เทคโนโลยีในการลบรอยฝ้า กระตื้น กระลึก
เทคโนโลยีในการลบรอยฝ้า กระตื้น กระลึก ใช้เลเซอร์เปลี่ยนเม็ดสีที่มีประสิทธิภาพในการลบรอยฝ้า กระตื้น กระลึก และรอยสักซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าลบยาก โดยไม่ก่ออันตรายต่อผิวหนังบริเวณรอบข้าง สามารถเลือกปรับใช้ความยาวคลื่นได้หลายชนิดเพื่อให้ได้ผลในการรักษาตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้น แพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์ กล่าวว่า สภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้มนุษย์ต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บเพิ่มมากขึ้น ทั้งโรคที่มีอยู่แล้วและโรคใหม่ๆ ที่เพิ่งเกิดมีขึ้น โดยเฉพาะโรคหรือปัญหาที่เกิดขึ้นตามผิวหนัง ที่แม้จะไม่ได้สร้างอันตรายจนถึงแก่ชีวิต แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้ผู้ป่วยได้มากพอสมควร อาทิ กระ ฝ้าที่มักเกิดขึ้นที่บริเวณใบหน้า ซึ่งปัญหาผิวพรรณเหล่านี้ เกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายใน เช่น กรรมพันธุ์ หรือได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดดและความร้อน สำหรับปัญหารอยกระที่มักพบบ่อยนั้นมี 2 ประเภท คือกระตื้น และกระลึก โดยกระลึกจะขึ้นตามโหนกแก้มสองข้าง มองเห็นอยู่ลึกๆ สีออกเทา ในขณะที่กระตื้นจะเห็นเป็นจุดสีน้ำตาลแต้มอยู่ตามใบหน้าชัดเจนกว่า ด้านการรักษาปัญหาผิวพรรณดังกล่าว แพทย์ผิวหนังเปิดเผยว่า อาจเริ่มตั้งแต่การใช้ยาทา ซึ่งหากพยาธิสภาพอยู่ลึกมากอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังมีวิธีรักษาด้วยเลเซอร์ซึ่งให้ผลที่รวดเร็วกว่า โดยเลเซอร์เปลี่ยนเม็ดสี (Medlite C6 Laser) ซึ่งเลเซอร์ชนิดนี้เป็นเลเซอร์สำหรับกำจัดเม็ดสีโดยเฉพาะ โดยได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถนำมาใช้รักษาปัญหาผิวพรรณที่รักษายาก อาทิ แผลเป็นจากสิว กระ ฝ้า ปานแดง ปานดำ หรือแม้แต่รอยสักได้ หลักการทำงานของเลเซอร์เปลี่ยนเม็ดสี Medlite C6 Laser นั้น เครื่องจะปล่อยคลื่นแสงออกมาได้ 4 ชนิด ตามความยาวช่วงคลื่น ได้แก่ 532, 585, 650 และสูงสุดที่ 1064 ซึ่งถือว่าเป็นความยาวคลื่นที่ค่อนข้างลึก ทำให้ตัวเม็ดสีสามารถดูดซับความยาวคลื่นเหล่านี้ไว้ได้ หลังจากนั้นก็จะเก็บความร้อนในตัวเม็ดสี เม็ดสีจะแตกออก แล้วร่างกายก็จะมีปฏิกิริยาเพื่อเก็บเม็ดสีเหล่านั้นไปทิ้งตามลำดับ ส่งผลให้ริ้วรอยจางหายไป นอกจากนี้ Medlite C6 Laser ยังมีตัวปิดรูแสงอิเล็กทรอนิกส์ความเร็วสูง ซึ่งจะช่วยปลดปล่อยพลังงานที่สูงในระยะเวลาที่สั้น ทำให้การทำลายเนื้อเยื่อเป้าหมายมีประสิทธิภาพ และลดการเกิดความร้อนในเนื้อเยื่อปกติ ส่งผลให้สามารถรักษาได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย แต่ไม่ทำอันตรายกับผิวหนังปกติ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีวิธีการและเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวพรรณอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แต่แพทย์ผิวหนังยังได้แนะนำว่า การดูแลป้องกันตนเองก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติด้วย โดยผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาผิวพรรณ ควรทำจิตใจให้แจ่มใส ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมทั้งใส่ใจเรื่องของสภาวะแวดล้อมภายนอก เช่น มลภาวะ สารเคมี แสงแดด ควรพยายามหลบเลี่ยงแสงแดด หรือหากไม่สามารถเลี่ยงได้ก็ควรทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันไว้ด้วย ซึ่งอาจจะช่วยให้ปัญหาริ้วรอยมาเยือนได้ช้าลง
ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลรามคำแหง //www.ram-hosp.co.th
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2553 10:04:23 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1405 Pageviews. |
|
|
|
|