นานาสาระสุขภาพที่น่ารู้.. เล่าสู่กันฟัง
 
 

ลิ้นหัวใจตีบอันตรายถึงชีวิต ต้องทำอย่างไร?

 

ลิ้นหัวใจของคนเรามีทั้งหมด 4 ลิ้น อยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ กัน มีหน้าที่หลักคือ ทำให้เลือดไหลไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ให้ไหลย้อนทาง จึงมีหน้าที่เสมือนประตูในหัวใจ ลิ้นหัวใจเอออร์ติกนับเป็นลิ้นที่มีความสำคัญสูง เนื่องจากมีตำแหน่งกั้นอยู่ระหว่างหัวใจห้องซ้ายล่างและหลอดเลือดแดงใหญ่

โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบคือโรคที่เกิดจากจากความเสื่อมตามธรรมชาติของร่างกาย ร่วมกับการมีโรคความดัน เบาหวาน ไขมันสูง ทำให้มีหินปูนเกาะสะสมที่ลิ้นหัวใจ เมื่ออายุมากขึ้นลิ้นหัวใจก็จะหนาขึ้นและเปิดได้น้อยลง โรคนี้จึงพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ความผิดปกติของลิ้นหัวใจที่ทำให้ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท เป็นสาเหตุให้เลือดไหลย้อนกลับ หัวใจจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดให้เพียงพอ และเกิดผลกระทบอื่น ๆ ที่เป็นปัญหาต่อร่างกาย

อาการของภาวะลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบได้แก่เจ็บหน้าอก, วูบหมดสติ, เหนื่อยง่าย และอาการอื่นๆ ของภาวะหัวใจล้มเหลว หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำการรักษาตั้งแต่ระยะเบื้องต้น จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะเสี่ยงที่จะทำให้เสียชีวิตได้ภายในระยะเวลาอันสั้น จึงควรรีบรักษาตั้งแต่เริ่มตีบระยะแรก

ปัจจุบันการรักษามีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเทคโนโลยี TAVI (Transcatheter aortic valve implantation) หรือ การเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติกผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัดทดแทนการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าอก มีความแม่นยำปลอดภัย และให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการผ่าตัด ลดระยะเวลาการพักฟื้นให้เหลือน้อยลง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม

ทั้งนี้การเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบผ่านสายสวน TAVI นั้นจำเป็นต้องอาศัยความพร้อม ความเชี่ยวชาญ และการทำงานร่วมกัน ทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลรามคำแหงมีความพร้อมในการทำหัตถการด้วยวิธี TAVI




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2562   
Last Update : 9 ธันวาคม 2562 9:48:22 น.   
Counter : 1478 Pageviews.  


หัวใจเต้นผิดจังหวะ AF ภัยเงียบที่ร้ายแรง


โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด AF (Atrial Fibrillation) หรือหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว เป็นอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบบ่อยที่สุดในทางการแพทย์ เป็นความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจห้องบนที่รุนแรงที่สุด

เมื่อเกิดอาการ AF โดยเฉพาะหัวใจห้องบน กล้ามเนื้อหัวใจที่เต้นไม่ประสานกันแบบผิดจังหวะจะทำให้การไหลเวียนเลือดในห้องหัวใจไม่มีประสิทธิภาพ มีเลือดค้างในห้องหัวใจ ในระยะยาวผนังห้องหัวใจอาจเกิดเป็นถุงที่มีเลือดไม่ไหลเวียนตกค้างอยู่ จนเกิดลิ่มเลือดแข็งตัว ที่มีโอกาสหลุดออกไปอุดตันเส้นเลือดในอวัยวะสำคัญเช่น หลอดเลือดปอด หรือหลอดเลือดสมอง จนเกิดอันตรายถึงชีวิตหรือพิการได้

สาเหตุของการเกิด AF นั้น ส่วนใหญ่มักจะเกิดกับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จากความเสื่อมของระบบไฟฟ้าหัวใจ แต่สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่านั้นอาจมาจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจที่มีมาแต่กำเนิด ผู้ที่เริ่มเป็น AF จะมีอาการเป็นๆ หายๆ ในช่วงสั้นๆ จึงทำให้ไม่คิดว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเองจึงไม่ได้ใส่ใจ ซึ่งหากทิ้งไว้ไม่รักษาอาการก็จะเป็นบ่อยขึ้น นานขึ้น และอาจอันตรายถึงชีวิตได้

การรักษา AF โดยทั่วไปทำได้ด้วยการทานยาเพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจไม่ให้เร็วเกินไป ในรายที่รักษาด้วยการทานยาไม่ได้ผลหรือเกิดผลข้างเคียงจากการทานยาหรือไม่ต้องการทานยาไปตลอดชีวิต อาจต้องรักษาโดยการจี้ด้วยคลื่นวิทยุ วิธีนี้ทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม เป็นการรักษาที่ทำให้ AF หายเป็นปกติได้




 

Create Date : 06 ธันวาคม 2562   
Last Update : 6 ธันวาคม 2562 9:28:05 น.   
Counter : 1478 Pageviews.  


