[Verse 1] Well you done done me in; you bet I felt it คุณทำให้ฉันหลงรักเข้าแล้วสิ คุณเองก็ดูมั่นใจว่าฉันรู้สึกแบบนั้น I tried to be chill but you’re so hot that I melted ฉันพยายามทำตัวให้สบายเเล้ว แต่คุณก็ช่างร้อนแรงจนฉันแทบละลาย I fell right through the cracks ฉันตกหลุมรักเข้าเต็มที่แบบไม่ทันได้ตั้งตัวเลย Now I’m trying to get back ตอนนี้ ฉันกำลังพยายามถอยกลับมาตั้งหลัก
Before the cool done run out ก่อนช่วงเวลาที่ดีกำลังจะหมดไป I’ll be giving it my bestest ฉันจะทำให้ดีที่สุด Nothing’s going to stop me but divine intervention ไม่มีสิ่งใดมาหยุดฉันได้นอกจากการขัดขวางของพระเจ้า I reckon it’s again my turn to win some or learn some ฉันคิดว่าถึงคราวของฉันอีกครั้งที่จะเอาชนะ หรือได้เรียนรู้บ้าง
[Chorus] But I won’t hesitate no more, no more แต่ฉันจะไม่ลังเลอีกเเล้ว ไม่อีกต่อไป It cannot wait, I’m yours รอไม่ได้เเล้วล่ะ ฉันเป็นของคุณ
[Verse 2] Well open up your mind and see like me ถ้าอย่างนั้น ก็เปิดใจเเละลองมองอย่างที่ฉันมองสิ Open up your plans and damn you’re free ทำอะไรที่นอกกรอบ เเล้วคุณจะเป็นอิสระ Look into your heart and you’ll find มองเข้าไปในใจของคุณ เเล้วคุณจะพบกับ
Love, love, love, love ความรัก ความรัก ความรักเเละก็ ความรัก Listen to the music of the moment, people dance and sing ฟังบทเพลงตามกระเเสที่ทำให้ผู้คนเต้นรำเเละร้องเพลง We’re just one big family พวกเราเป็นดั่งครอบครัวใหญ่ And it’s our God-forsaken right to be และสิ่งเหล่านั้นเป็นสิทธิของเราที่จะได้รับ Loved, love, love, love, loved ความรัก ความรัก ความรัก ความรัก ความรัก
[Chorus] So I won’t hesitate no more, no more เพราะอย่างนั้น ฉันจะไม่ลังเลอีกเเล้ว ไม่อีกต่อไป It cannot wait, I’m sure รอไม่ได้เเล้ว ฉันมั่นใจ There’s no need to complicate ไม่จำเป็นต้องทำให้ซับซ้อน Our time is short เวลาของเราช่างสั้นนัก This is our fate, I’m yours นี่คือโชคชะตาของเรา ฉันเป็นของคุณเเล้ว [Bridge] Do you want to come on scootch on over closer, dear คุณต้องการจะเข้ามาใกล้ฉันอีกหน่อยไหม ที่รัก And I will nibble your ear เเล้วฉันจะขบกัดหูของคุณอย่างแผ่วเบา
[Verse 3] I’ve been spending way too long checking my tongue in the mirror ฉันใช้เวลาไปนานเลยกับการส่องลิ้นตัวเองที่หน้ากระจก And bending over backwards just to try to see it clearer เเล้วก็ยังทำท่าสะพานโค้ง เพียงเพื่อจะมองให้ชัดเจนขึ้น But my breath fogged up the glass แต่ลมหายใจของฉันกลับทำให้กระจกเป็นฝ้ามัว And so I drew a new face and I laughed ฉันก็เลยวาดใบหน้าขึ้นมาใหม่บนกระจกนั่น เเล้วก็หัวเราะออกมา
I guess what I be saying is there ain’t no better reason ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดออกไป ไม่มีเหตุผลอะไรที่ดีกว่านี้อีกเเล้ว To rid yourself of vanities and just go with the seasons เพื่อที่จะกำจัดความหยิ่งทะนงในตัวคุณ เเล้วปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา It’s what we aim to do นั่นคือสิ่งที่เราตั้งใจจะทำ Our name is our virtue ตัวตนของเราคือสิ่งสำคัญ [Chorus] But I won’t hesitate no more, no more แต่ฉันจะไม่ลังเลอีกเเล้ว ไม่อีกต่อไป It cannot wait – I’m yours รอไม่ได้เเล้วล่ะ ฉันเป็นของคุณเเล้ว
[Outro] Well open up your mind and see like me (I won’t hesitate) ถ้าอย่างนั้น ก็เปิดใจเเละลองมองอย่างที่ฉันมองสิ (ฉันจะไม่ลังเล) Open up your plans and damn you’re free (No more, no more) ทำอะไรที่นอกกรอบ เเล้วคุณจะเป็นอิสระ (ไม่ ไม่อีกต่อไป) Look into your heart and you’ll find (It cannot wait) มองเข้าไปในใจของคุณ เเล้วคุณจะพบกับ (รอไม่ได้เเล้ว)
The sky is yours (I’m sure) ท้องฟ้านั่นเป็นของคุณ (ฉันมั่นใจ) So please don’t, please don’t, please don’t (No need to complicate) เพราะอย่างนั้น ได้โปรด อย่า ได้โปรด อย่าเลย อย่าเลย ได้โปรด (ไม่จำเป็นต้องทำให้ซับซ้อน) There’s no need to complicate (Our time is short) ไม่จำเป็นต้องทำให้ซับซ้อน (เวลาของเราช่างสั้นนัก) ‘Cause our time is short (This is) เพราะเวลาของเราช่างสั้นนัก (นี่คือ) This oh, this oh, this is our fate (our fate) นี่คือ นี่คือ นี่คือโชคชะตาของเรา (โชคชะตาของเรา) I’m yours ฉันตกเป็นของคุณเเล้ว