[Verse 1] We couldn’t turn around ’til we were upside down เราหันหลังกลับไม่ได้แล้วเพราะติดอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้า I’ll be the bad guy now, but know I ain’t too proud ฉันจะต้องกลายเป็นคนเลวแต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้ภูมิใจนักหรอกนะ I couldn’t be there even when I tried ฉันไม่อาจจะเข้าไปถึงจุดนั้นได้ ถึงแม้ว่าฉันได้พยายามแล้ว You don’t believe it, we do this every time คุณคงไม่เข้าใจหรอกว่าเราต้องเจอกับความซ้ำซากในปัญหาแบบนี้ทุกครั้งเลย
[Chorus] Seasons change and our love went cold ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไปและความรักของเรากลับมีแต่ความเย็นชา Feed the flame ’cause we can’t let go แต่ก็ยังคงมีอารมณ์รุนแรงใส่กันเพราะเราทำใจให้ปล่อยวางไม่ได้ Run away, but we’re running in circles คิดจะวิ่งหนีเพื่อทิ้งปัญหาแต่เรากลับเจอปัญหาเดิมที่แก้ไขไม่ได้ Run away, run away วิ่งไปเลย หลบหนีปัญหานี้ไป I dare you to do something ฉันท้าทายให้คุณลงมือทำบางสิ่งที่บางทีอาจเปลี่ยนวิถีความสัมพันธ์ I’m waiting on you again, so I don’t take the blame ฉันกำลังรอให้คุณเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกตำหนิ Run away, but we’re running in circles คิดจะวิ่งหนีเพื่อทิ้งปัญหาแต่เรากลับเจอปัญหาเดิมที่แก้ไขไม่ได้ Run away, run away, run away วิ่งไปเลย หลบหนีปัญหานี้ไป
[Verse 2] Let go, I got a feeling that it’s time to let go ต่างคนต่างไปเถอะ ฉันรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องปล่อยและเดินหน้าต่อไป I said so, I knew that this was doomed from the get-go ฉันพูดแบบนั้นเพราะรู้ว่าเรื่องนี้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว You thought that it was special, special คุณเคยคิดว่าเป็นสิ่งที่แสนพิเศษ But it was just the sex, though, the sex, though แต่แท้จริงแล้วก็เป็นแค่เรื่องบนเตียงที่เราร่วมหลับนอนกัน And I still hear the echoes (The echoes) และฉันก็ยังคงได้รับรู้ถึงประสบการณ์และความผิดพลาดในอดีต (เสียงสะท้อน) I got a feeling that it’s time to let it go, let it go ฉันรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยไป ต่างคนต่างไป
[Chorus] Seasons change and our love went cold ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไปและความรักของเรากลับมีแต่ความเย็นชา Feed the flame ’cause we can’t let go แต่ก็ยังคงมีอารมณ์รุนแรงใส่กันเพราะเราทำใจให้ปล่อยวางไม่ได้ Run away, but we’re running in circles คิดจะวิ่งหนีเพื่อทิ้งปัญหาแต่เรากลับเจอปัญหาเดิมที่แก้ไขไม่ได้ Run away, run away วิ่งไปเลย หลบหนีปัญหานี้ไป I dare you to do something ฉันท้าทายให้คุณลงมือทำบางสิ่งที่บางทีอาจเปลี่ยนวิถีความสัมพันธ์ I’m waiting on you again, so I don’t take the blame ฉันกำลังรอให้คุณเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกตำหนิ Run away, but we’re running in circles คิดจะวิ่งหนีเพื่อทิ้งปัญหาแต่เรากลับเจอปัญหาเดิมที่แก้ไขไม่ได้ Run away, run away, run away วิ่งไปเลย หลบหนีปัญหานี้ไป
[Bridge] Maybe you don’t understand what I’m going through บางทีคุณอาจไม่เข้าใจถึงความยากลำบากใจที่ฉันกำลังเผชิญอยู่ It’s only me, what you got to lose? มีเพียงฉันเท่านั้นแล้วคุณสูญเสียอะไรไปบ้างหล่ะ Make up your mind, tell me, what are you gonna do? ตัดสินใจสิและบอกฉันมาว่าคุณจะทำอะไรต่อไป It’s only me, let it go มีเพียงฉันเท่านั้น ปล่อยวางเสียเถอะแล้วต่างคนต่างไป
[Chorus] Seasons change and our love went cold ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไปและความรักของเรากลับมีแต่ความเย็นชา Feed the flame ’cause we can’t let go แต่ก็ยังคงมีอารมณ์รุนแรงใส่กันเพราะเราทำใจให้ปล่อยวางไม่ได้ Run away, but we’re running in circles คิดจะวิ่งหนีเพื่อทิ้งปัญหาแต่เรากลับเจอปัญหาเดิมที่แก้ไขไม่ได้ Run away, run away วิ่งไปเลย หลบหนีปัญหานี้ไป I dare you to do something ฉันท้าทายให้คุณลงมือทำบางสิ่งที่บางทีอาจเปลี่ยนวิถีความสัมพันธ์ I’m waiting on you again, so I don’t take the blame ฉันกำลังรอให้คุณเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกตำหนิ Run away, but we’re running in circles คิดจะวิ่งหนีเพื่อทิ้งปัญหาแต่เรากลับเจอปัญหาเดิมที่แก้ไขไม่ได้ Run away, run away, run away วิ่งไปเลย หลบหนีปัญหานี้ไป