lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
ตุลาคม 2568
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
7 ตุลาคม 2568
space
space
space

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 386 "นางฟ้าประจำตัว"




ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 386



"นางฟ้าประจำตัว"






*** น่าจะเหมาะกับไหว้พระจันทร์นะครับ***





โจทย์โดย คุณ toor36


 




คุณต่อก็ตั้งโจทย์ต่อจากผมซะผมดูดาร์กไปเลย
ทั้งที่ชีวิตจริงผมนี่โคตรใสนะครับ  55555




ใดๆ พอพูดถึงเรื่องนางฟ้าประจำตัว แว้บแรกผมคิดไม่ออกเลยครับ

เพราะชีวิตอวยพรตัวเองมาตลอด ไม่เคยรู้สึกได้พรจากอะไรมาก่อน
และด้วยความเป็น Ordinary man ก็ทำให้ไม่เคยรู้สึกว่ามีเทวดาประจำตัว
เพราะซวยเป็นประจำ ถ้าจะมีก็คงเป็น
"ปีศาจประจำตัว"
อันนี้น่าจะมีเป็นฝูง สลับกันประทับร่างแล้วแต่สถานการณ์




แต่อยู่ๆ เมื่อศุกร์ที่แล้ว ผมนั่งดื่มกับเพื่อน แล้วเพื่อนชวนไปเยี่ยมลูกเพื่อนอีกคน
"ไปป่ะละ เนี้ยไปพร้อมกัน วันอาทิตย์"  เพื่อนบอก
"อาทิตย์นี้ไม่ได้ว่ะ กูไปวัด"
"มึงเนี้ยนะไปวัดไอ่ปริ๊นซ์ ไปทำไม ไปยืมเก้าอี้วัดจัดเลี้ยงที่บ้านหรอ"
"กูไปไหวพระเฉยๆ"
"มึงไหว้ด้วยหรอพระน่ะ"
"ไหว้ดิวะ....กูจะไปวัดหลวงพ่อโสธร"

"ห๊ะ? รองเจ้าอาวาสเค้าเพิ่งสึกเซ่นสีกากอล์ฟไป มึงยังไหว้ลงอีกหรอ"
"กูไหว้พระพุทธรูป กูยังจำไม่ได้เลยว่ากูเคยไหว้พระสงฆ์ไปเมื่อไหร่"
"ไอ่เฮีย เนี้ย...คนอย่างมึงก็ยังมีเยอะเว้ย ต่อให้มีข่าวยังไง แต่คนขึ้นก็ยังเยอะอยู่ดี"
เพื่อนก็นั่งกอดอก หัวเราะแล้วมองหน้าผม เหมือนงงว่าผมเนี้ยนะที่เป็นแบบนั้น



ส่วนผมก็โบกมือพร้อมยกเหล้าเข้าปาก

"เหอะ....แม่งไม่เกี่ยวเว่ย....คนที่เอาสีกาคือตัวคน แม่งก็สึกไปดิ
คนผิด พระพุทธไม่ได้ผิด พระธรรมก็ไม่ได้ผิด
ศาสนาไม่ได้เสื่อม สิ่งที่เสื่อมคือคน แล้วถ้ามึงก็เสื่อมศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม
ทีนี้ศาสนาก็จะเสื่อมของจริง"

"เฮ้ย...มึงไปบวชอีกรอบไหม อะไรเข้าสิงมึงวะ ปกติเป็นคนเฮีย"
"เออกูเป็นคนเฮีย ไม่เถียง ดังนั้นอย่างลืมว่า คนเฮียอย่างกูไม่ศรัทธาอะไรง่ายๆถูกป่ะ"
"เออ แล้วเพราะอะไรวะ เคยถูกหวยหรอ"  เพื่อนก็ขำๆ

"กูก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าถูกหวยได้ไหม แต่คนถูกไม่ใช่กูนะ"  
ว่าแล้วเราก็ยกแก้วขึ้นชนรอบวง ก่อนที่ผมจะเล่าเรื่องนึงให้เพื่อนฟัง











