นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
 

โรคไข้เลือดออก



โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส ชื่อ Dengue virus โดยมี ยุงลาย เป็นพาหะนำโรค เชื้อไข้เลือดออกจะมีระยะฟักตัวอยู่ในยุงประมาณ 5-8 วัน เมื่อยุงไปกัดคนก็จะถ่ายทอดเชื้อโรคนี้ให้กับผู้ที่ถูกกัด ทำให้คนที่ถูกยุงกัดเป็นไข้เลือดออก
ส่วนใหญ่โรคไข้เลือดออกมักพบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-14 ปี
อาการแสดงว่า อาจเป็นไข้เลือดออก
ระยะที่ 1 : ระยะไข้สูง
- ไข้สูงตลอดเวลา (39 – 40 องศาเซลเซียส)
- หน้าแดง ตาแดง ไอ เจ็บคอ
- ปวดศรีษะ กระหายน้ำ
- ซึม เบื่ออาหาร และอาจปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือ ชายโครงขวา
*ระยะที่ 1 ใช้เวลา 4-7 วัน ถ้าอาการไม่รุนแรง ไข้ก็จะค่อยๆ ลดลง และเด็กจะแจ่มใสขึ้น

ระยะที่ 2 : ระยะช็อคและมีเลือด
จะเกิดขึ้นในช่วงไข้ลด ประมาณวันที่ 3-7 ของโรค
- พบอาการปวดท้องมากขึ้น กดเจ็บเล็กน้อยตรงใต้ชายโครงขวา
- ตัวเย็น ซึม เหงื่อออกตามตัว
- ปัสสาวะน้อย
- ผู้ป่วยกระวนกระวาย และอาจมีจุดแดงๆ เหมือนมีเลือดออกตามผิวหนัง เลือดออกตามไรฟัน มีเลือกกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด หรือสีกาแฟ อุจจาระมีสีดำ ในรายที่รุนแรงจะมีความดันโลหิตต่ำ ช็อคและอาจถึงแก่ชีวิตได้
*ระยะนี้ใช้เวลา 24-72 ชั่วโมง ถ้าแพทย์สามารถแก้ไขได้ทันผู้ป่วยจะดีขึ้น และเข้าสู่ระยะที่ 3

ระยะที่ 3 : ระยะฟื้นตัว
อาการต่างๆ จะเริ่มดีขึ้นเด็กจะเริ่มอยากอาหารร่างกายจะฟื้นตัวได้เร็วจนเข้าสู่สภาวะปกติ บางรายมีผื่นแดงคันขึ้นตามแขนขา ตลอดระยะเวลาของโรคมักไม่เกิน 9 วัน ถ้าอาการไม่รุนแรงประมาณ 3-4 วัน อาการผู้ป่วยจะดีขึ้นได้เอง


จะดูแลอย่างไรเมื่อลูกเป็นไข้เลือดออก
- ในกรณีที่สงสัยว่าลูกเป็นไข้เลือดออก ควรพาไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัย และตรวจรักษา
- ในกรณีที่ลูกมีไข้ ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเพื่อลดไข้หากเป็นไข้เลือดออก ห้ามใช้ยาลดไข้ประเภทแอสไพริน เพราะจะทำให้เกร็ดเลือดเสียการทำงาน ทำให้เลือดออกได้ง่าย ควรใช้ยาประเภทพาราเซตามอล ห่างกันอย่างน้อย ทุก 4 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยควรได้รับน้ำทดแทน เพราะการที่มีไข้สูงเบื่ออาหาร และอาเจียน ทำให้ร่างกายขาดน้ำ แนะนำให้ลูกดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำเกลือแร่ ORS ถ้ามีอาการอาเจียนก็แนะนำให้ดื่มครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆ
- หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงถึงขั้นภาวะช็อค หรือมีเลือดออก ปวดท้องบริเวณยอดอก หรือลิ้นปี่ กระสับกระส่ายซึมมาก อาเจียนมากขึ้น รับประทานอาหารไม่ได้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องนอน รพ.เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยชีวิตและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
- เมื่อผู้ป่วยเริ่มมีอาการดีขึ้น จะเริ่มมีความอยากอาหารควรให้เป็นอาหารอ่อน ประเภทข้าวต้ม หรือโจ๊ก งดอาหารที่มีสีดำ หรือแดง เพราะถ้าอาเจียนจะแยกไม่ได้ว่าเป็นเลือด หรือไม่

