นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
 

แม้อายุยังไม่เข้าเกณฑ์เสี่ยง มีสิทธิ์เจอหัวใจอุดตันเฉียบพลัน

แม้อายุยังไม่เข้าเกณฑ์เสี่ยง มีสิทธิ์เจอหัวใจอุดตันเฉียบพลัน
แนะทางรอดด้วยวิธีบอลลูนรักษาใน 6 ชม.

*****มีให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยมาทั้งๆ ที่หลายรายอายุไม่ถึง 40 ปีแต่ไม่พ้นเจออุบัติการณ์โรคหัวใจยอดฮิตด้วยอาการหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผยต้นเหตุเกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนในสังคมเมือง แต่ถ้าใช้บอลลูนรักษาได้ทันเวลาก็หมดปัญหา
****อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ/แพทย์ผู้ทำการขยายหลอดเลือดหัวใจ เปิดเผยถึงสถิติของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจากศูนย์หัวใจในปีที่ผ่านมา พบมีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน ที่รู้จักกันดีว่า “HEART ATTACK” ซึ่งในปี 2551 นี้พบว่าจะยิ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานครและในเขตเมืองใหญ่จะพบผู้ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบทั้งชนิดเรื้อรังและเฉียบพลันมากที่สุด ส่วนในต่างจังหวัดพื้นที่เขตชนบทจะพบเป็นโรคลิ้นหัวใจรูมาติก ลิ้นหัวใจตีบและรั่วอยู่จำนวนมาก
***** “สาเหตุที่ทำให้โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเจอได้มากขึ้น ที่สำคัญคือสภาวะแวดล้อมและการกินอยู่ ทานอาหารฟาสฟู้ด ขาดการออกกำลังกาย ชีวิตความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยทั่วไปโรคนี้มักพบในคนที่อายุมาก ถ้าเป็นผู้ชายก็อายุเกิน 45 ปีขึ้นไป ส่วนผู้หญิงจะมีอายุเกิน 55 ปี แต่ในปัจจุบันแนวโน้มที่ผ่านมาเราเจอในคนที่อายุน้อยลงทุกที อายุแค่ 30 กว่าปี ก็เจออยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร
*****ทั้งนี้โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันหรือ HEART ATTACK เกิดจากการอุดตันตีบสนิทของก้อนไขมันในหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งผู้ป่วยจะแสดงอาการเจ็บแน่นหน้าอกเฉียบพลัน เหมือนมีอะไรมากดทับหรือบีบรัด บางครั้งอาจแน่นร้าวไปที่กรามหรือแขนทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมักจะพบเป็นข้างซ้ายมากกว่า ทำอย่างไรก็ไม่หาย โดยหากพบว่ามีอาการดังกล่าวอยู่นานเกินกว่าครึ่งชั่วโมงขึ้นไป ให้สงสัยไว้เลยว่านั่นเป็นสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน ต้องรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด
*****ในส่วนของการรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “ตอนนี้ในการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับการรักษาหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลันก็คือการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดโดยทันทีเลย โดยเฉพาะถ้าทำได้ภายใน 6 ชั่วโมงแรกจะได้ผลดีมากหรือว่าถ้ายิ่งได้ภายใน 3 ชั่วโมงแรกก็ยิ่งได้ผลดีใหญ่ รองลงมาก็เป็นการให้ยาละลายลิ่มเลือดที่เกิดการอุดตันขึ้น ซึ่งการละลายลิ่มเลือดจะให้ผลดีใน 3 ชั่วโมงแรก ถ้าพ้น 3 ชั่วโมงไปถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งทำบอลลูนจะดีกว่า แต่ถึงแม้จะเกิน 6-12 ชั่วโมงแล้วยังมีอาการอยู่ก็ยังสามารถทำบอลลูนขยายหลอดเลือดได้เช่นเดียวกัน”
*****สำหรับนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เข้ามาช่วยในการตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจซึ่งนำมาใช้อย่างแพร่หลายนั้น ประกอบด้วย เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (64 Slices CT Scan) ซึ่งสามารถตรวจหาความผิดปกติของร่างกายได้ทุกส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา มีทั้งความละเอียดและแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีเครื่องอัลตราซาวนด์หัวใจ (IVUS) ที่สามารถดูความผิดปกติของผนังหลอดเลือดหัวใจได้รอบด้านถึง 360 องศา
*****สำหรับในส่วนของการรักษายังได้มีการพัฒนาขดลวดเคลือบยารุ่นใหม่ๆ ที่ให้ผลการรักษาดีขึ้น สำหรับใส่ไว้ในผนังหลอดเลือดหัวใจภายหลังทำการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยเทคนิคบอลลูนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งเหล่านี้จะเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณผู้ป่วยโรคหัวใจที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี
*****แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ฝากข้อคิดในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบไว้ โดยการหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ กำจัดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หยุดสูบบุหรี่ ควบคุมโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงหรือไขมันสูงและพยายามควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ พบแพทย์โรคหัวใจเป็นประจำก็สามารถช่วยให้ห่างไกลจากโรคหัวใจได้