คืออย่างที่รู้ใช่ไหมครับ ว่าผมมีพี่สาวซึ่งอายุห่างกันพอควร
เรื่องของเรื่องคือ พอมีพี่สาวแล้ว พ่อกับแม่เค้าก็อยากมีลูกอีกคนไว้เป็นเพื่อนกัน

แต่ทีนี้....มันก็ไม่ง่ายละครับ เพราะปีก็แล้ว 2 ปี ก็แล้ว 3 ปีก็แล้ว
ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกอีกคน แล้วแหม่......ชื่อเล่นนี่ก็ตั้งรอไว้แล้ว

ซึ่งเค้าก็อยากได้ลูกชายอีกคนครับ จะได้ครบพอดี หญิง 1 ชาย 1 
ตามความรู้สึกคนรุ่นนั้น คนแรกเป็นผู้หญิงจะได้ช่วยดูแลเลี้ยงน้องได้ ไม่ตีกัน



ทีนี้ หลายปีเข้าแล้ว แม่ก็เริ่มอายุเยอะขึ้น เค้าก็เริ่มเครียด
กลัวอายุเยอะมีลูกแล้วลูกมีปัญหา ปัญญาอ่อน ไม่แข็งแรงอะไรไปเรื่อย
ก็เลยไปลองวิธีวิทยาศาสตร์ ซึ่งสมัยก่อนก็แพงและไม่ได้การันตีผลนัก

วิทยาศาสตร์ ไม่มาว่ะครับ.....ทีนี้ก็ต้อง.....ศาสตร์อื่นแล้ว




พ่อกับแม่เลยตัดสินใจขับรถไปถึงฉะเชิงเทรากัน 3 คนพ่อแม่ลูก
เพื่อไปขอพร ให้มี
"ลูก" อีกคนให้กับครอบครัว 
ซึ่งท่านก็ไปขอกับหลวงพ่อโสธร เจ้าเดียวเจ้าเดิมกับที่เคยขอพรให้มีพี่สาวนั้น
โดยถ้าได้ ลูก ในปีนั้น จะถวายประมาณนึง แต่ถ้าเป็น "ลูกชาย" จะจัดชุดใหญ่
ไข่ ละคร อะไรจะมาครอบ ไม่ขาดตกบกพร่องแน่นอน




และไม่รู้ดวงหรืออะไร ถูกหวย หรือถูกกินไม่รู้
แม่ท้องได้จริงๆ   และนั่นแหละครับ นั้นผมเอง  55555





 และด้วยไอ่ผมก็ป่วยเก่ง แม่เลยได้ใช้บริการพระท่านเป็นประจำ
ดังนั้น ทำให้ผมก็จะไปไหว้ท่านอย่างน้อยปีละหน หรือถ้าช่วงต้องไปต่างประเทศ
ผมก็จะไปไหว้ครับ ขอให้เดินทางปลอดภัย ไม่เจ็บป่วยระหว่างนั้น ทำงานราบรื่น อะไรไป



ถ้าจะพูดถึงเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตัว ท่านก็น่าจะใช่ครับ











ส่วนอีกเรื่องก็คือ....
บ้านผม หมายถึงครอบครัวผมก่อนนะครับ
ที่บ้านเราได้พระหินองค์หนึ่งมาจากคุณปู่ ได้มายังไงอันนี้จำไม่ได้
แต่พระหินองค์นั้นอายุไม่น่าต่ำว่า 150-200 ปีแน่นอน



ซึ่งทีแรก หลังจากคุณปู่เสีย คุณพ่อผมก็ไม่ได้จะรับพระท่านมาหรอกครับ 
เพราะคุณอา ซึ่งเป็นคนเล่นพระอยากได้ เลยขอกับพี่ๆ น้องๆ แล้วจะนำกลับบ้าน
แต่พอเอาพระขึ้นรถขับไประหว่างทาง รถดับครับ 
ต้องลากกลับมาที่บ้านคุณปู่ใหม่ คุณอาเลยเชื่อว่า พระท่านคงไม่อยากไปด้วย
ด้วยอะไรไม่รู้ คุณพ่อเลยบอกว่าจะขอพระท่านกลับแทน
ซึ่งคุณพ่อก็ยกมือไหว้แล้วขอว่า จอขอนำท่านกลับ ให้ท่านไปเป็นพระประธานที่บ้าน
แล้วอุ้มท่านขึ้นรถ วางบนตักคุณแม่ให้คุณแม่อุ้มไว้
คุณแม่บอกว่าหนักมากๆ หนักร่วมๆ 20กว่าโลได้
แล้วพระท่านก็กลับมาบ้านเราอย่างราบรื่น และกลายเป็นพระประธานบนหิ้งพระที่บ้าน