จะป้องกันโรคไข้เลือดออกได้อย่างไร
- ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกแห่งในบ้าน และรอบบริเวณบ้าน เพราะยุงลายจะวางไข่ในน้ำนิ่ง เช่น น้ำขังในที่ต่างๆ ดังนั้น จึงควรปิดฝาภาชนะเก็บน้ำ และทำลายภาชนะต่างๆ ที่เป็นแหล่งน้ำขัง หรือการใช้ทรายอะเบทหรือเกลือใส่ในน้ำ เพื่อทำลายลูกน้ำยุงลาย
- ระวังอย่าให้ยุงกัด โดยเฉพาะในเวลากลางวัน เนื่องจากยุงลายมักชอบออกหากินในเวลากลางวัน ดังนั้นควรให้เด็กนอนในมุ้ง หรือ ให้เล่นในบริเวณที่มีแสงสว่างส่องถึง




 

Create Date : 07 ธันวาคม 2554   
Last Update : 7 ธันวาคม 2554 9:48:17 น.   
Counter : 1411 Pageviews.  


โรคที่ควรระวังช่วงน้ำท่วม



ขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับโรคที่มากับน้ำท่วมมาฝากกัน เพื่อให้ทุกคนที่บ้านอาจจะน้ำท่วมหรือไม่ก็ตามได้ระมัดระวัง และป้องกัน 6 โรคที่มักจะมากับน้ำท่วมดังนี้
1.โรคฉี่หนู เป็นโรคระบาดในคนที่ติดต่อมาจากสัตว์ มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียเลปโตสไปรา ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู วัว ควาย สุนัขและแมว ซี่งคนจะรับเชื้อเข้าไปทางบาดแผล หรือผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ๆ
อาการ ถ้า อาการไม่รุนแรง เหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ถ้า อาการรุนแรง ตาอักเสบแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ และถ้าเชื้อเข้าไปในสมองจะทำให้ไม่รู้สึกตัว และหากติดเชื้อทั่วร่างกายจะทำให้เลือดออกในร่างกายจนเสียชีวิตได้
การป้องกัน หลีกเลี่ยงการเดินอยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง หากจำเป็นควรใส่รองเท้าบูททุกครั้ง


2. อหิวาตกโรค เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio Cholerae ที่มักอยู่ในน้ำดื่มและอาหาร โดยมีแมลงวันเป็นพาหะนำโรค รวมทั้งอาหารสุข ๆ ดิบ ๆ ด้วย
อาการ ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำ ปวดท้อง/อาเจียนได้ ถ้าติดเชื้อรุนแรงอุจจาระเป็นน้ำซาวข้าว มีกลิ่นเหม็นคาว ถ่ายได้โดยไม่ปวดท้องและไม่รู้สึกตัว จนถึงขั้นช็อคและอาจเสียชีวิตได้
การป้องกัน รับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด และดื่มน้ำสะอาด

3. ไข้ไทฟอยด์ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Typhi ที่อยู่ในน้ำและอาหาร
อาการของโรค จะแสดงอาการหลังจากรับเชื้อประมาณ 1 สัปดาห์ อาการปวดศรีษะ เบื่ออาหาร ไข้สูง ท้องร่วง
การป้องกัน รับประทานอาหารที่สะอาด ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง


4. โรคตับอักเสบ มีการอักเสบของตับ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่สุกหรือไม่สะอาด
อาการ มีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ปวดบริเวณแถวชายโครงขวา และมีปัสสาวะเป็นสีชาแก่ เริ่มมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองในสัปดาห์แรก
การป้องกัน คือ รับประทานอาหารที่สุกและสะอาด ไม่ใช้แก้วน้ำและช้อนร่วมกับผู้อื่น


5. ตาแดง เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย /ไวรัส เกิดจากการใช้มือที่สกปรกขยี้ตา
อาการ คัน/เคืองตา มีขี้ตามาก ลักษณะเป็นหนอง
การป้องกัน ล้างมือให้สะอาด ไม่ใช่เครื่องสำอาง/ ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น


6. ไข้เลือดออก เกิดจากเชื้อไวรัส ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักพบในเด็ก ระบาดในฤดูฝน
อาการ มีไข้สูงประมาณ 2-7 วัน เบื่ออาหาร อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ อาจมีผื่นหรือจุดเลือดตามผิวหนัง หากเข้าสู่ภาวะวิกฤตไข้จะลดลง มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเร็ว อาเจียนมาก ปัสสาวะน้อย ทำให้เข้าสู่ภาวะช็อคได้
การป้องกัน พยายามอย่าให้ยุงกัด และอย่าให้ภาชนะในบ้านมีน้ำขังนานเพราะจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงได้

อย่าลืมใส่ใจสุขภาพอนามัย ในช่วงน้ำท่วมและช่วงฤดูฝนมากขึ้นกันสักนิดนะคะ


ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลรามคำแหง
//www.ram-hosp.co.th




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2554 9:20:27 น.   
Counter : 1342 Pageviews.  


