นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
 

ฟิตหัวใจด้วยการออกกำลังกาย




ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจเพิ่มจำนวนขึ้นทุกๆ ปี สาเหตุก็มาจากการทานอาหารที่มีไขมันสูงเต็มไปด้วยคอเลสเตอรอล สภาพสังคมที่ผู้คนต้องดิ้นรนจนเกิดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้ทั้งสิ้น ดังนั้นการฟิตร่างกายเพื่อให้หัวใจกลับมาทำงานแข็งแรงเป็นปกติ จำเป็นที่จะต้องอาศัยการออกกำลังกายเป็นตัวช่วย


การออกกำลังกายเพื่อให้หัวใจแข็งแรง ควรเป็นการออกกำลังประเภทแอโรบิก อย่างเช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เพราะหัวใจและร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน การออกกำลังที่ถูกต้องและเหมาะสมเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล จะทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ด้วยเทคโนโลยี VO2 Max https://goo.gl/k2LafH หรือเครื่องวัดอัตราการเผาผลาญออกซิเจนของร่างกายในขณะออกกำลังกาย จะช่วยบอกได้ว่าต้องออกกำลังกายอย่างไร? ถึงเหมาะสมและปลอดภัย อัตราการเต้นของหัวใจคงที่อยู่ที่ช่วงไหนเพื่อให้หัวใจรวมถึงร่างกายฟิตและแข็งแรง

นอกจากนี้ยังสามารถวัดความเสี่ยงต่อภาวะโรคหัวใจและโรคปอด และบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อว่าแข็งแรงแค่ไหน? โดยคำนวณค่าออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้มั่นใจในการออกกำลังกายมากขึ้น

มั่นใจแค่ไหน?...ว่าหัวใจและปอดแข็งแรง สำหรับใครที่สนใจสามารถมาทดสอบสมรรถภาพหัวใจและปอดของคุณด้วยเทคโนโลยี VO2 Max ได้แล้วที่โรงพยาบาลรามคำแหง




 

Create Date : 11 มกราคม 2562   
Last Update : 11 มกราคม 2562 10:29:18 น.   
Counter : 715 Pageviews.  


เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการออกกำลังกาย




เดี๋ยวนี้ผู้คนหันมาให้ความสนใจเรื่องการออกกำลังกายกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ปั่นจักรยาน โยคะ แอโรบิค ฯลฯ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่หลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ที่ควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องเพื่อให้การออกกำลังกายของคุณได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ว่าแต่จะมีเรื่องอะไร? บ้าง... มาดูกันครับ

1. ออกกำลังกายตอนท้องว่างเบิร์นไขมันได้ดีกว่า การออกกำลังกายขณะท้องว่าง อาจจะไม่เหมือนกับตอนที่ทานอะไรมาแล้ว คือเราจะไม่ค่อยมีแรงมากนักจากการอดอาหารเป็นเวลานาน การเผาผลาญไขมันจะเกิดเมื่อออกกำลังกายแบบปานกลาง 20-30 นาทีขึ้นไป แนะนำให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิค ที่ระดับความหนัก 60-65% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาที จะช่วยในการเผาผลาญไขมันได้ดี แต่ถ้ากินอะไรมามากพอ การออกกำลังกายโดยกล้ามเนื้อมัดใหญ่แบบเบาสลับหนัก ที่เรียกว่า High intensity interval training จะช่วยให้อัตราการเผาผลาญหลังออกกำลังกายคงอยู่ได้นานกว่า

2. วิ่งแล้วขาใหญ่ การออกกำลังอะไรก็ตามที่ไม่ได้ใช้แรงกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่จะไม่ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะการวิ่งที่ใช้แรงกล้ามเนื้อทีละนิดแต่นานๆ จะช่วยเผาผลาญไขมันที่ติดอยู่กับบริเวณกล้ามเนื้อน่อง ซึ่งไม่ได้ทำให้น่องโตขึ้นครับ

3. ผู้หญิงเล่นเวทแล้วจะล่ำ จริงๆ แล้วอัตราการสร้างกล้ามเนื้อของผู้หญิงจะน้อยกว่าผู้ชาย เพราะมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนน้อยกว่ามาก ซึ่งการที่ผู้หญิงจะล่ำบึ้กขึ้นมาได้นั้นจะต้องใช้เวลานานและฝึกหนักมากครับ ตรงกันข้ามการเล่นเวทจะช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายเบิร์นได้ดีขึ้น