ที่บ้านดูแลท่านอย่างดีครับ
จนหลายครั้งผมยังมองว่า เออท่านก็ดูแฮปปี้ดีนะ ยิ้มเชียว












อยู่มาวันนึงในปี 2554 ปีที่น้ำท่วมกรุงเทพครั้งใหญ่น่ะครับ
ตอนเย็น ผมกับพี่สาว ไปเดินส่องตามท่อระบายน้ำในหมู่บ้านดู
แล้วเห็นว่า เชี่ย น้ำให้ท่อระบายมันสูงกว่าปกติมากเลยว่ะ
แต่ด้วยหมู่บ้านก็พร้อมรบมากครับ ตอนนั้นเหลือหมู่บ้านเราหมู่บ้านเดียวแล้วที่ยังไม่ท่วม



เอาเป็นหมู่บ้านฝั่งตรงข้ามน้ำถึงเข่าไปแล้ว หมู่บ้านข้างๆ น้ำถึงเอว
ในหมู่บ้านเรายังแห้ง เดินไปเดินมาได้ปกติ 
พ่อกับแม่ก็วางใจมาก บอกว่าแบบนี้ยังไงเราก็รอด 
แต่ผมกับพี่ไม่คิดแบบนั้นครับ เราเลยเอารถ 2 คันของที่บ้าน หนีไปไว้ที่ปลอดภัยกันเรียบร้อย



เย็นวันนั้น พี่สาวออกไปกดเงินสดมาไว้กับตัว 5-6หมื่น แบ่งมาไว้ที่ผม หมื่น  2 หมื่น
บอกว่าให้เตรียมใส่กระเป๋าเอาไว้ ถ้าน้ำท่วม ไฟจะดับ ตู้ ATM จะใช่ไม่ได้
เราต้องมีเงินสดไว้ใช้จ่ายฉุกเฉิน และถึงตอนนั้น เงินจะช่วยเราได้



ก่อนนอน ราวๆ 4-5 ทุ่ม ผมกับพี่ก็ยืนส่องไฟที่หน้าบ้าน 
พบว่าน้ำในท่อต่ำว่าปากท่อแต่ 10 กว่าเซนเท่านั้น
พี่สาวบอกว่า ถ้าคืนนี้รอด เราน่าจะรอด ถ้าไม่รอด คืนนี้รู้เรื่องแน่นอน
จากนั้นเราก็แยกย้ายกันไปนอน แบบที่เรา 2 คนเตรียมของฉุกเฉินไว้พร้อม










เช้ามืดวันนั้น ราวๆ ตี 3 ทุกคนในบ้านตื่นขึ้นพร้อมๆ กันจากทุกห้อง
แล้ววิ่งออกมาเจอกันที่ทางเดินชั้น 2 เพราะได้ยินเสียงของบางอย่างที่ต้องหนักมากๆ 
ตกลงพื้นดัง ปัง!  คือดังจนขนลุกเลยครับ ทุกคนได้ยินเหมือนๆ กัน
และสิ่งเดียวที่เราคิดว่าตก คือ คิดว่าพระหินองค์นั่นตกแน่ๆ 
เพราะเสียงดังมากจากทางห้องพระ

แต่พอทุกคนไปดู พระท่านยังอยู่ดี ไม่ได้ตกหรืออะไรเลย แต่เสียงนั่นคือเสียงอะไรกันแน่
เดินหารอบบ้านก็ไม่เจอสิ่งของตก 




