โรคเส้นประสาทที่เกิดจากเบาหวาน Diabetic neuropathy
โรคเส้นประสาทที่เกิดจากเบาหวาน Diabetic neuropathy พญ.อริยา ทิมา อายุรแพทย์ระบบสมองและประสาท โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยและก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้มากโรคเส้นประสาทก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความพิการและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานเช่นกันโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมานานและควบคุมโรคได้ไม่ดี ทั้งในเบาหวานชนิดที่ 1และชนิดที่ 2ในบางรายอาจพบโรคเส้นประสาทในขณะที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยเบาหวานชนิดที่ 2 ก็ได้.เนื่องจากผู้ป่วยอาจไม่มีอาการเบาหวานมากนักแต่เป็นโรคมานาน อาการปวดเป็นอาการสำคัญของโรคเส้นประสาทนี้แต่อาจไม่พบในผู้ป่วยทุกรายซึ่งกลไกดังกล่าวยังไม่เป็นที่ชัดเจนนัก.มีรายงานวิจัยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาพบว่ากลไกทางระบบภูมิคุ้มกันและการปรับตัวที่ผิดปกติของระบบประสาทน่าจะมีส่วนสำคัญต่อการดำเนินโรค.ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีอาการปวด มักจะมีอาการปวดเรื้อรังรักษาได้ยากและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นตามมาและเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจในที่สุด โรคเส้นประสาทเฉพาะที่ที่มีลักษณะพิเศษในผู้ป่วยเบาหวานคือ Diabetic LumbosacralRadiculoplexus Neuropathy (DLRPN) หรือเป็นที่รู้จักในชื่ออื่นเช่น Diabetic Amyotrophy, Bruns Garland Syndrome หรือ Femoral-SciaticNeuropathy. ผู้ป่วยจะมีอาการชาหรือปวดเฉียบพลันบริเวณ ต้นขาร่วมกับอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ quadriceps/iliopsoas ทำให้เดินไม่สะดวกเมื่อตรวจร่างกาย จะพบว่า patellar reflex ลดลงหรือหายไปโดยอาการดังกล่าวจะคงอยู่เป็นเดือนแล้วค่อยๆ ดีขึ้นได้เองแต่อาจก่อให้เกิดความพิการหลงเหลืออยู่โรคนี้เชื่อว่าเกิดจากปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติทำให้เกิดการอักเสบและอุดตันของหลอดเลือดเล็กๆที่ไปเลี้ยงเส้นประสาทดังกล่าวมีการศึกษาทางพยาธิวิทยาของเส้นประสาทพบว่ามีปฏิกิริยาอักเสบและเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Lymphocyte ล้อมรอบหลอดเลือดและก่อให้เกิดการตายของเส้นประสาทนั้นๆ จึงมีการใช้ยากลุ่มสตีรอยด์ขนาดสูง หรือ intravenousimmunoglobulin ในการรักษาผู้ป่วยโรคนี้ และพบว่าได้ผลดี แต่ยังไม่มีการศึกษาขนาดใหญ่ยืนยันในขณะนี้ สรุป โรคเส้นประสาทจากเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวานทั่วไป ซึ่งการเสื่อมของเส้นประสาทอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ระยะก่อนเบาหวาน จนถึงเบาหวานระยะท้ายการควบคุมระดับน้ำตาลอย่างเข้มงวดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันและรักษาโรคนี้.การรักษาในปัจจุบันมักเป็นการ รักษาตามอาการโดยใช้ยาต่างๆเพื่อบรรเทาปวดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมาปัจจุบันมีความก้าวหน้าในด้านความเข้าใจต่อกลไกของโรคมากขึ้นซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาในอนาคต โรคเบาหวาน (Diabetes) เป็นโรคที่เป็นต้นเหตุของโรคแทรกซ้อนต่างๆได้มากอย่างไม่น่าเชื่ออันตรายจากการเกิดโรคแทรกซ้อนมักจะรุนแรงมากดังนั้นหากผู้ป่วยเบาหวานควบคุมอาการของโรคไม่ดีพอจะทำให้มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาได้โรคแทรกซ้อนที่ว่าอาจเกิดขึ้นกับส่วนใดหรือระบบใดของร่างกายก็ได้ระบบประสาทก็เป็นระบบที่เกิดการแทรกซ้อนของโรคจากอาการเบาหวานได้บ่อย อาการแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท จะมีอาการสูญเสียการรับความรู้สึกอาจเริ่มจากชาตามปลายนิ้วและลุกลามต่อไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายไม่ว่าร่างกายส่วนที่สูญเสียการรับรู้ความรู้สึกจะไปสัมผัสกับสิ่งที่ร้อนหรือเย็นหรือแม้แต่ได้รับบาดแผลผู้ป่วยก็จะไม่รู้สึกตัวเลยเท้าเป็นอวัยวะของผู้ป่วยเบาหวานที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้ง่ายที่สุดเนื่องจากผู้ป่วยต้องใช้เท้าเดินไปไหนมาไหนหากประสาทการรับรู้ที่เท้าสูญเสียไปเมื่อผู้ป่วยเบาหวานเดินไปเหยียบตะปูหรือของมีคมก็จะไม่รู้สึกตัวยิ่งไปกว่านั้นแผลของผู้ป่วยเบาหวานก็จะหายช้ากว่าคนปกติอีกด้วยหากดูแลแผลไม่ดีอาจทำให้เกิดการลุกลามจนอักเสบและติดเชื้อได้ หากผู้ป่วยเบาหวานเกิดภาวะที่เส้นเลือดฝอยที่เท้า มีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอแล้วผู้ป่วยอาจมีอาการปวดเส้นประสาทหรือปวดแสบปวดร้อนได้บางทีผู้ป่วยจะรู้สึกเหมือนมีมดไต่เท้าอยู่ตลอดเวลาสร้างความรำคาญจนมีผลกระทบในเวลาพักผ่อนของผู้ป่วยทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอร่างกายอ่อนเพลียได้ง่าย การแทรกซ้อนที่เกิดกับระบบประสาท (Diabeticneuropathy)อาจเกี่ยวข้องกับเส้นประสาทของกล้ามเนื้อตาซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติของการทำงานของกล้ามเนื้อตาคืออาจมองเห็นภาพซ้อนไม่สามารถกลอกตาไปในบางทิศทางได้ บางครั้งอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วยแต่ความผิดปกติของระบบประสาทในลักษณะนี้เมื่อเวลาผ่านไปอาการมักจะค่อยๆดีขึ้นได้เองซึ่งเป็นความผิดปกติของเส้นประสาทเฉพาะเส้นเท่านั้น การแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับระบบประสาทอัตโนมัติ หากเป็นระบบประสาทที่ควบคุมทางเดินอาหารจะทำให้กระเพาะทำงานได้น้อยกินอาหารน้อย อาเจียน แน่นท้องตลอดจนการดูดซึมอาหารก็ทำงานได้ไม่ดีแต่หากระบบประสาทอัตโนมัตินั้นควบคุมเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์หรือระบบปัสสาวะจะทำให้เกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่กระเพาะปัสสาวะไม่ทำงานมีปัสสาวะค้างอยู่ภายในทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและอาจกระทบไปถึงปัญหาอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว(Erectile Dysfunction) ที่เป็นปัญหาใหญ่ของเพศชายด้วย โรคเบาหวาน (Diabetes) โดยปกติแล้วหากควบคุมอาการอยู่ก็จะไม่เกิดปัญหาอะไรกับตัวผู้ป่วยแต่สิ่งที่น่ากลัวคือเบาหวานเป็นจุดเริ่มของโรคแทรกซ้อนที่อันตรายมาก ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานควรให้ความสำคัญในการควบคุมอาการของโรคและระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีเพราะหากเกิดการผิดพลาดตรงจุดนี้จะทำให้โรคแทรกซ้อนจากเบาหวานโรคใดโรคหนึ่งหรือหลายโรคเกิดตามมาได้ ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท (Diabetic neuropathy) เบาหวาน จะทำให้หลอดเลือดเล็กๆ ที่มาเลี้ยงเส้นประสาทบริเวณปลายมือปลายเท้าเกิดพยาธิสภาพก็จะทำให้เส้นประสาทนั้นไม่สามารถนำความรู้สึกต่อไปได้เช่นรู้สึกชาหรือปวดแสบปวดร้อนตามปลายมือ เมื่อผู้ป่วยมีแผล ผู้ป่วยก็จะไม่รู้ตัวและไม่ดูแลแผลดังกล่าว ประกอบกับเลือดผู้ป่วยมีน้ำตาลสูงจึงเป็นอาหารอย่างดีให้กับเหล่าเชื้อโรค และแล้วแผลก็จะเน่า และนำไปสู่ Amputation ในที่สุดในผู้ชายอาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (impotence)
สายด่วนสุขภาพโทร 0-2743-9999 , 0-2374-0200-16 www.ram-hosp.co.th www.facebook.com/ramhospital
Create Date : 12 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 12 ธันวาคม 2556 13:43:10 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3150 Pageviews. |
|
|
|
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