น้ำในหูไม่เท่ากัน ทำเวียนศีรษะบ้านหมุน


น้ำในหูไม่เท่ากัน ทำเวียนศีรษะบ้านหมุน

ใครที่มีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะคล้ายๆ บ้านหมุนโดยไม่รู้สาเหตุ ท้องปั่นป่วนอยากอาเจียน ลุกขึ้นยืนแล้วทรงตัวไม่อยู่... นั้นอาจเป็นสัญญาณเตือนหนึ่งที่บอกว่าคุณกำลังเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันอยู่ก็เป็นได้

โรคน้ำในหูไม่เท่ากันเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นในที่ควบคุมระบบการได้ยินและการทรงตัว ผู้ป่วยจะมีอาการเวียนศีรษะรุนแรง รู้สึกเหมือนบ้านหมุนร่วมด้วย อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับการสูญเสียการทรงตัว จึงอาจทำให้ล้มได้ง่าย

ผู้ป่วยอาจมีภาวะการได้ยินลดลง มีเสียงรบกวนในหู และหูอื้อ ซึ่งมักพบในช่วงระยะแรกของโรค บางคนมีอาการเกิดขึ้นและหายได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง ก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่บางคนก็มีอาการรุนแรง มึนงง เป็นๆ หายๆ เป็นเวลานานจำเป็นต้องนอนพัก และหากปล่อยให้โรคดำเนินไปมากขึ้น การได้ยินอาจเสื่อมลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหูตึงหรือหูหนวกได้ในที่สุด ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติดั่งที่กล่าวมาควรรีบไปพบแพทย์

สาเหตุของการเกิดยังไม่ทราบแน่ชัด แต่อาจเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ดื่มแอลกอฮอล์ ทานอาหารเค็มจัด หรือเกิดจากโรคบางชนิด ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เพื่อควบคุมอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน ทำให้อาการทางหูและการได้ยินกลับมาปกติ เน้นการทานยาเป็นหลัก ร่วมกับการดูแลสุขภาพด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด งดทานเค็ม และไม่ดื่มแอลกอฮอร์ ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงรักษาด้วยยาไม่ได้ผล อาจจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัด




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2562   
Last Update : 4 ธันวาคม 2562 9:39:21 น.   
Counter : 1780 Pageviews.  


เบาหวาน เสี่ยงเหงือกอักเสบ

 

เบาหวาน เสี่ยงเหงือกอักเสบ

ผู้เป็นเบาหวานมีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อแบคทีเรียต่ำ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคเหงือกอักเสบ และสูญเสียฟันมากกว่าผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน

แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบถึงภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นภายในช่องปาก รวมถึงอาการปากแห้ง ปวดแสบปวดร้อน ติดเชื้อในช่องปากง่าย และแผลหายช้า

ดังนั้นผู้ที่เป็นเบาหวานหรือมีคนในครอบครัวเป็นเบาหวานควรได้รับความรู้และฝึกทักษะในการดูแลอนามัยช่องปากด้วยตัวเองเป็นประจำทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์อักเสบ

การดูแลความสะอาดช่องปากอย่างถูกต้องและได้ผลที่ดีนั้น ควรต้องปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีและจะได้มีฟันที่แข็งแรงเอาไว้ใช้เคี้ยวอาหารได้นานๆ




 

Create Date : 03 ธันวาคม 2562   
Last Update : 3 ธันวาคม 2562 14:48:27 น.   
Counter : 1486 Pageviews.  


สังเกตตัวเองอย่างไร?... ว่าเป็นเบาหวาน


สังเกตตัวเองอย่างไร?... ว่าเป็นเบาหวาน

ปัจจุบันพบผู้ป่วยเบาหวานในคนอายุน้อยลงเนื่องจากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรือพบในผู้สูงอายุ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีภาวะดื้ออินซูลินเกิดขึ้นได้ตามอายุ ผู้ป่วยเบาหวานจะมีอาการ 3 แบบใหญ่ๆ ที่ตรวจพบได้

แบบที่ 1 ดื่มน้ำเยอะ กินเก่งแต่น้ำหนักตัวลดลง ปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืน บางคนตื่นมาปัสสาวะทั้งคืน กลุ่มนี้จะรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรง ในช่วงแรกๆ อาจจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้แต่ในระยะยาวผู้ป่วยกลุ่มนี้จะผอมลง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ก็จะสลายไขมันเป็นพลังงานแทนทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ผอมลงเรื่อยๆ

แบบที่ 2 ไม่มีอาการอะไรเลยแต่มาตรวจพบระหว่างตรวจร่างกายซึ่งพบได้บ่อย

แบบที่ 3 มีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น การติดเชื้อ เป็นแผลเรื้อรังแล้วไม่หาย เมื่อไปตรวจก็พบว่ามีเบาหวานเกิดขึ้น




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2562   
Last Update : 2 ธันวาคม 2562 11:50:16 น.   
Counter : 1634 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  

หนึ่งเสียงในกทม.
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คุยกับหมอราม
[Add หนึ่งเสียงในกทม.'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com