นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรค มือ เท้า ปาก


โรคมือเท้าปากมีสาเหตุมาจากอะไร
โรคมือเท้าปากเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสได้หลายชนิดอเช่น เชื้อค๊อกแซกกี่ A ( COXSACKIC VIRUS A) ซึ่งเชื้อนี้ไม่จะรุนแรง เป็นแล้วเองได้ แต่ถ้าเป็นจากเชื้อค๊อกแซกกี่ B (COXSACKIC VIRUS B ) หรือเอนเทอโรไวรัส 71
( Enterovirus 71 ) อาการจะรุนแรงกว่ามาก อาจทำให้เกิดเยื้อหุ้มสมองอักเสบ , สมองอักเสบ , อัมพาต หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

โรคนี้พบได้บ่อยในช่วงไหนและติดต่อกันได้อย่างไร
ส่วนใหญ่จะระบาดในช่วงฤดูร้อน สามารถติดต่อกันได้ทางน้ำลาย เช่น สัมผัสผ่านมือที่จับอาหาร ใช้ภาชนะร่วมกัน เช่นแก้วน้ำ หรือติดต่อทางลมหายใจจากการไอหรือจามเหมือนกับโรคหวัด หลังจากได้รับเชื้อแล้ว จะมีระยะฟักตัวค่อนข้างสั้นคือ ประมาณ 3-6 วัน ถึงจะมีอาการแสดงให้เห็น ภายหลัง

การได้รับเชื้อจะมีอาการเกิดขึ้นทุกคนหรือไม่
ถ้าเป็นเด็กเล็กจะปรากฏอาการ 100 % ถ้าเป็นเด็กนักเรียน อาจแสดงอาการ 38 % และในผู้ใหญ่แสดงอาการ 11 %

อาการใดบ้างที่ควรจะคิดถึงโรคนี้
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีไข้เจ็บคอประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นจะมีแผลลักษณะคล้ายแผลร้อนในปากที่ลิ้นกระพุ้งแก้ม ขนาดประมาณ 4-8 มิลลิเมตร จะพบตุ่มใสๆ ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า มักพบที่ก้นด้วย ขนาดประมาณ 3-7 มิลลิเมตร ตุ่มเหล่านี้จะหายได้เองภายใน 7 วัน

โรคนี้มีความรุนแรงหรือไม
โดยส่วนใหญ่จะหายได้เหมือนกับโรคจากไวรัสทั่วๆไป โดยให้การรักษาตามอาการ ยกเว้นโรคที่เกิดจากไวรัสบางสายพันธุ์ เช่น Enterovirus 71 และเกิดในเด็กเล็กต่ำกว่า 4-5 ปี อาจจะมีอาการทางสมอง และระบบประสาทมีอาการอักเสบของปอด และกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่พบค่อนข้างน้อย

สามารถจะวินิฉัยได้อย่างไร
สามารถวินิจฉัยจากประวัติ และอาการแสดงทางร่างกาย

ควรปฎิบัติตัวอย่างไรเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการให้เด็กคลุกคลี หรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- รักษาอนามัยส่วนบุคคล โดนเฉพาะผู้เลี้ยงเด็ก ควรล้างทำความสะอาดมือบ่อยๆ ก่อนหยิบจับอาหารให้เด็กรับประทานและรับประทานอาหารสุก สะอาด ปรุงใหม่ๆ
- ไม่ใช้ภาชนะในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะช้อน จาน ชาม แก้วน้ำ ขวดน้ำ
- เมื่อเช็ดน้ำมูก น้ำลายให้เด็กแล้ว ต้องล้างมือให้สะอาดโดยเร็ว
- ผ้าอ้อมหรือเสื้อผ้าที่เปื้อนอุจจาระ ต้องรีบซักให้สะอาดโดยเร็วและทิ้งน้ำลงในโถส้วม ห้ามทิ้งลงท่อระบายน้ำ
- ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน


การดูแลรักษาควรทำอย่างไร
ส่วนใหญ่โรคนี้จะหายเองได้ภายในระยะเวลาไม่เกิด 1 สัปดาห์ เหมือนกับโรคหวัด เพียงแค่ให้การรักษาตามอาการ ให้ยาลดไข้ เช็ดตัว ดื่มน้ำมากๆ แต่เด็กอาจจะมีอาการเจ็บเยื่อบุในช่องปากจนไม่อยากทานอาหาร ควรให้ทานอาหารอ่อนๆถ้าเด็กไม่ทานอาหารอาจมีไข้สูง ซึมลงหรือมีอาการเหนื่อยหอบควรรีบนำไปพบแพทย์แต่เนิ่นๆเพื่อรับการรักษาไว้ในโรงพยาบาลเพื่อดูแลอาการแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้



//www.ram-hosp.co.th




Create Date : 04 เมษายน 2555
Last Update : 4 เมษายน 2555 14:58:40 น. 1 comments
Counter : 1434 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:16:18:01 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com