4. เหงื่อออกแล้วจะผอม คนที่คิดว่าออกกำลังกายนิดๆ หน่อยๆ แค่พอให้เหงื่อออกก็ได้เบิร์นแล้ว แต่จริงๆ แล้ว เหงื่อที่ออกมาตอนที่เราออกกำลังกายมันคือ น้ำที่ร่างกายต้องขับออกมาเพื่อระบายความร้อน แต่ถ้าอยากจะเบิร์นไขมันจริงๆ ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย40-60 นาที ขึ้นไป

5. ไม่เจ็บก็ไม่ได้ผล การที่เราออกกำลังกายแล้วเจ็บ ตึงกล้ามเนื้อบ้างถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเจ็บมากผิดปกติ เจ็บจนไม่ไหวห้ามฝืนเด็ดขาด การออกกำลังกายควรทำแต่พอดีเท่าที่ร่างกายรับได้ ร่างกายเราจะได้ไม่บาดเจ็บและทำให้ออกกำลังกายไม่ได้อีก

6. การเล่นโยคะช่วยให้หายปวดหลัง โยคะไม่สามารถรักษาอาการปวดหลังได้ เว้นแต่อาการปวดนั้นมาจากกล้ามเนื้อ การยืดกล้ามเนื้อแบบโยคะก็อาจสามารถช่วยได้ แต่ถ้าหากคุณปวดหลังจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท การเล่นโยคะจะทำให้ร่างกายของคุณยิ่งแย่ ควรไปพบแพทย์จะดีกว่าครับ

7. ออกกำลังกายทุกวันยิ่งได้ผลดี ร่างกายของเราอาจจะรับภาระหนักเกินไปถ้าต้องออกกำลังกายทุกวัน สิ่งสำคัญในการออกกำลังกายคือ ห้ามหักโหมร่างกายควรต้องหยุดพักบ้างอย่างน้อย 1 - 2 วัน และขณะออกกำลังกายก็ควรเปลี่ยนท่าเพื่อบริหารกล้ามเนื้อหลายๆ ส่วน

แม้ว่าการอออกกำลังกายจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การออกกกำลังกายไม่ถูกวิธีหรือหนักเกินไป ก็ส่งผลต่อร่างกายในทางตรงกันข้ามได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นควรออกกำลังกายแต่พอดีและถูกต้องนะครับ




 

Create Date : 10 มกราคม 2562   
Last Update : 10 มกราคม 2562 11:43:39 น.   
Counter : 559 Pageviews.  


ทำไม? ต้องฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด




การฟื้นฟูหัวใจได้รับการยอมรับว่ามีความสำคัญทำให้คนที่เป็นโรคหัวใจมีสมรรถภาพร่างกายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับคนไข้โรคหัวใจที่ไม่ได้รับการฟื้นฟู 

การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจเป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อช่วยให้คนที่เป็นโรคหัวใจ หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ฟื้นตัวเร็วขึ้นกลับคืนสู่สภาวะปกติและทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิม

การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอดดีอย่างไร?คลิ๊กเลย https://goo.gl/VnFfMJ




 

Create Date : 08 มกราคม 2562   
Last Update : 28 มกราคม 2562 10:56:11 น.   
Counter : 731 Pageviews.  


ออกกำลังกายอย่างไร? ให้หัวใจแข็งแรง




การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพของหัวใจและปอดต้องให้ความสำคัญกับ Heart Rate หรืออัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเต้นของหัวใจในการออกกำลังกายนั้นมี 2 ประเภท คือ อัตราการเต้นสูงสุดที่หัวใจของคุณจะสามารถเต้นได้ (Maximum Heart Rate) และเป้าหมายอัตราการเต้นของหัวใจที่ผู้ออกกำลังกายควรพยายามทำให้ได้ในการออกกำลังกายแต่ละครั้ง (Target Heart Rate)

สำหรับผู้ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวหรือข้อจำกัดด้านสุขภาพ เราแนะนำให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งเป็นการออกกำลังกายของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ ในร่างกายหลายๆ มัดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยจะมีผลให้ร่างกายใช้ออกซิเจนไปเผาผลาญอาหารในร่างกายและช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้นโดยมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ครับ

1. เป็นการออกกำลังของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ ทั่วร่างกาย เช่น เดินเร็วๆ วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก
2. ระยะเวลาในการออกกำลังกายในแต่ละครั้งไม่ควรน้อยกว่า 20-30 นาที
3. ควรทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
4. ที่สำคัญที่สุดคือระหว่างการออกกำลังกายต้องให้หัวใจหรือชีพจร เต้นอยู่ในช่วงชีพจรเป้าหมาย (Target heart rate) ซึ่งสามารถคำนวณได้จากสูตร Maximum heart rate = 220 - อายุ (ปี) Target heart rate = ร้อยละ 60 - 71