แต่พอเปิดไฟหน้าบ้าน สิ่งที่เราทุกคนเห็นพร้อมกันคือ
น้ำที่ขึ้นจากท่อมาเริ่มท่วมถนน
แล้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบสังเกตได้
ท่ามกลางท้องฟ้าที่ยังมืดสนิท และทุกคนที่ยังนอนหลับกันอยู่
บ้านผมวุ่นวายละ.....ขนของที่ขนได้ขึ้นชั้น 2  
พี่สาวโทรหาพี่เขยให้เรารถกระบะเข้ามาเพื่อรอรับเราออกจากบ้าน
คือพ่อแม่คิดว่ายังไงก็ไม่ขนาดต้องออกจากบ้านครับ แต่พี่สาวคิด





แค่ 6โมงเช้า น้ำก็เข้าถึงที่จอดรถ ที่สูงกว่าถนนข้างนอก30 เซน
ห้องน้ำชั้นล่างใช้ไม่ได้ ชั้นบนก็ไม่สู้จะดี
พี่ชายลูกพี่ลูกน้องก็เอารถกระบะมาอีกคัน เผื่อว่ามีอะไรอยากขนออก
ผมกับพี่สาวก็รีบโยนกระเป๋าฉุกเฉินของตัวเองขึ้นรถไว้ทันที
ก่อนจะช่วยกันขนของจำเป้นขึ้นรถ และจัดของที่ย้ายไม่ได้ที่ชั้นล่างให้พอพ้นน้ำ
เช่น..... ตู้เย็น เก้าอี้นวด อะไรเทือกนั้น



7 โมง น้ำที่ลานจอดสูงถึงเข่า
เข่าอ่ะครับ!!!! แต่ไม่เข้าบ้านเพราะติดกระสอบทราย
ที่ตอนนั้นพี่เขยวิศวกรประจำบ้านจัดทำไว้ โดยการปูพลาสติกไว้อีกชั้น
ทำให้กันน้ำได้ดีเยี่ยมไปเลย 
พี่สาวบอกทุกคนว่าต้องออกจากบ้านเดี๋ยวนี้ เพราะถ้าไม่ออก รถจะออกไม่ได้แล้ว
อย่างที่บอกครับ บ้านเราสูงกว่าถนน 30 เซน ในบ้านเท่าเข่า
ข้างนอกต้องมี 50-60เซนแล้ว และดูจากระดับที่เพิ่มขึ้นรวดเร็ว
เท่ากับว่า น้ำมวลใหญ่กำลังมาถึงแล้ว และมันจะไม่หยุดแค่นี้
ทุกคนจึงออกจากบ้านทั้งหมด ด้วยรถของพี่ชาย
โดยเหลือผม กับพี่เขยเอาไว้ ทำหน้าที่ปิดบ้าน และตอนนั้นเรากำลังยิงสิลิโคนที่หน้าต่าง
เพราะคิดว่า ถ้าน้ำสูงจะได้ไม่ซึมเข้าหน้าต่างด้วย












เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ เพราะเรา 2 คนก็ทำงานแข่งกับเวลา
แต่ที่รู้ ๆ คือเงยหน้ามาอีกทีก็เห็นน้ำสูงเกือบขอบยางรถกระบะแล้ว
พี่สาวโทรมาหาพี่เขย บอกให้ออกมาเดี๋ยวนี้ เพราะถนนใหญ่รถจะวิ่งไม่ได้แล้ว

"ต้องไปแล้วปริ๊นซ์ ไปเร็ว มีของมีค่าอะไรอีกไหม เอาขึ้นรถไปให้หมดนะ"
ในหัวตอนนั้นผมคิดเรื่องของมีค่าอะไรไม่ได้เลย
เพราะเหมือนจะขนไปหมดแล้ว มีสิ่งเดียวที่คิดว่ามีค่าและไม่น่าจะทิ้งท่าน