//www.ram-hosp.co.th




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2552   
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2552 9:42:39 น.   
Counter : 1284 Pageviews.  


โรคหลอดเลือดสมองตีบ.. ต้นเหตุอัมพฤกษ์ อัมพาต

โรคหลอดเลือดสมองตีบ.. ต้นเหตุอัมพฤกษ์ อัมพาต
“ จะทำอย่างไร หากคุณมีเวลาเพียง 3 ชั่วโมง ”

***โรคหลอดเลือดสมองที่ทำให้เป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต เกิดจากหลอดเลือดสมองอุดตัน เพราะขาดเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนที่เสียหาย ถูกทำลายไปทำให้คนไข้เกิดอัมพาต โรคนี้สามารถเกิดได้กับบุคคลทั่วไปที่มีปัจจัยเสี่ยง อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน
โรคหัวใจ สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
***หากคุณต้องประสบภาวะที่เรียกว่า “หลอดเลือดในสมองอุดตันเฉียบพลัน” ควรพบแพทย์ภายใน 3 ชม.
***สัญญาณเตือนที่ต้องรีบนำผู้ป่วยไปปรึกษาแพทย์ทันที
..แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง
..แขนขาชาซีกใดซีกหนึ่ง
..ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด
..ตามัว หรือ ตามองไม่เห็นข้างใดข้างหนึ่ง หรือเห็นภาพซ้อนสองทันทีทันใด
..ปวดศีรษะรุนแรง เฉียบพลัน และ อาเจียนพุ่ง
..เวียนศีรษะอย่างรุนแรง เดินเซ เสียการทรงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดร่วมกับ อาการอื่นๆ ข้างต้น
อาการเตือนของภาวะสมองขาดเลือดนี้อาจเกิดขึ้นซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย หรือเกิดทั้ง 2 ซีกพร้อมกันได้
***การรักษา
*การรักษาแบบเดิม
..การรักษาแบบประคับประคอง คือ การให้สมองส่วนที่เสียหายถูกทำลายไป โดยไม่ได้ทำการแก้ไขและรอให้สมองบางส่วนฟื้นตัวเอง

***ในปัจจุบันเทคโนโลยีการรักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตเฉียบพลัน
..การให้ยาละลายลิ่มเลือดภายใน 3 ชม.
..การขยายหลอดเลือดสมองตีบด้วยบอลลูนหรือขดลวด (Stent)
..วิธีนี้จะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมอง
*** ดังนั้น เซลล์สมองจึงไม่ถูกทำลาย ***

