นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
ไข้หวัดใหญ่




ไข้หวัดใหญ่

เป็นโรคติดเชื้อในระบบหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ติดต่อได้ง่ายจากมือสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่ไอ จาม แล้วนำมือมาสัมผัสบริเวณจมูกปาก หรือตา คนที่เป็นโรคนี้หากเกิดในเด็ก หรือผู้สูงอายุจะมีความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนมาก บางรายอาจเสียชีวิตได้

อาการที่พบได้บ่อยในโรคไข้หวัดใหญ่
1. ไข้สูง บางครั้งหนาวสั่น
2. ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก
3. เจ็บคอ ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล
4. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร จุกแน่นท้อง
5. อาเจียน ท้องร่วงมาก

การดูแลตนเองเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่

· รับประทานยาลดไข้เช่น พาราเซตามอล (ห้ามใช้ยาแอสไพรินในคนที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี เพราะทำให้เกิด Reye’ Syndrome ได้) และยารักษาตามอาการเช่น ยาแก้ไอ ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร

· เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำสะอาดอุ่นเล็กน้อยเป็นระยะเช็ดแขนขาย้อนเข้าหาลำตัว เช็ดบริเวณหน้าผาก ซอกรักแร้ ขาหนีบ ข้อพับแขนขา และใช้ผ้าห่มปิดหน้าอกไว้เพื่อไม่ให้หนาวเย็นจนเสี่ยงเกิดปอดบวมหากผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่น ต้องหยุดเช็ดตัวและห่มผ้าให้อบอุ่นทันที

· .ให้ใช้ยาRelenza หรือรับประทานยา Tamiflu ครบตามแพทย์สั่ง

· รักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งไข่ นม ผัก และผลไม้ เช่นฝรั่งซึ่งอุดมด้วยวิตามินซี ดื่มน้ำสะอาดมากๆ งดดื่มน้ำเย็นจัด

· ทำจิตใจให้สบาย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ (คืนละ 6-8ชั่วโมง) ไม่นอนดึก นอนในห้องที่อากาศไม่เย็นเกินไปและอากาศถ่ายเทสะดวก

· ออกกำลังกายสม่ำเสมอ


การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดใหญ่

· อย่าใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นเช่น ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ และควรใช้ช้อนกลาง

· เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วยมีไข้ ไอ จาม เลี่ยงสถานที่ที่มีคนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก (โดยเฉพาะช่วงที่มีโรคระบาด)

· ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่รวมกับผู้อื่น

· ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชู่ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ไอหรือจาม

· ทิ้งกระดาษทิชชู่ที่เปื้อนเสมหะในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิดจากนั้นล้างมือให้สะอาด

· ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือใช้แอลกอฮอล์ถูมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังสัมผัสจมูกปากหรือตา

· หยุดพักที่บ้านจนหายป่วยประมาณ 3-7 วัน

· ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ซึ่งควรฉีดทุกปีเพราะเชื้อไวรัสจะเปลี่ยนสายพันธุ์ที่ระบาดแต่ละปีไม่เหมือนกันเพื่อครอบคลุมเชื้อที่เป็นสาเหตุภูมิคุ้มกันที่เกิดหลังฉีดวัคซีนจะมีความเฉพาะเจาะจงต่อเชื้อที่ทำให้เกิดโรคเท่านั้น ถ้าไม่ได้รับวัคซีนหลังจากระยะเวลา 1 ปีถึงแม้เป็นเชื้อตัวเดิมก็จะป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้




Create Date : 08 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2560 11:38:03 น. 2 comments
Counter : 1041 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดีจ้ะ เราแวะมาทักทายนะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4286561 วันที่: 22 ธันวาคม 2560 เวลา:15:57:40 น.  

 
 
 
ไปอ่านเจอมาบทความนึงค่ะ เป็นสาระความรู้เพิ่มนะคะ มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ โรคไข้หวัดใหญ่
1 โรคไข้หวัดใหญ่ไม่ร้ายแรง ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีน ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
ผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่มีมากถึง 650,000 รายต่อปี ซึ่งตัวเลขนี้คือการเสียชีวิตเนื่องจาก การตายของระบบทางเดินหายใจเท่านั้น ดังนั้นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นยังจะมียิ่งกว่านี้ และแม้ในผู้ที่มีสุขภาพดีก็สามารถติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ โดยคนส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่บางคนอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ไซนัส และการติดเชื้อในหู ปอดบวม รวมถึงหัวใจและสมองอักเสบ ดังนั้น จึงควรได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันการเป็นโรค

2 คนที่มีร่างกายแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน
ในขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการป่วยเรื้อรัง แต่สำหรับคนที่มีสุขภาพดี การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เนื่องจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี สำหรับทุกคนที่อายุมากกว่า 6 เดือน รวมถึงผู้หญิงตั้งครรภ์ด้วย
สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าปกติ และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อตาย (inactivated flu vaccine) ถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์

3 วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สามารถทำให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่นั้น เป็นการฉีดเชื้อไวรัสชนิดเชื้อตาย (inactivated virus) ที่ไม่สามารถทำให้คุณติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซาได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณรู้สึกปวดหรือมีไข้เล็กน้อย ถือเป็นปฏิกิริยาปกติของระบบภูมิคุ้มกันต่อการฉีดวัคซีน และโดยทั่วไปจะมีอาการเพียง 1-2 วัน

4 วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย และผลข้างเคียงที่รุนแรงนั้นเป็นกรณีที่หาได้ยากมาก โดยมี 1 ในล้านคนที่อาจจะเกิดกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré Syndrome, GBS) ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเป็นอัมพาต

5 ถ้ามีไข้สูงนานกว่า 1-2 วันอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
ยาปฏิชีวนะทำงานได้ดีในการต้านเชื้อแบคทีเรีย แต่ไม่มีประสิทธิภาพสำหรับการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา อย่างไรก็ตามยาปฏิชีวนะอาจใช้ได้สำหรับโรคแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะมากินเอง เพราะยาจะไม่ช่วยทำให้อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ดีขึ้น แต่อาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้

6 คุณไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
ไวรัสอินฟลูเอนซามีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา การฉีดวัคซีนทุกปีจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะมีภูมิต้านทานต่อไวรัสสายพันธ์ุใหม่ๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคได้

7 คุณจะไม่แพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ ถ้าคุณรู้สึกสบายดี
ที่จริงแล้ว ผู้ที่มีเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา ราว 20-30 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีอาการใดๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะแพร่เชื้อไม่ได้

ยังไงก็ลองอ่านดูเพิ่มเติมได้นะคะ เป็นสาระความรู้ที่มีประโยชน์มากๆค่ะ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4984277 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:16:56:30 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com