พระหิน





ผมพาพี่เขยขึ้นไปที่ห้องพระ ปรากฎ พระเล็กพระน้อยไปหมดแล้วครับ
พ่อน่าจะจัดการนิมนต์ไปเป็นที่เรียบร้อย เหลือแต่พระหินไว้
คงคิดว่า ใครก็คงไม่คิดจะยกไป 
ผมเลยยกมือไว้ นิมนต์หนีไปด้วยกันเถอะครับ เจ้าที่น่าจะเฝ้าบ้านให้
ว่าแล้วก็อุ้มท่านลงมาจากหิ้ง แต่พี่เขยรับต่อนะครับ ทรงดูผมจะยกไม่ไหว




แล้วท่านก็นั่งเบาะหลังรถกระบะไปด้วยกัน




วันนั้น ผมกับพี่เขยน่าจะเป็นรถคันท้ายๆ ที่สามารถออกมาได้
เพราะระหว่างทางที่ออกมา เห็นรถเสียจมน้ำในหมู่บ้านหลายคัน
ที่ถนนก็อีกหลายคัน มีแค่เรา รถ SUV และรถเมล์ ที่วิ่งฝ่าน้ำขึ้นทางด่วน
ผมมองกลับไปข้างล่าง
เชี่ย.... Apocalype ชัด ๆ











แต่เราคิดถูกมากครับที่ตัดสินใจออกจากบ้าน เพราะหลังจากนั้นไม่นาน
ทางเขตประกาศตัดไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย
ได้ข่าวว่าเพื่อนบ้านซอยต้นๆ ออกมาช้า รถออกไม่ได้ต้องลุยน้ำออกมา

แต่....ไม่ได้ออกมาครับ เพราะไฟดูดเสีย ระหว่างทาง



เงินสดที่พี่สาวกดมา ช่วยเราได้เยอะมากครับ
ผมจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นมันมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอะไรบ้าง
ที่เงินซื้อความสะดวกได้ ด้วยตอนนั้นผมก็ไม่ได้รับรู้หรือรับผิดชอบอะไรเยอะ
จำได้ว่าพี่คิดถูกมาก เพราะ เมื่อน้ำท่วมหนัก 
ATM ก็เงินหมดตู้ เพราะรถมาใส่เงินไม่ได้
แต่เรามีเงินใช้แบบประหยัดๆ อยู่แล้วสบายในช่วงนั้น




ซึ่งเอาจริงๆ  ถ้าวันนั้นบ้านเราไม่ตื่นขึ้นมาตอน ตี 4 
แล้วตื่นตามปกติประมาณ 7 โมงเช้า ส่วนผมนี่ล่อไป 10 โมง 
รับรองว่าเราคงเก็บของอะไรชั้นล่างไม่ทัน และอาจจะออกมาจากบ้านลำบากมากแน่ๆ ครับ
ทำให้ทุกคนที่บ้านเราเชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านคงจะเตือนเรา













ผมนี่เขินจัง 5555 เพราะเปิดตัวว่าเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผีเรื่องสาง
เรื่องลี้ลับ เหนือธรรมชาติ
แต่กลับมีเรื่องเล่าที่โคตรลี้ลับ 5555










 




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2568
13 comments
Last Update : 7 ตุลาคม 2568 18:02:52 น.
Counter : 315 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณThe Kop Civil, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณชีริว, คุณNior Heavens Five, คุณnewyorknurse, คุณ**mp5**, คุณmultiple

 

ศาสนาไม่ได้เสื่อม สิ่งที่เสื่อมคือคน
.
.
เห็นด้วยเลยครับ
พี่ก๋าก็เชื่อแบบนี้
เวลาอ่านข่าวเลยไม่ได้รู้สึก
ว่าศาสนาเสื่อมเลย
แถมเป็นเรื่องดีด้วย
คนที่ทำบุญด้วยเงินจะได้ตาสว่าง



น้ำท่วมนี่อันตรายจริงๆครับ
ดีที่ปีนี้เชียงใหม่ท่วมไม่กี่จุด
แต่ปีที่ท่วมหนักๆ
บ้านพี่ก๋าเจอหลายรอบมาก
จนประกันไม่รับต่อประกันเลยครับ



ขอให้หายเจ็บนิ้วในเร็ววันนะครับน้องปริ๊นซ์

 

โดย: กะว่าก๋า 7 ตุลาคม 2568 22:55:20 น.  