***เครื่องมือทางการแพทย์ในการตรวจพบเส้นเลือดในสมองอุดตัน
..การตรวจด้วยเครื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ซึ่งสามารถบอกสมองขาดเลือดได้ดี
..การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT 64 Slice) สามารถบอกเส้นเลือดในสมองแตกได้ดี
..การฉีดสีเข้าหลอดเลือดแดงที่คอ สามารถบอกว่ามีเส้นเลือดโป่งพอง หรือเส้นเลือด ผิดรูป ด้วยเครื่อง Cath Lab ได้ประโยชน์จากการมองเห็นภาพหลอดเลือดสมองของ ผู้ป่วยได้ในแบบ 3 มิติ 2 ระนาบ ซึ่งทำให้ได้ภาพเสมือนจริง ช่วยให้เห็นพยาธิสภาพ ของสมองได้อย่างชัดเจนและส่งผลให้เพิ่มความแม่นยำในการรักษายิ่งขึ้น

หากมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น.. ไม่ควรนิ่งนอนใจ.. ให้รีบมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อตรวจอย่างละเอียดเป็นดีที่สุด
***อดีตผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ รายหนึ่งกล่าวว่า “ปกติแล้วตนไปออกกำลังกายทุกวัน จะเดินอยู่ที่ 5 กม. และวิ่งรอบสนามอีก 400 ม. ระยะหลังเพิ่มการวิดพื้นกระโดดอยู่กับที่ 100 ครั้ง เล่นบาร์เดี่ยว โหนบาร์เดี่ยวคิดว่าคงจะออกกำลังมากเกินไป
..ตอนมาถึงโรงพยาบาล ซีกซ้ายนี้ไปหมดทั้งแขนขา หลังจากผ่าตัดแล้ว ก็รู้สึกว่าเคลื่อนไหว ไม่ได้ให้ยกแขนก็รู้สึกปวดที่หัวไหล่ ยกขาก็ยกไม่ได้ปวดที่ต้นขาคุณหมอทำการเอกซเรย์สมองด้วยเครื่อง MRI และ แนะนำให้ทำการรักษาด้วยวิธีการขยายหลอดเลือดสมองตีบด้วยบอลลูน
...เป็นความโชคดีของผมที่มาโรงพยาบาลเร็วและภรรยาก็รีบตัดสินใจให้การรักษาทันที โรคหลอดเลือดสมองตีบนี่ ถ้ามาช้ากว่านี้ก็อาจเป็นอัมพาตได้ ทำบอลลูนหลอดเลือดสมองมาได้ 3 วันก็ทานข้าวต้มได้ มือเท้าขยับได้ยกแขน ขา ได้
อาการดีขึ้น”

//www.ram-hosp.co.th/




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2552   
Last Update : 27 ตุลาคม 2552 9:55:38 น.   
Counter : 1354 Pageviews.  


แม้อายุยังไม่เข้าเกณฑ์เสี่ยง มีสิทธิ์เจอหัวใจอุดตันเฉียบพลัน

แม้อายุยังไม่เข้าเกณฑ์เสี่ยง มีสิทธิ์เจอหัวใจอุดตันเฉียบพลัน
แนะทางรอดด้วยวิธีบอลลูนรักษาใน 6 ชม.

