ทำไม? ผู้ป่วยเบาหวานถึงต้องไปพบคุณหมอบ่อยๆ การที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องมาพบแพทย์สม่ำเสมอนั้น ก็เพราะว่าอาหารที่เราทานไปแต่ละวันไม่เท่ากันและปริมาณน้ำตาลที่ทานเข้าไปก็ไม่เท่ากัน จึงต้องมาพบแพทย์ปรับขนาดยาเพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติให้มากที่สุด ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นจากการที่มีน้ำตาลในเลือดสูงนานๆ โดยแพทย์จะใช้โปรแกรมการตรวจเบาหวาน ที่มีไว้สำหรับตรวจดูคุณภาพการควบคุมเบาหวานที่ผ่านมา ว่าผู้ป่วยควบคุมเบาหวานได้ดีมากน้อยเพียงใด? น้ำตาลในเลือดเป็นอย่างไร? มีโรคแทรกซ้อนอื่นที่ร่วมด้วยหรือไม่? อย่างเช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ตลอดจนโรคแทรกซ้อนเรื้อรังที่อาจเกิดจากการเป็นเบาหวานนานๆ ที่ไม่ได้รับการควบคุม ซึ่งจะมีผลกับอวัยวะต่างๆ เช่น ตา ไต หัวใจ สมอง รวมถึงเส้นเลือดที่ปลายมือ ปลายเท้า ซึ่งอาจจะสร้างปัญหาทำให้เกิดแผลเรื้อรังได้ การตรวจฮีโมโกลบิน เอวันชี (Hb A1C) เป็นการตรวจเพื่อดูระดับน้ำตาลจับอยู่กับเม็ดเลือดแดง เป็นการตรวจว่าที่ผ่านมาย้อนหลังไป 3 เดือน ระดับน้ำตาลในเลือดทั่วไปปกติดีหรือไม่ ทำให้ทราบถึงระดับน้ำตาลในเลือดแต่ละระดับที่จะส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการดูแลตัวเองของผู้ป่วยนั่นเองครับ   Create Date : 22 เมษายน 2562     0 comment Last Update : 22 เมษายน 2562 9:55:38 น.     Counter : 1280 Pageviews.   Share Tweet

ฟื้นฟูผิวเสียไม่ยาก หลังเล่นน้ำสงกรานต์ ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ใครที่เล่นน้ำกลางแดดร้อนๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมง คงต้องเจอปัญหาผิวไหม้ ผิวเสีย และผิวหมองคล้ำตามมาอย่างแน่นอนครับ แม้ว่าจะป้องกันด้วยการทาครีมกันแดดแล้วก็ตาม วันนี้มีเคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดดมาฝากกันครับ... ✔️ ปรับอุณหภูมิผิวหลังโดนแดดเผา โดยใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งหรือชุบน้ำเย็นประคบ หรือใช้ว่านหางจระเข้มาทาบบริเวณที่แสบไหม้ ก็จะช่วยลดอาการอักเสบของผิว คลายความแสบร้อนของผิวที่ไหม้ได้ ✔️ เลี่ยงการใช้สบู่หรือครีมล้างหน้าต่างๆ ใช้เพียงน้ำสะอาดก็พอ งดแต่งหน้าหรือทาแป้งรองพื้นเพื่อปกปิดริ้วรอย เพราะยิ่งเป็นการทำลายผิวมากขึ้น ✔️ จนกว่ารอยไหม้จากแดดจะดีขึ้น งดการใช้เครื่องสำอางและสารบำรุงผิวต่างๆ ไว้ก่อน ✔️ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำบนผิว ดื่มน้ำเปล่าต่อวันเพิ่มมากขึ้น อาจดื่มน้ำผัก-ผลไม้สด เพิ่มในระหว่างวันก็ได้ ✔️ เมื่อรอยไหม้จากแดดดีขึ้นแล้ว เร่งเติมน้ำให้กับผิว ด้วยการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวให้มากกว่าปกติ 2 เท่า เพื่อคอยเติมน้ำให้ผิวอย่างเพียงพอ ✔️ เมื่อผิวกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ให้บำรุงผิวเพิ่มด้วยโลชั่นหรือเซรั่ม ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำพวกไวท์เทนนิ่ง ก็จะช่วยปกป้องการเกิดฝ้า และกระให้กับผิวได้ดีขึ้น ถ้าไม่อยากถูกแสงแดดทำลายผิวพรรณ ก็ควรป้องกันโดยใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA++ หรือเลือกที่เหมาะกับกิจกรรมประจำวันและผิวของเรา หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ต้องใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด หมั่นทาครีมกันแดดให้บ่อยครั้งขึ้น ก็จะช่วยให้ผิวไม่โดนทำร้ายจากแสงแดดมากเกินไปได้ครับ   Create Date : 17 เมษายน 2562     0 comment Last Update : 17 เมษายน 2562 9:40:51 น.     Counter : 1362 Pageviews.   Share Tweet