ภาพบรรยากาศงานสัมมนาโรคหัวใจ





ภาพบรรยากาศงานสัมมนา"เมื่อ​โรคหัวใจตีบมาเยือน&รับมือโ​รคหลอดเลือดหัว
เมื่อวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2554 ณ.ห้องประชุมอาคาร C ชั้น 10 โรงพยาบาลรามคำแหง
โดยงานสัมมนาในวันนี้ได้รับ​เกียรติจาก รศ.นพ.วสันต์ อุทัยเฉลิมและนพ.อุทัย พันธิตพงษ์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจโ​รงพยาบาลราคำแหงเป็นวิทยกาก​รให้ความรู้
งานนี้ได้ความสนใจอย่างมากท​ำให้มีผู้มาร่วมงานสัมมนากั​นอย่างคับคั่งจนทำให้ห้องปร​ะชุมที่ใหญ่แคบลงไปในทันตา
ภายในงานเต็มไปด้วยคว​ามอบอุ่นสนุกสนานและเป็นกันเอง
ได้รับทั้งความรู้และ​ความสนุกสนานกลับบ้านกันอย่​างถ้วนหน้าเลยที่เดียว




 

Create Date : 04 สิงหาคม 2554   
Last Update : 4 สิงหาคม 2554 13:46:00 น.   
Counter : 1526 Pageviews.  


เส้นประสาทเส้น ที่ 7 อักเสบ (BELL'S PALSY)

Bell's palsy เป็นภาวะที่เส้นประสาทควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้ามีการอักเสบหยุดการทำงาน ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงด้านเดียวกัน คือ เปลือกตาตกลง มุมปากตกลง หลับตาไม่สนิท น้ำไหลมุมปาก ขยับยิ้มมุมปากด้านนั้นๆ ไม่ได้ ดังรูป
สามารถเกิดได้กับทุกคน เท่ากันทุกเพศ โอกาสจะเพิ่มขึ้นในคนที่เป็นเบาหวาน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักหายเป็นปกติดี มีส่วนน้อยที่มีอาการหลงเหลืออยู่ต่อไป ถ้าคุณมีอาการที่สงสัยว่าเป็น Bell's Palsy สมควรพบแพทย์โดยด่วนเพื่อให้การรักษาให้โรคหายเร็วขึ้น
สาเหตุของ BELL 'S PALSY
เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทเส้นที่ 7 ที่ควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้า โดยอักเสบจากเชื้อไวรัส มีหลักฐานพบว่ามักเป็นจากเชื้อ herpes simplex virus (HSV) หรือ เริม หรือ ร้อนใน ที่ให้เกิดแผลร้อนในที่ปากและอวัยวะเพศ นอกจากนั้นอาจเป็นจากเชื้ออื่นๆ เช่น งูสวัดหรือherpes zoster virus, cytomegalovirus, and Epstein Barr virus. การอักเสบทำให้เส้นประสาทบวม มีผลทำให้เส้นเลือดเล็กๆๆ ที่เลี้ยงเส้นประสาทส่งเลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทไม่ได้ รบกวนการทำงานของเส้นประสาททำให้ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้าให้ทำงานได้ คือกล้ามเนื้อที่ใช้ปิดตา และ ยิ้ม

อาการของ BELL'S PALSY
• Eyebrow sagging คิ้วตกลง
• Drooping of the eye and corner of the mouth เปลือกตาตกลง มุมปากตก
• One eye will not close completely ปิดตาไม่สนิท ทำให้ตาแห้ง
• lose the sense of taste on the front of the tongue ชาลิ้น
• Loud noises may cause discomfort in the ear หูอื้อ
• เคี้ยวแล้วน้ำลายไหลเพราะปิดปากไม่สนิท
อาการปกติจะชัดเจนใน 1-2 วัน แต่ส่วนใหญ่มักค่อยๆ ดีขึ้นใน 3 สัปดาห์ หายสนิทอาจต้องใช้เวลาถึง 3-6 เดือนได้