*****มีให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยมาทั้งๆ ที่หลายรายอายุไม่ถึง 40 ปีแต่ไม่พ้นเจออุบัติการณ์โรคหัวใจยอดฮิตด้วยอาการหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผยต้นเหตุเกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนในสังคมเมือง แต่ถ้าใช้บอลลูนรักษาได้ทันเวลาก็หมดปัญหา
****อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ/แพทย์ผู้ทำการขยายหลอดเลือดหัวใจ เปิดเผยถึงสถิติของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจากศูนย์หัวใจในปีที่ผ่านมา พบมีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน ที่รู้จักกันดีว่า “HEART ATTACK” ซึ่งในปี 2551 นี้พบว่าจะยิ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานครและในเขตเมืองใหญ่จะพบผู้ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบทั้งชนิดเรื้อรังและเฉียบพลันมากที่สุด ส่วนในต่างจังหวัดพื้นที่เขตชนบทจะพบเป็นโรคลิ้นหัวใจรูมาติก ลิ้นหัวใจตีบและรั่วอยู่จำนวนมาก
***** “สาเหตุที่ทำให้โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเจอได้มากขึ้น ที่สำคัญคือสภาวะแวดล้อมและการกินอยู่ ทานอาหารฟาสฟู้ด ขาดการออกกำลังกาย ชีวิตความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยทั่วไปโรคนี้มักพบในคนที่อายุมาก ถ้าเป็นผู้ชายก็อายุเกิน 45 ปีขึ้นไป ส่วนผู้หญิงจะมีอายุเกิน 55 ปี แต่ในปัจจุบันแนวโน้มที่ผ่านมาเราเจอในคนที่อายุน้อยลงทุกที อายุแค่ 30 กว่าปี ก็เจออยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร
*****ทั้งนี้โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันหรือ HEART ATTACK เกิดจากการอุดตันตีบสนิทของก้อนไขมันในหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งผู้ป่วยจะแสดงอาการเจ็บแน่นหน้าอกเฉียบพลัน เหมือนมีอะไรมากดทับหรือบีบรัด บางครั้งอาจแน่นร้าวไปที่กรามหรือแขนทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมักจะพบเป็นข้างซ้ายมากกว่า ทำอย่างไรก็ไม่หาย โดยหากพบว่ามีอาการดังกล่าวอยู่นานเกินกว่าครึ่งชั่วโมงขึ้นไป ให้สงสัยไว้เลยว่านั่นเป็นสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน ต้องรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด
*****ในส่วนของการรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “ตอนนี้ในการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับการรักษาหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลันก็คือการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดโดยทันทีเลย โดยเฉพาะถ้าทำได้ภายใน 6 ชั่วโมงแรกจะได้ผลดีมากหรือว่าถ้ายิ่งได้ภายใน 3 ชั่วโมงแรกก็ยิ่งได้ผลดีใหญ่ รองลงมาก็เป็นการให้ยาละลายลิ่มเลือดที่เกิดการอุดตันขึ้น ซึ่งการละลายลิ่มเลือดจะให้ผลดีใน 3 ชั่วโมงแรก ถ้าพ้น 3 ชั่วโมงไปถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งทำบอลลูนจะดีกว่า แต่ถึงแม้จะเกิน 6-12 ชั่วโมงแล้วยังมีอาการอยู่ก็ยังสามารถทำบอลลูนขยายหลอดเลือดได้เช่นเดียวกัน”
*****สำหรับนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เข้ามาช่วยในการตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจซึ่งนำมาใช้อย่างแพร่หลายนั้น ประกอบด้วย เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (64 Slices CT Scan) ซึ่งสามารถตรวจหาความผิดปกติของร่างกายได้ทุกส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา มีทั้งความละเอียดและแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีเครื่องอัลตราซาวนด์หัวใจ (IVUS) ที่สามารถดูความผิดปกติของผนังหลอดเลือดหัวใจได้รอบด้านถึง 360 องศา
*****สำหรับในส่วนของการรักษายังได้มีการพัฒนาขดลวดเคลือบยารุ่นใหม่ๆ ที่ให้ผลการรักษาดีขึ้น สำหรับใส่ไว้ในผนังหลอดเลือดหัวใจภายหลังทำการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยเทคนิคบอลลูนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งเหล่านี้จะเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณผู้ป่วยโรคหัวใจที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี
*****แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ฝากข้อคิดในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบไว้ โดยการหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ กำจัดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หยุดสูบบุหรี่ ควบคุมโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงหรือไขมันสูงและพยายามควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ พบแพทย์โรคหัวใจเป็นประจำก็สามารถช่วยให้ห่างไกลจากโรคหัวใจได้

//www.ram-hosp.co.th




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2552   
Last Update : 12 ตุลาคม 2552 9:33:54 น.   
Counter : 1371 Pageviews.  