5 โรคต้องระวัง หลังเล่นน้ำสงกรานต์ ช่วงสงกรานต์เป็นอีกหนึ่งเทศกาลแห่งความสนุกสนาน แต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยโรคร้ายต่างๆ เนื่องจากเป็นช่วงหน้าร้อนที่มีการเพิ่มจำนวนของเชื้อโรคได้ง่ายอีกทั้งความอับชื้นจากการเล่นน้ำเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้เราไม่สบายเอาได้ง่ายๆ ว่าแต่จะมีโรคอะไรบ้าง? ที่ต้องระวัง มาดูกันครับ... 1. ไข้หวัด ปอดอักเสบ การเล่นน้ำสงกรานต์เป็นเวลานาน ทำให้ตัวเปียกชื้นตลอดเวลา หากเราไม่แข็งแรงและภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะทำให้เป็นไข้หวัด ไม่สบายและมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคปอดอักเสบหรือปอดบวมได้หากมีอาการน้ำมูกใสคัดจมูก ตัวร้อน ไอ ให้งดเล่นน้ำ และพักผ่อนเยอะๆ 2. โรคไวรัสตับอักเสบเอ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ติดต่อกันทางน้ำลาย โดยในช่วงเทศกาลเล่นน้ำ อาจทำให้มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ใช้แก้วน้ำ ใช้ช้อนร่วมกัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน 3. โรคตาอักเสบ น้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์นำพาเชื้อโรคเข้าสู่ตาได้ง่าย หากน้ำสกปกจะทำให้ตาบวม อักเสบ เป็นหนอง บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้ ควรใส่แว่นตากันน้ำ กันฝุ่น และเตรียมน้ำสะอาดไว้ล้างตาด้วยนะครับ 4. โรคผิวหนัง มาจากแป้งที่ใช้เล่นหรือสวมเสื้อผ้าเปียก อับ ชื้น เป็นเวลานาน ทำให้มีโอกาสเกิดเชื้อรา ผื่นผิวหนัง ผื่นแพ้ต่างๆ ได้  ซึ่งหลังจากเล่นน้ำเสร็จแล้ว ให้รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้ดี หากมีผื่นที่น่าสงสัยให้รีบไปปรึกษาแพทย์ 5. ท้องร่วง ท้องเสีย อาจเกิดจากการเผลอกลืนน้ำสกปกเข้าไป หรือใช้มือที่ไม่สะอาดหยิบจับอาหารทาน ทางที่ดีควรล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบอาหารมาทานนะครับ สนุกได้ แต่ก็อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ   Create Date : 10 เมษายน 2562     0 comment Last Update : 10 เมษายน 2562 9:33:07 น.     Counter : 1477 Pageviews.   Share Tweet

ไข้หวัดใหญ่กับเบาหวาน อันตรายกว่าที่คิด ทำไม?...ไข้หวัดใหญ่ถึงอันตรายต่อผู้ป่วยเบาหวาน โรคเบาหวานจะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ดีนัก จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ไซนัสอักเสบ ร่วมกับไข้หวัดใหญ่ได้ ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่เองก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวน อาจสูงขึ้นกว่าปกติหรือต่ำจนอันตรายได้ หากป่วยจนทานอาหารไม่ได้นั่นเองครับ ไข้หวัดใหญ่กับเบาหวาน อ่านเพิ่มเติม https://bit.ly/2HAJROS  องค์การอนามัยโลกและราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ได้แนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปีเพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากไข้หวัดใหญ่   Create Date : 09 เมษายน 2562     0 comment Last Update : 9 เมษายน 2562 9:41:51 น.     Counter : 1365 Pageviews.   Share Tweet

ดูแลเท้าในคนเป็นเบาหวานอย่างไร? ลดการติดเชื้อ การดูแลรักษาแผลของผู้ป่วยเบาหวานนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความสะอาด เนื่องจากโรคเบาหวานทำให้ภูมิต้านทานโรคในร่างกายลดต่ำลง จึงทำให้แผลหายช้า และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากกว่าปกติ ดังนั้นการทำความสะอาดแผลที่ถูกวิธีจึงมีความสำคัญและจำเป็นมากในผู้ป่วยเบาหวาน โดยมีขั้นตอนดังนี้  ควรล้างด้วยสบู่ โดยใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเกลือ ไม่ควรล้างด้วยแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ทำลายโปรตีนในเนื้อเยื่อ ควรล้างให้เบาที่สุด เฉพาะรอบบริเวณผิวหนังที่เป็นแผลเท่านั้น  เช็ดให้แห้ง  ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีนอย่างเจือจาง ปิดแผลด้วยผ้าปิดที่แห้งและผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ไม่ควรใช้พลาสเตอร์ปิดแผลโดยตรง และควรทำแผล 2 - 4 ครั้งต่อวัน ถ้าหากแผลบวมแดงขึ้นมีน้ำเหลืองออกมา แม้ว่าจะไม่มีความเจ็บปวดก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ผู้ป่วยเบาหวานจึงต้องดูแลตัวเองให้ดี ด้วยการควบคุมน้ำตาลให้อยู่ในระดับปกติ พบแพทย์ตามนัด ระมัดระวังไม่ให้เกิดแผลในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพราะเมื่อเกิดแผลแล้วจะรักษาหายได้ช้ากว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน แผลติดเชื้อ และอาจลุกลามไปถึงขั้นต้องตัดส่วนเนื้ออวัยวะที่ตายทิ้งได้ หากดูแลรักษาไม่ดีนั่นเองครับ   Create Date : 05 เมษายน 2562     0 comment Last Update : 29 เมษายน 2562 10:06:29 น.     Counter : 1678 Pageviews.   Share Tweet