โจ๊กปลากระพงขาว โจ๊กหอยลาย

ไปร้านโจ๊กฮ่องกง จะมีโจ๊กปลาให้เลือก

เมืองไทย มีแต่โจ๊กหมู กันทั้งนั้น

ส่วนโจ๊กปลาทานได้ยากมาก รู้สึกว่ามีอยู่แค่ 2 ร้านเท่านั้น อร่อย แต่แพงมาก

ส่วนโจ๊กหอยลายนี้ มีที่ประเทศเวียดนาม เพื่อชาวเวียดนามเขาสั่งให้ทาน อร่อยดี เมืองไทยก็หาไม่ได้อีกเหมือนกัน

ดังนั้นก็ต้องมาทำโจ๊กปลากระพงขาว และ โจ๊กหอยลาย ทาน

โจ๊กปลากระพงขาว


โจ๊กหอยลาย


การทำโจ๊กนี้จะต้องเริ่มจากการทำน้ำซุปก่อน ก็ไปจัดการหากระดูกหมูมา 1 กก.

ตั้งน้ำต้มกระดูกหมู ประมาณ 5 นาทีก่อน ตักกระดูกหมูทั้งหมดมาล้าง เทน้ำที่ต้มทิ้งไปให้หมด

นำ กระดูกหมูมาต้มใหม่ใส่น้ำพอสมควร พอเดือดก็หรี่ไฟ ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ช.ม. ก็จะได้น้ำซุปกระดูกหมูที่ใสแจ๋ว เพราะความสกปรกของเลือดหมูตัวการที่ทำให้น้ำขุ่นถูกล้างออกไปหมดในการต้ม หม้อแรกแล้ว วิธีการต้มซุปกระดูกหมูแบบนี้เป็นของญี่ปุ่นและใต้หวัน

ตอนต้มน้ำซุปจะใส่เครื่องเทศอะไรก็ตามชอบ
สำหรับโจ๊กครั้งนี้ก็ใส่รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย ต้มกับน้ำซุป

ถ้าเป็นเวอร์ชั่นราคาแพง ก็เติมเอ็นหอย (กังป๋วย) ลงไป 2 - 3 ก้อน น้ำซุปก็จะหอมขึ้นอีกมาก

เอาปลายข้าวหอมมะลิมา 1 ถ้วย ใส่น้ำซุปไป 6 ถ้วย ทำการต้มโจ๊ก พอเดือด ก็หรี่ไฟ เคี่ยวไปประมาณ 2 ช.ม. จะได้โจ๊กออกมา

แนะนำให้ใช้หม้อเทฟลอนต้มโจ๊กเพราะจะโจ๊กไม่ไหม้ หรือ ใช้หม้อที่มีก้นหม้อหนา หรือจะต้มโดยใช้ Slow Cooker (หม้อตุ๋นไฟฟ้า) ก็ได้

ส่วนความข้น หรือ ใส ของโจ๊ก หรือ ความละเอียดของโจ๊ก ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน

โจ๊กที่ต้มแล้ว


หอยลายก็ซื้อมา 1 กก. ล้างให้สะอาดด้วยการแช่ในน้ำเกลือประมาณ 30 - 60 นาที หอยจะคายสิ่งสกปรกออกมา

นำหอยมาต้มกับเหล้าสาเก 50 ซซ. ในหม้อประมาณ 4 - 5 นาที ให้หอยอ้าปากออก จะได้แกะเนื้อได้ง่ายๆ

ที่ต้องต้มกับเหล้าสาเกก็เพื่อขจัดกิ่นคาวของหอยออกไป หรือจะต้มกับไวน์ก็ได้

เนื้อหอยลาย 1 กก. ที่แกะออกมาแล้ว


ปลากระพงขาวนำมาแล่เป็นชิ้นๆ ต้องใช้มีดคมมาก เนื้อปลาจะได้ไม่ช้ำ
ขนาด ของเนื้อปลาใส่โจ๊กนี้ ถ้าเป็นที่ฮ่องกง เขาจะแล่เป็นชิ้นเล็กบางประมาณ 2 มม. เท่านั้น ครั้งนี้แล่ชิ้นใหญ่กว่าหน่อย ตอนเคี้ยวจะได้เคี้ยวปลาเต็มคำ


แบ่งโจ๊กจอกหม้อใหญ่ใส่หม้อเล็ก ตั้งไฟให้โจ๊กเดือดพล่าน
สำคัญมาก โจ๊กต้องเดือด ไม่งั้นใส่ปลาลงไปแล้วจะเหม็นคาว
ถ้าปลาไม่ค่อยสด ก็นำปลาไปลวกซะก่อน จะลดความคาวลงไปได้

โจ๊กเดือดก็ใส่ปลาลงไป ในหม้อโจ๊ก ห้ามคนโจ๊กเด็ดขาด รอจนเดือดอีกครั้งปลาก็จะสุกพอดี ไม่มีกลิ่นคาวเลย เพราะปลาสดมาก


เทโจ๊กปลาจากหม้อใส่ถ้วยใบโต ไปแบ่งทานกันบนโต๊ะ


จากนั้นก็มาทำการปรุงโจ๊กหอยลายโดยวิธีเดียวกันกับโจ๊กปลา


โจ๊กหอยลายชามโต


จากนั้นก็ตักแบ่งใส่ถ้วยเล็ก ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว(อย่างดี) อย่าไปปรุงรสเค็มที่น้ำซุป เพราะกลิ่นหอมของซีอิ้วขาวจะหายไปหมด
เติม กระเทียมเจียว หอมซอย ขิงซอย พริกไทย

โจ๊กปลากระพงขาว


โจ๊กหอยลาย





Create Date : 17 มีนาคม 2552
Last Update : 6 ธันวาคม 2553 22:05:33 น. 4 comments
Counter : 17090 Pageviews.  
 
 
 
 
โจ๊กปลากระพงขาวกับโจ๊กหอยลายน่ากินจังค่ะ
 
 

โดย: The Best of Me วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:20:11:34 น.  

 
 
 
Na tan soot soot ka.
 
 

โดย: CrackyDong วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:20:58:03 น.  

 
 
 
ถ้าเป็นเมคงทานได้แต่ โจ๊กปล่าวๆ
กับหอยลาย หรือไม่ก็ปลา
เพราะไมชอบ ทานต้นหอม หรือ ขิงเลยอ่ะค่ะ
แหะๆๆๆๆๆๆๆ เด็กไม่ดี ไม่ทานผักๆอิอิ
 
 

โดย: AMAYZZ วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:2:34:29 น.  

 
 
 
เผื่อด้วยชามนึงนะ ๆ น่ากินจังเลยค่ะ
 
 

โดย: wiyada_susi วันที่: 23 มีนาคม 2552 เวลา:12:25:22 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

swin
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 442 คน [?]




[Add swin's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com