วิธีใช้ส่องกล้องคีบออกด้วยแผล 3 มิลลิเมตรจาก...หมอนรองกระดูกฯปริแตกทับเส้น

วิธีใช้ส่องกล้องคีบออกด้วยแผล 3 มิลลิเมตรจาก...หมอนรองกระดูกฯปริแตกทับเส้นช่วยให้ผู้ป่วยหลุดพ้นความทุกข์ทรมานจากอาการปวดหลัง ปวดร้าวลงขาจนไม่สามารถประกอบภารกิจประจำวันได้อย่างปกติ ทั้งยังไม่อาจนั่งได้นานโดยหาสาเหตุไม่พบแม้จะผ่านการรักษาสารพัดวิธี แพทย์ชี้ที่มาของสาเหตุพร้อมให้ข้อมูลการรักษาวิธีใหม่ที่ช่วยลดเวลาการรักษาพร้อมทั้งลดเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัดของผู้ป่วยได้ด้วย
อดีตผู้ป่วยรายหนึ่งเล่าว่าตนเคยต้องทนทรมานจากอาการปวดหลังร้าวลงขาอย่างรุนแรงมากว่า 3 เดือน จนไม่สามารถลุกเดิน หรือนั่งได้อย่างปกติ แม้จะเคยเข้ารับการรักษาด้วยการฉีดยาคลายกล้ามเนื้อหรือแม้แต่การนวดมาสารพัดวิธีก็ไม่สามารถทำให้อาการปวดที่เป็นอยู่ดีขึ้น กลับจะยิ่งทรุดหนักลงจึงตัดสินใจเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างไม่รีรอ
“ตอนแรกปวดเฉพาะหลัง แล้วก็เริ่มปวดขาขวา สาเหตุก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ตนเองเคยทั้งยกของหนักด้วย ทั้งมีอุบัติเหตุด้วย แต่ว่าก็เป็นประเภทเคล็ดขัดยอก เคยไปเอกซ์เรย์แล้วก็ไม่มีอะไร ก็แค่ทานยาคลายกล้ามเนื้อแก้ปวด มีอยู่ช่วงหนึ่งเคยไปนวดแผนโบราณ นวดกับตัวยาแต่ก็ไม่ดีขึ้น มันค่อยๆ แย่ลง จากที่นั่งได้แค่ชั่วโมงเดียวจนตอนนั้นแค่สิบนาทีก็นั่งไม่ได้แล้ว ก็มีเพื่อนแนะนำว่าให้ลองมารักษาที่นี่ดู คุณหมอก็ให้ทำการเอกซเรย์ด้วยเครื่อง เอ็มอาร์ไอ (การตรวจด้วยคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็ก : MRI Scan) จึงพบว่ามีชิ้นกระดูกแตกอยู่ที่ระหว่างหมอนรองกระดูกต้องทำการผ่าตัด
ภายหลังจากที่ได้ทราบถึงสาเหตุของอาการปวดหลังร้าวลงขาที่ตนต้องเผชิญมานานนั้น ประกอบกับได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อของทางโรงพยาบาล ถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่อย่างศัลยกรรมนำร่องส่องกล้องผ่าตัดแบบแผลเล็กด้วยวิธี ENDOSCOPE ทำให้ผู้ป่วยตัดสินใจเข้ารับการรักษาอาการของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทโดยทันที ด้วยความเชื่อมั่นในวิธีการรักษาและความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ เพราะพอผลเอ็กซ์เรย์ออกมาแล้ว คุณหมอท่านก็อธิบายชัดเจนเลย ว่าต้องผ่าตัดโดยการส่องกล้องรักษาไม่ใช่เป็นการผ่าเปิดแผล ตอนแรกผู้ป่วยเองเข้าใจว่าเป็นกระดูกชิ้นเล็กแค่ชิ้นเดียว แต่คุณหมอบอกว่ามันมีสองชิ้น หลังผ่าตัดก็ดีขึ้นเยอะครับ จริงๆ แล้วก็ยังนึกในใจว่าอาจจะต้องรออีกสักสองวัน แต่พอวันรุ่งขึ้นหมอก็บอกว่ากลับบ้านได้ ไม่ต้องกลัว แผลมันเล็กนิดเดียว ตอนนี้นั่งได้สบายไม่ปวดแล้ว ผู้ป่วยกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงสดชื่น
ทั้งนี้ศัลยแพทย์ได้กล่าวถึงลักษณะอาการของผู้ป่วยรายนี้ ซึ่งมีอาการปวดหลังร้าวลงขาขวาอย่างรุนแรง โดยมีสาเหตุมาจากการทำงานที่ต้องนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ การใช้งานที่ผิดวิธีหรือแม้ใช้งานตามปกติก็มีโอกาสเกิดหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนได้ ถ้าหมอนรองกระดูกสันหลังอยู่ในสภาพที่ไม่แข็งแรง ซึ่งอาการที่หมอนรองกระดูกสันหลังไม่แข็งแรงมักเกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์หรือเกิดจากกล้ามเนื้อของกระดูกสันหลังเองและที่เกิดจากอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้นเมื่อใดก็ตาม ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังไม่สามารถที่จะนั่งทำงานได้เกิน 50 นาที หรือปวดหลังแล้วไม่สามารถเดินได้ไกลเกินกว่า 500 เมตร หรือเวลากลางคืนมีอาการปวดหลัง ปวดขา-ชาที่ปลายเท้า ซึ่งอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักไม่มีการตอบสนองต่อการรักษาแบบประคับประคองก็มักจะพิจารณาตรวจวินิจฉัยอย่างอื่นเพิ่มเติม เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

