่นุ่มอร่อย
พอทำเองก็เลือกใช้ส่วนที่มีเนื้อมากกว่ามันหน่อยอย่างเนื้อหมูสันคอ ส่วนอีกเมนูเป็นอาหารจานผัด
ที่ได้ความกรอบหวานของดอกหอมและมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ค่ะ
แกงฮังเล
& ดอกหอมผัดเห็ดหอมกุ้ง
ส่วนประกอบ
เนื้อหมูสันคอ 500 กรัม
พริกแกงฮังเล 60 กรัม
กระเทียม
หอมแดง
ขิงซอย
น้ำปลา
น้ำตาลมะพร้าว
น้ำมะขามเปียก
น้ำสะอาด
น้ำมันพืช
วิธีทำ
1. ล้างแล้วหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้น ใส่พริกแกงฮังเลลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วหมักไว้สักครู่
ปอกเปลือกกระเทียม หั่นหอมแดงและซอยขิงแก่ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชในกระทะ พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อหมูที่หมักเครื่องแกงฮังเลลงไปผัดพอตึงตัว
เติมน้ำสะอาดพอท่วมเนื้อหมู ต้มไปเรื่อยๆจนเนื้อหมูสุก น้ำจะงวดลง
3. เปลี่ยนจากกระทะมาต้มต่อในหม้อ เติมน้ำสะอาด พอเดือดใส่กระเทียม หอมแดงและขิงซอยลงไป
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าวและน้ำมะขามเปียก ต้มต่อไปเรื่อยๆจนเนื้อหมูสุกนุ่ม ชิมรส ปิดไฟ
จะได้แกงฮังเลน้ำขลุกขลิก กลิ่นหอม
ต้นเข็มที่บ้านออกดอกเลยนำมาตกแต่งนิดหน่อยค่ะ
แกงฮังเล เนื้อหมูเปื่อยนุ่ม เสิร์ฟกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยก็อร่อย
สำหรับอาหารจานผัด วัตถุดิบหลักประกอบด้วย ดอกหอมหั่นท่อน เห็ดหอมสด เห็ดหอมแห้ง
ที่แช่น้ำแล้วหั่นเป็นชิ้น แครอทลวก กุ้งสด กระเทียมสับ โดยใส่น้ำมันพืชในกระทะ ตามด้วยกระเทียมสับ
และเห็ดหอม ผัดจนส่งกลิ่นหอมสักครู่จึงใส่กุ้งที่ล้างและนำเส้นดำที่หลังออกแล้วลงไป จากนั้นใส่เห็ดหอมสด
และดอกหอม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำปลาและพริกไทย เติมน้ำสะอาดเล็กน้อย
ผัดจนส่วนผสมสุกเข้ากันดี ชิมรส ปิดไฟ
เห็ดหอม มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก
กลุ่มบุคคลที่ควรบริโภคเห็ดหอมด้วยความระมัดระวังมากเป็นพิเศษได้แก่
หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร หลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดหอม
เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการรับประทานเห็ดหอม
ในช่วงตั้งครรภ์หรือช่วงให้นมบุตร
ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง เช่น โรคปลอกประสาทอักเสบ โรคลูปัส หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดหอม เพราะอาจกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากกว่าปกติ
และอาจทำให้อาการของโรคกำเริบขึ้นได้
ผู้ป่วยที่มีเซลล์เม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิลสูงกว่าปกติ (Eosinophilia) ห้ามรับประทานเห็ดหอม
เพราะอาจทำให้อาการของโรคแย่ลงกว่าเดิม
เครดิต https://www.pobpad.com/
ดอกหอม เป็นพืชล้มลุก อยู่วงศ์เดียวกับกระเทียม มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดเช่น
ฟอสฟอรัส เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5
วิตามินบี6 วิตามินบี9 คาร์โบไฮเดรต มีธาตุเหล็ก สังกะสี ฟลูออไรด์ แคลเซียม น้ำตาล
โปรตีน แมกนีเซียม แมงกานีสและโพแทสเซียม
มีสรรพคุณช่วยบรรเทาปวดตามข้อ ช่วยรักษาฟกช้ำดำเขียว ช่วยบำรุงความจำ ช่วยเจริญอาหาร
ช่วยบำรุงธาตุ ช่วยขับสารตะกั่ว ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคอัมพาต ช่วยขยายหลอดเลือด
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยรักษาความดันโลหิตสูง ช่วยรักษากระดูกพรุน
ช่วยรักษาหวัด คัดจมูก ช่วยรักษาภูมิแพ้ ช่วยรักษาหอบหืด ช่วยขับเสมหะ แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ
ช่วยลดอาการปวดอักเสบ แก้ลมพิษ ช่วยฆ่าเชื้อโรค ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
ช่วยรักษาผิวหนังน้ำร้อนลวก แก้บวมแก้ปวดจากพิษ
เครดิต https://www.thai-thaifood.com/th/
ดอกหอมผัดเห็ดหอมกุ้ง อาหารผัดจานง่าย พร้อมเสิร์ฟค่ะ
เครดิตโค้ดแต่งบล็อก
https://chomporn.bloggang.com
https://jbunny.bloggang.com
https://pngtree.com
https://canva.com
| 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 185 คน [
เห็นดอกเข็มแล้วอดยิ้มไม่ได้ ชอบค่ะ อิอิ