 

ติดไว้ก่อนเดี๋ยวมาอีกที ผมไม่ไหวแล้ววันนี้

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 7 ตุลาคม 2568 23:11:39 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

 

โดย: กะว่าก๋า 8 ตุลาคม 2568 5:19:33 น.  

 

โอ้ยังคงเล่าได้อย่างมีรสชาติจ้าปริ้น

 

โดย: หอมกร 8 ตุลาคม 2568 7:16:39 น.  

 

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีทั้งนั้น
ในดีมีเสีย ในเสียมีดี ... เรื่องศาสนาในวงเหล้าก็เช่นกัน 555
ศาสนาไม่ได้เสื่อม คนต่างหากที่เสื่อม เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ
การคัดคนไม่ดีออกจากศาสนา ซึ่งนับเป็นเรื่องดี

น้ำท่วมปี 2554 มีเรื่องเล่าสำหรับคนที่มีประสบการณ์ ทั้งบันเทิงและสาหัสนะคะ
เราเองนับว่าโชคดีรอดมาได้หวุดหวิด ... นางฟ้าประจำตัวยังเมตตา คือย้ายบ้านปี 52 น้ำท่วมปี 54
ถ้าไม่ย้ายมาก่อนก็ไม่รอดเหมือนกัน 555

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 8 ตุลาคม 2568 7:50:31 น.  

 

สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
พี่ก็เชื่อแบบนี้นเหมือนกัน ศาสนาไม่ได้เสื่อม คนนี่หละเสื่อม
วัดหลวงพ่อโสธรพี่เคยไปไหว้มาเหมือนกัน คนเยอะมากครับ
พระประธานในบ้านน่าจะมาเตือนว่าน้ำจะเข้าบ้านแล้ว ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
นึกถึงตอนน้ำท่วมปี 54 เลย พี่อยู่ในกรมฯ ปากเกร็ด น้ำไม่ท่วมนะ รอบด้านน้ำท่วมหมดเลย จะไปไหนก็ไม่ได้ work from home กันไป 3 เดือน
จากบล็อก
อาทิตย์ที่แล้วพี่ไปหินสามวาฬ วัดภูทอกที่บึงกาฬมานะครับ แล้วไปต่องานไหลเรือไฟที่นครพนมมานะครับ
อ้าวปวดนิ้วเหรอครับ หายไว ๆ นะครับน้อง

 

โดย: The Kop Civil 8 ตุลาคม 2568 10:21:41 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นซ์

อ่าน ตะพาบ เธอแล้ว ชวนลุ้นน่าดูเลย เรื่องน้ำท่วมบ้าน
ถ้าไม่เกิดได้ยินเสียงหนัก ๆ ตก ทำให้ทุกคนตื่น เหตุการณ์ก็คงผันแปรไปอีกรูปแบบหนึ่งแน่นอน บางที เรื่องเหนือความคาดหมายก็
เกิดขึ้นได้ โดยเราก็ไม่สามารถอธิบายได้ จึงมีสำนวนว่า ไม่เชื่อ
อย่าลบหลู่ ไงล่ะ
นิ้วที่เป็นหนอง เป็นไงบ้าง ซื้อเบตาดีนฆ่าเชื้อทานะ ระวัง
ติดเชื้อ จะลำบาก ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย จ้ะ
โหวดหมวด ตะพาบ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 8 ตุลาคม 2568 11:56:50 น.  

 

ตอนปี 54 ต้องบอกว่าบ้านผมโชคดีครับ น้ำค่อยๆ ท่วมไล่มา 2 ทาง ใจก็คิดว่าจะท่วมเมื่อไหร่คงขึ้นอยู่กกับเวลา แต่จากที่ดูความเร็วของน้ำตามที่ติดตามข่าว สัก 2-3 วันน้ำน่าจะมาถึงที่บ้าน แต่สุดท้ายหยุดไปก่อนแล้ว แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ กลับสู่สภาวะปกติ ถือว่าโชคดีไป ถึงจะมีการเตรียมตัวไว้ แต่ผมไม่รู้สึกเสียดาย หรือเหนื่อยที่ต้องป้องกันเลยครับ ยังไงกันไว้ก่อนมันก็ดีกว่าอยู่แล้ว กันไว้แต่ไม่เกิด ดีกว่าเกิดแล้วไม่ได้กัน

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 8 ตุลาคม 2568 22:58:31 น.  