//www.ram-hosp.co.th




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2552   
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 10:59:41 น.   
Counter : 1532 Pageviews.  


โลหิตที่ให้บริการแก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาล

โลหิตที่ให้บริการแก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาล


เลือดที่โรงพยาบาลได้ให้กับผู้ป่วยที่ต้องการเลือด เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลนั้น โดยส่วนใหญ่โรงพยาบาลได้รับมาจากสภากาชาดไทย ซึ่งผ่านการตรวจหาเชื้อโรค 4 ชนิด ได้แก่ ซิฟิลิส, ไวรัสตับอักเสบบี, ไวรัสตับอักเสบซี และเชื้อเอดส์ ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกเรียบร้อยแล้ว ด้วยวิธี PCR (Polymerase Chain Reaction)
การตรวจเลือดหาเชื้อมีกี่วิธี
1. การตรวจโดยวิธี ELISA (Enzyme-Linked Immunosorbent Assays) : เป็นการ "ตรวจคัดกรอง" (Screening test) ที่นิยมใช้กันแพร่หลาย ทำได้ง่าย ไม่แพง มีความไวมาก แต่ window period = 21 วัน
2. การตรวจโดยวิธี PCR (Polymerase chain reaction) : เป็นการตรวจหา DNA ของไวรัส วิธีนี้คือการหาโดยอาศัยการเพิ่มปริมาณ DNA เรียกว่า PCR ตรวจได้แม้จะมีปริมาณ DNA ของไวรัสเพียงน้อยนิด (ความไวและความแม่นยำสูงมาก) ความแม่นยำเชื่อถือได้แน่นอน ถือเป็นวิธีการ "ตรวจยืนยัน" ที่แน่นอนที่สุด โดย window period = 11 วัน

โรงพยาบาลใช้วิธีตรวจเลือดหาเชื้อโดยวิธีใด
ในปัจจุบัน โรงพยาบาลต่างๆ มีการตรวจเลือดหาเชื้อทั้ง 2 วิธี ซึ่งแล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละโรงพยาบาล


** window period หมายถึง จำนวนวันที่ผู้บริจาคโลหิตรับเชื้อ HIV แล้ว แต่ตรวจไม่พบทางห้องปฏิบัติการ



//www.ram-hosp.co.th/




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2552   
Last Update : 24 สิงหาคม 2552 9:52:07 น.   
Counter : 1345 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com