การวินิจฉัย
โดยการตรวจร่างกายเป็นหลัก ไม่มีจำเป็นต้องตรวจเลือดหรือเอกซเรย์ ยกเว้นในรายที่เป็นนานเกิน 2 เดือนอาการไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กเพื่อยืนยันว่าไม่มีเนื้องอก

การรักษา
ไม่มีการรักษาที่หายขาดสำหรับโรค Bell's palsy แต่การรักษาช่วยให้ผู้ป่วยหายเร็วขค้น โดยเฉพาะถ้าได้รับการรักษาใน2-3 วันแรกของการเป็น การดูแลดวตาของคุณ คุณจำเป็นต้องดูแลตาให้ดี
เพราะปิดตาไม่สนิทอาจทำให้มีแผลที่กระจกตาได้ แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมระหว่างวัน และ moisturizing ointment ตอนกลางคืน และสวมแว่นกันลมและแดดในช่วงกลางวันที่เปลือกตาทำงานไม่ได้ดีในการปกป้องอันตรายจากลมและแดด หรือใช้ patch ปิดตาช่วงการกลางคืนได้ แต่เราไม่แนะนำให้ใช้เทปหรือผ้าก๊อซปิดตาเนื่องจากอาจบาดกระจกตาได้ ผู้ป่วยที่เป็นในช่วง 2-3 วัน มักได้รับ prednisone ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้เส้นประสาทยุบบวมหายเร็วขึ้น และยาอีกชนิดคือ ยาต้านไวรัส เช่น acyclovir, valacyclovir, falciclovir

การหายของ BELL'S PALSY
ทั่วไปน้อยมากที่จะไม่หายดี ถ้าเริ่มดีขึ้นใน 3 สัปดาห์พบว่าโอกาสที่หายสนิทสูงมาก แต่อย่างไรก็ตามมีคนไข้จำนวนเล็กน้อยที่มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้าเหลืออยู่เล็กน้อยถึงปานกลาง
ผู้ป่วยบางคนที่มีอาการรุนแรงมาก เมื่อหายอาจมีการงอกของเส้นประสาทใหม่และเกิดอาการแปลกๆ เช่น
• When you blink your mouth may twitch เมื่อกระพริบตามุมปากคุณกระตุก
• Smiling may cause your eye to close เมื่อคุณยิ้ม ตาคุณกลับปิดลง
• When you salivate (eg, before eating), tears may flow from one eye เมื่อคุณเคี้ยว กลับมีน้ำตาไหล
โอกาสเป็นซ้ำน้อยมาก แต่มีรายงานพบประมาณ 7 - 15 %


//www.ram-hosp.co.th

//www.ram-hosp.co.th/alz_11.htm




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 22 กรกฎาคม 2554 10:48:08 น.   
Counter : 1534 Pageviews.  


ขอเชิญร่วมสัมมนา เมื่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมาเยือน

ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลรามคำแหง
ขอเชิญร่วมสัมมนาในหัวข้อ
“เมื่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมาเยือน & รับมือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบโดยไม่ต้องผ่าตัด”
วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2554 เวลา 13.00 - 15.30 น.
ณ ห้องประชุม อาคาร C ชั้น 10 โรงพยาบาลรามคำแหง
โดย นพ.อุทัย พันธิตพงษ์ และ รศ.นพ.วสันต์ อุทัยเฉลิม อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ

13.00 – 13.30 น. ลงทะเบียน พร้อมรับบริการสุขภาพ
- ตรวจวัดความดันโลหิตด้วยระบบดิจิตอล
- ตรวจวัดความดันตาอัตโนมัติชนิดไม่สัมผัส
- รับคำปรึกษาปัญหาโรคหัวใจโดยผู้เชี่ยวชาญ
13.30 – 14.20 น. เมื่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมาเยือน
นพ.อุทัย พันธิตพงษ์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ
14.20 – 15.00 น. รับมือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบโดยไม่ต้องผ่าตัด
รศ.นพ.วสันต์ อุทัยเฉลิม
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ
ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจ รพ.รามคำแหง
15.00 – 15.30 น. ไขข้อข้องใจกับโรคหัวใจ
15.30 น. รับประทานอาหารว่าง
จบการสัมมนา


ไม่เสียค่าใช้จ่าย....สำรองที่น่งด่วน...ที่
ศุนย์หัวใจ อาคาร C ชั้น 1 หรือ โทร 0-2743-9999
ต่อ Call Center 2680,2688,2690


//www.ram-hosp.co.th




 

Create Date : 06 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 6 กรกฎาคม 2554 14:12:15 น.   
Counter : 1472 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com