นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
การติดเชื้อแบคทีเรียอี.โคไลชนิดรุนแรง โอ 104 (E.Coli O 104)

• เชื้ออี.โคไล โอ 104 มีการแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทยแล้วหรือยัง
คำตอบ
จากการเฝ้าระวังโดย กระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลทั่วไป ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้ออี.โคไล โอ 104 ในประเทศไทยเลย


• ข้อมูลเบื้องต้นของเชื้อ อี.โคไล โอ 104
คำตอบ
เชื้ออี.โคไล โอ 104 ที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย มีอยู่ 6 สายพันธ์ โดยสายพันธ์ที่กำลังเป็นข่าวอยู่นี้ เป็นสายพันธ์ที่อยู่ในกลุ่มให้อันตราย โดยเชื้อดังกล่าวมีอยู่ในอาหารจำพวกผักสด โดยเฉพาะถั่วและถั่วงอก สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ จะมีอาการคล้ายคลึงกับผู้ป่วยที่อาหารเป็นพิษ คือ ท้องเสีย ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ มีไข้ต่ำ คลื่นไส้อาเจียน ส่วนใหญ่อาการจะหายได้เอง แต่ประมาณร้อยละ 10 อาการจะรุนแรงขึ้น เช่น ถ่ายเป็นมูกหรือเป็นเลือด เกิดภาวะซีด และร้อยละ 3-5 จะมีอันตรายมากขึ้นคือ อาจเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน เม็ดเลือดแดงแตก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด

ทั้งนี้ สามารถแยกอาการของ 2 โรคนี้ ได้โดยการสังเกตเบื้องต้น เช่น ท้องเสียเกิน 3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ถ่ายไม่หยุด ถ่ายเป็นมูกเป็นเลือด และต้องสังเกตว่าผู้ป่วยมีการรับประทานอาหารที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมาบ้างหรือไม่ อาทิ ถั่วงอกดิบ ผักสด หรือผู้ป่วยมีการคลุกคลีกับผู้ป่วยหรือผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เกิดการระบาดของเชื้อ ก็ควรต้องรีบมาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจโดยละเอียดต่อไป


• การรักษาโรคที่ติดจากเชื้ออี.โคไล โอ 104
คำตอบ
การรักษาผู้ที่ติดเชื้ออี.โคไล โอ 104 จะใช้วิธีเดียวกับการรักษาผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ หรือท้องร่วง ทั่วไป โดยเป็นการรักษาตามอาการ แต่จะไม่ให้ยาเพื่อหยุดถ่ายท้อง เพราะอาจส่งผลให้เชื้อตกค้างอยู่ในร่างกาย แต่หากมีเหตุจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์


• วิธีป้องกันตัวจากการติดเชื้ออี.โคไล โอ 104
คำตอบ
วิธีป้องกันที่ดีที่สุขคืออิงจากการรณรงค์ของ กระทรวงสาธารณสุข “ กินร้อน-ช้อนกลาง-ล้างมือ” ถ้าทำได้ก็จะช่วยให้ห่างไกลจากการติดเชื้อนี้ได้ โดยควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุขเท่านั้น หรืออย่างน้อยก็ควรผ่านความร้อนที่ 70 องศาขึ้นไป ก็จะช่วยเป็นการฆ่าเชื้อดังกล่าวได้ ส่วนผู้ที่นิยมรับประทานผักสดในช่วงนี้ก็ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะผักจำพวกถั่วและถั่วงอก และควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพราะโรคเหล่านี้ มักจะเกิดในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ


ในส่วนของวงการแพทย์ ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขก็ได้ร่วมกับโรงพยาบาลต่างๆ ใช้มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังเชื้ออี.โคไล โอ 104 เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดใน ประเทศไทยได้


ส่วน รพ.รามคำแหงเอง นอกจากดำเนินการตามมาตรการที่ กระทรวงสาธารณสุขให้ไว้แล้ว ทีมแพทย์และพยาบาลก็ยังมีการสังเกตอาการ และตรวจคัดกรองผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินอาหารอย่างละเอียดและใกล้ชิดอีกด้วย ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าเชื้ออี.โคไล โอ 104 ไม่น่าจะมีโอกาสแพร่ระบาดได้มากนัก และโดยข้อเท็จจริงแล้ว โรคดังกล่าวก็ไม่ได้มีความร้ายแรงมากนัก หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และอยู่ในการดูแลของแพทย์


ด้วยเหตุนี้ จึงขอเน้นย้ำและฝากเตือนว่าให้รับประทานอาหารปรุงสุข หลีกเลี่ยงการรับประทานผักสด สำหรับน้ำที่ใช้ในการล้างผักสด ก็ควรจะเป็นน้ำสะอาด ไม่ควรใช้น้ำคลอง น้ำบ่อ และหากมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว ฯลฯ ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์และเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดจะดีกว่า



ศ.ดร.นพ. นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล
แพทย์ที่ปรึกษาด้านโรคติดเชื้อ รพ.รามคำแหง
//ram-hosp.co.th


Create Date : 16 มิถุนายน 2554
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 10:16:34 น. 1 comments
Counter : 1386 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:16:13:17 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com