การจับชีพจรก็สามารถทำได้ง่ายๆ คือ การจับบริเวณข้อมือประมาณ 15 วินาที แล้วคูณด้วย 4 โดยทำเป็นระยะระหว่างการออกกำลังกาย หรือถ้าจะให้ดีที่สุดคือควรมีอุปกรณ์การจับชีพจรซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น แบบที่เป็นนาฬิกาข้อมือ

โดยการออกกำลังกายต้องค่อยๆ เริ่มจากเบาๆ และเพิ่มความหนักขึ้นและเริ่มจากระยะเวลาสั้นๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาในการออกกำลังกายให้ถึง 30 นาที ต้องอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังและเมื่อจะเลิกออกกำลังกายต้องค่อยๆ ผ่อนให้เบาและช้าลงไม่หยุดทันทีทันใด ออกกำลังกายในที่มีอากาศถ่ายเทดี ผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะออกกำลังกายด้วยครับ เพื่อความปลอดภัย

หากสามารถปฏิบัติได้และทำอย่างสม่ำเสมอรับรองว่าหัวใจของคุณจะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอนครับ 




 

Create Date : 07 มกราคม 2562   
Last Update : 7 มกราคม 2562 14:09:33 น.   
Counter : 657 Pageviews.  


ปาร์ตี้ใหญ่สิ้นปี เตรียมตัวกันดีหรือยัง?




เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้หลายๆ ที่ก็มักจะจัดงานเลี้ยง ปาร์ตี้สังสรรค์ มีอาหารคาวหวาน เครื่องดื่มจัดเต็มไว้ให้เลือกทานกัน ซึ่งมักจะเป็นอาหารประเภททอด ปิ้ง ย่างขนมเบเกอรี่ เค้ก คุ๊กกี้ น้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮร์ แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพของเรา

เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสุขภาพที่ดี เรามีเคล็ดลับการปาร์ตี้แบบไม่เสียสุขภาพมาบอกครับ

ü กินอย่างมีเหตุและมีผล งานปาร์ตี้ต้อนรับปีใหม่แบบนี้ควรเริ่มต้นเปลี่ยนพฤติกรรมการกินลองเลือกตักอาหารที่มีกากใยมากกว่าไขมัน เมื่อรู้สึกเริ่มอิ่มแล้วให้กินอาหารอย่างช้าๆหรือลุกขึ้นเดินหากิจกรรมอย่างอื่นทำแล้วค่อยกลับมากินต่อก็ไม่เสียหาย

ü อย่าอดมื้อเพื่อกินอีกหลายๆมื้อ ไม่ควรอดมื้อเช้ามื้อกลางวันเพื่อรอกินมื้อดึกในงานเพียงอย่างเดียวเพราะการอดอาหารส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกินเพิ่มในมื้ออื่นๆและการอดอาหารยังมีส่วนทำให้มีระดับความสุขและความสนุกลดลงอีกด้วย

ü ทำกินเองเพื่อสุขภาพที่ดีจะดีกว่าไหมหากเราเป็นผู้ควบคุมได้ทั้งวัตถุดิบและวิธีในการปรุงรสได้เองลดการทานอาหารที่มีรสชาติ หวาน มัน เค็มจัดๆ เปลี่ยนจากน้ำอัดลมเป็นน้ำผลไม้คั้นสดเปลี่ยนจากขนมขบเคี้ยวซองๆ เป็นการทำ
เบเกอรี่ที่อุดมไปด้วยคุณค่าและสารอาหาร หรือทำอาหารแบบเดิมด้วยวิธีใหม่ๆ อย่างการนึ่ง อบ เผา ลวก แทนการทอด

ü ทำกิจกรรมเผื่อการเผาผลาญ กิจกรรมในงานปาร์ตี้นั้นมีหลากหลายเราสามารถเลี่ยงการทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มอย่างเดียวด้วยการทำกิจกรรมอื่นในงานไม่ว่าจะเป็นการเต้นขยับร่างกาย หรือเดินไปพูดคุย ถ่ายรูปกับเพื่อนในงานเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงานที่ได้รับมาทั้งคืน


ลองนำเทคนิคต่างๆ นี้ไปใช้กันดูนะครับรับรองปีใหม่นี้สุขภาพดีกันทุกคน ขอให้ทุกท่านสนุกสนานแต่พอดีแล้วอย่าลืมปกป้องตัวเองและผู้อื่นด้วยการดื่มแล้วไม่ขับนะครับ หมอรามเป็นห่วง




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2561   
Last Update : 25 ธันวาคม 2561 9:19:10 น.   
Counter : 614 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com