 

รูปแรกอย่างเท่เลยครับ นางฟ้าพ่อทูนหัว 555

ฝรั่งคงคุ้นเคยกับ fairy godmother ญี่ปุ่นคุ้นเคยกับเทพพิทักษ์ประจำตัว คนไทยถ้ามีคงรู้สึกเหมือนกำลังโดนผีสิงอะครับ สิ่งลี้ลับบ้านเราไม่ได้ถูกสร้างภาพจำให้น่าคบหาเท่าไหร่
วัดหลวงพ่อโสธรไม่ได้ไปนานแล้ว คิดถึงชุมชนแถวนั้นวันๆ คงกินแต่ไข่ต้ม วัดนี้ก็เสร็จสีกากอล์ฟไปอีกราย
ทำกิ๊ฟต์ ทำเด็กหลอดแก้ว แพงและโอกาสติดยากอยู่ ที่ทำงานผมพี่คนนึงไปทำ เสียเป็นแสนไม่ติดสักคนเลยครับ แต่อึ้งบ้านคุณปริ๊นซ์ตรงที่ขอหลวงพ่อโสธรปุ๊บได้ซะงั้น
น้องชายกับน้องสะใภ้ผมไปขอลูกที่สุสานเจ้าแม่ไหมสุหรี ปรากฏว่าได้ลูกจริง ทีนี้ตอนแก้บนต้องกลับไปที่สุสาน ....ที่ลังกาวีเลยจ้า

ปี 54 เล่ามานึกถึงบรรยากาศลุ้นตอนน้ำขึ้นเลยครับ ต้องรีบขนของออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นเป็นเดือนๆ กลับมาบ้านเละตุ้มเปีะ
ปีนี้น้ำก็เยอะ รอบอยุธยาจมไปเรียบร้อย แต่คงกันกรุงเทพเต็มที่

 

โดย: ชีริว 8 ตุลาคม 2568 23:44:26 น.  

 

เวลาโดนอะไรแทงใต้เล็บเลือดออกมันอึดอัดใจมากเลยครับ ไม่รู้มันมีอะไรคาอยู่ในเล็บเรามั้ย ระดมเบต้าดีนรัวๆ

 

โดย: ชีริว 8 ตุลาคม 2568 23:45:59 น.  

 

สวัสดีครับพี่ปริ๊นซ์
พี่เป็นไงบ้างครับ สบายดีนะครับ
ศาสนาไม่เคยเสื่อม แต่คนทำให้เสื่อม ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจจริงๆครับ
ช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 ผมเคยเห็นในข่าวตอนเด็กๆสงสารผู้ที่ได้รับผลกระทบในตอนนั้นมากเลยครับ

 

โดย: Nior Heavens Five 9 ตุลาคม 2568 13:03:25 น.  

 

น้ำท่วมช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนักจริงๆ สำหรับหลายๆ คน แต่มันมีช่วงก่อนหน้านั้นที่หนักไม่แพ้กันคือช่วง 2538 ช่วงนั้นก็ท่วงเละเทะเหมือนกัน

บางครั้งมันเป็นจังหวะที่ต้องตัดสินใจ ถือว่าตัดสินใจได้ดีเพราะถ้าพลาดช้ากว่านี้หน่อย สถานการณ์มันคงไม่เหมือนเดิมแล้ว

 

โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) 10 ตุลาคม 2568 22:09:27 น.  

