อาการตาแห้ง ( Dry eye)
แพทย์หญิงนัฏฐินี ธีระศักดิ์วิชยา
จักษุแพทย์
เป็นอาการที่พบได้ค่อนข้างบ่อย โดยที่ผู้ป่วยมักจะบ่นว่ามีอาการแสบตาตาแดง เคืองตา รู้สึกแห้งฝืด บางครั้งมีขี้ตาเป็นเส้นเมือก ลืมตายากอาการจะเป็นมากเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ทำให้น้ำตาระเหยง่าย เช่น แสงจัด ความร้อนอยู่ในที่มีความชื้นต่ำ (ห้องปรับอากาศ) ควัน ลมแรงหรือแม้แต่การใช้สายตาเป็นเวลานาน (เพราะต้องลืมตานาน ทำให้อัตราการกะพริบตาลดลง)ในบางรายอาจมีเยื่อเมือกติดแน่นที่กระจกตา ทำให้เคืองตามากโดยเฉพาะเวลากะพริบตา
อาการตาแห้งเกิดจากการมีน้ำตาหล่อเลี้ยงดวงตา น้อยกว่าปกติ ทั้งปริมาณและคุณภาพหรือเกิดจากการกระจายของน้ำตาไม่สม่ำเสมอทั่วถึงทั้งดวงตา
สาเหตุมีด้วยกันหลายประการได้แก่
1. การผลิตน้ำตาของต่อมสร้างน้ำตาลดลงบางรายจะพบร่วมกับการผลิตน้ำลายลดลง ทำให้ปากแห้ง หรือร่วมกับโรคกลุ่ม Autoimmune
2. ความบกพร่องหรือโรคที่เกิดกับเยื่อบุตา เช่น กลุ่มอาการแพ้ยา (Stevens-Johnson) ริดสีดวงตา การขาดวิตะมินเอ
3. การทำงานผิดปกติของต่อมที่เปลือกตา
4. ความบกพร่องในการทำงานของเปลือกตาเช่น การอักเสบของเส้นประสาทเลี้ยงกล้ามเนื้อรอบตา หรือขอบตา ไม่เรียบสม่ำเสมอทำให้ปิดตาไม่สนิทมีผลให้การเกลี่ยของน้ำตาไม่ทั่วถึง และเป็นจุดแห้งเฉพาะบริเวณ
5. เกิดจากยาบางชนิด เช่นยาแก้แพ้ ยาลดความดันโลหิตบางชนิด ยาคุมกำเนิด
ในการดูแลรักษาต้องพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น อย่าอยู่ในที่ลมแรง ควัน การสวมแว่นกันแดดหากทำงานในห้องปรับอากาศ ควรออกมาพักข้างนอกบ้างบางครั้งอาจต้องได้รับการตรวจเพื่อหาสาเหตุ และใช้น้ำตาเทียม (artificial tears) ทดแทน เพื่อช่วยหล่อลื่น และให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาน้ำตาเทียมประกอบไปด้วยน้ำและสารที่ให้ความชุ่มชื้น ช่วยลดการระเหยของน้ำตาสารเหล่านี้ไม่มีอันตรายต่อดวงตา สามารถใช้ได้ตามต้องการในรายที่ไวหรือแพ้สารคงสภาพ (preservative) ซึ่งมีอยู่ในยาหยอดตาทุกชนิดก็สามารถเลือกใช้น้ำตาเทียม ที่ปราศจากสารคงสภาพ (non preservative) ซึ่งบรรจุอยู่ในหลอด ที่ใช้ได้วันต่อวัน
ทั้งหมดนี้หวังว่าผู้อ่านคงจะพอรู้จักและรู้วิธีดูแลอาการตาแห้งพอสังเขปค่ะ
เราทานยาคุมมาประมาณ 12 ปีแล้ว และอาการตาแห้งก็เป็นมาตั้งแต่ อายุ 24 ตอนนี้ 40 แล้ว กลุ้มมากค่ะ ร้องไห้น้ำตาก็ไม่มี แถมแน่นจมูกเข้าไปอีก