 

อุ๊ย กลับมาแล้วเหรอครับ
วันนี้เรื่องนางฟ้า น่าจะเป็นพระประจำบ้านนะครับ มีที่มาเป็นตำนาน
ขนลุกซู่ซะด้วย 5555

ส่วน เรื่องศาสนานี่ พระ พุทธ พระธรรม ยังยึดมั่นได้เสมอนะครับ
ส่วน สีกากอล์ฟ สมัยสาวๆขาวโบ๊ะ มาเล่นปูไต่กันนี่ ช่วงพีคๆนี่ ใครเจอเข้า ก็ใจสั่นนะครับ ป้าดดดด555

น้ำท่วมกรุงเทพปี 54 เป็น ตำนานใคร หรือบ้านไหน ผ่านเหตุการณ์นี้ มาได้ ถือว่า สอบผ่านนะครับ
ตอนนั้น ดีที่ อาจารย์เต๊ะ ไม่เชื่อ รัฐบาล ว่าเอาอยู่ น้ไไม่มีทางท่วม กทม เพราะ นอนดูข่าว สถานการณืน้ำอยู่ทุกวัน
กับเช้าๆ ก็เอาไม้ไปแหย่ ท่อระบายน้ำ หน้าบ้านเล่นด้วย555

จริงๆ กทม เสี่ยงน้ำท่วม อยู่แล้ว คนสร้างบ้านเอง จะได้เปรียบหน่อย เพราะ ถมที่เอง
อาจารย์เตีะ ถมที่เผื่อน้ำท่วมไว้แล้ว ถมรอบแรกก็สูงกว่าถนนซอย คิดไปคิดมา ถมอีกรอบดีกว่า เป็นคนชอบเกินดีกว่าขาด ถมมันอีกรอบ สูงกว่าถนนเป็นเมตร 555

อานิสงฆ์ ในการถมที่สูงครั้งนั้น ส่งผลบุญทันตาเห็น เมื่อตอนน้ำท่วม ปี54 คือ น้ำในซอยหน้าบ้านสูงเท่า เอว ในบ้านแห้งผาก
ห้องน้ำชั้นล่างยังใช้ได้ปกติ เอาซี้

แล้วก็ เรื่องรถเพื่อความไม่ประมาท พี่ถุงเงินถุงทอง อะไหล่แพงหูดับ เอาไปจอดที่จอดรถ คอนโด ชั้น 2 หมดเรียบร้อยสบายใจหายห่วง

อาจารย์เต๊ะ ก็จัดแจง เตรียมซื้อเครื่องสูบน้ำทั้ง ไดร์โว่ ทั้ง เครื่องแบบน้ำมันมาสำรองเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน เรือไฟเบอร์อีกลำ เอาไว้พายเล่น แฮร่ 555

เงินสดติดบ้าน ก็มีสำรองอยู่เสมอ ชอบเอาเงินซ่อนไว้ตามที่ต่างๆจนลืม555 ตอนน้ำท่วม ยังเผือแผ่ ไปให้เพื่อนบ้าน หยิบยืมไปซื้อกระสอบทรายได้หลายหมื่น

แต่ที่พลาด คือ เรื่องตุนเสบียงอาหาร นี่แหละครับ
เพราตอนนั้น ตุน ไข่ มาม่า น้ำดื่ม ไว้กินได้แค่ เดือนเดียว
น้ำท่วมไปไหนไม่ได้ 3เดือน อดซีครับ

ต้องพายเรือ ไปขอข้าวรถทหารกิน 5555
เรือตอนนั้นก็พายไม่ค่อยเป็น กว่าจะออกปากซอยได้ล่อเป็น ชม
ขากลับ เจอเรือติดเครื่องต้องให้เค้าช่วยเอาเชือกลากโต้คลื่นกลับมา สนุกสนานกันมาก5555

ตอนนั้นก็ผ่านมาได้ แต่ก็ชอบนะ เพราะไม่ต้องทำงาน 3เดือน
ม กรุงเทพ รังสิต น้ำท่วม จมหายไป ชั้นนึง 5555

เรื่องปูก้อน นี่ หลังจาก เจ๊เต๊ะ ทำไข่เจียวแล้ว ยังเหลือทำเมนูอื่นได้ตั้งหลายอย่าง ประหยัดกว่า ไปกินร้านมิชลินแยะเลยนะครับ แฮร่ 5555


ถือ

 

โดย: multiple 12 ตุลาคม 2568 5:56:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

BlogGang Popular Award#21


 
จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space