[Verse 1] I met you in a bathroom line ฉันพบคุณตอนที่เข้าแถวรอเข้าห้องน้ำ Dive bar on the Lower East-side ที่ร้านบาร์เรียบง่ายบรรยากาศผ่อนคลายตั้งอยู่แถบตะวันออกของเมือง You were looking at me like you didn’t wanna be just friends คุณมองมาที่ฉันเหมือนว่าคุณไม่ต้องการเป็นแค่เพียงเพื่อนเท่านั้น In two months and twenty-four days ในช่วงเวลาสองเดือนกับอีกยี่สิบสี่วัน Toothbrush on the sink of my place คุณใช้เวลาอยู่ในสถานที่ของฉันมากพอจะทิ้งสิ่งของส่วนตัวไว้ Just a matter of time ’til we got into an argument นั่นเป็นเพียงเรื่องของเวลาจนกระทั่งเรามีความขัดแย้งโต้เถียงกัน
[Pre-Chorus] You never really know someone คุณจะไม่มีวันได้รู้จักใครสักคนอย่างแท้จริง Til you see the other side of ’em จนกระทั่งได้เห็นอีกด้านหนึ่งของพวกเขาที่แสดงออกมา
[Chorus] Under the moonlight ภายใต้แสงจันทร์นวลที่ส่องสว่าง Clenching your jaw and that’s when I saw คุณกำลังขบกรามแน่นอย่างตึงเครียดและนั่นเป็นสิ่งที่ฉันมองเห็น The fire in your eyes ดวงตาที่ลุกโซนไปด้วยไฟแห่งความโกรธ Clothes on the floor, you stormed out the door ทิ้งเสื้อผ้าให้กองอยู่บนพื้นแล้วคุณก็เดินพรวดพราดออกจากประตู And that’s when I knew และนั่นคือตอนที่ฉันรู้ That I can’t livе without you ว่าฉันไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากคุณ It was sparks at first sight เกิดประกายไฟแห่งแรงดึงดูดตั้งแต่แรกเห็น But it was love at first fight แต่นั่นคือความรักที่เริ่มต้นขึ้นจากการทะเลาะกันครั้งแรก
[Post-Chorus] At first fight ในครั้งแรกที่ได้ทะเลาะกัน
[Verse 2] Flying down the flight of stairs เป็นความรู้สึกเร่งรีบและตื่นเต้น Just hit me how much I carе ความรู้สึกภายในจิตใจอันลึกซึ้งเข้ามากระทบให้รับรู้ว่าฉันห่วงใยคุณมากแค่ไหน Even if that train ain’t running I’ll be running myself แม้ว่าสถานการณ์ภายนอกจะไม่เอื้ออำนวยแต่ฉันจะใช้ความพยายามในเรื่องของเรา Two months and twenty-five days สองเดือนกับอีกยี่สิบห้าวัน You bet that toothbrush is here to stay คุณมั่นใจได้เลยว่าสิ่งของส่วนตัวของคุณจะอยู่ตรงนี้ต่อไป Cause I’ve never fought like this with anyone else เพราะฉันไม่เคยทะเลาะกับใครแบบนี้มาก่อน
[Chorus] We were under the moonlight เราอยู่ภายใต้แสงจันทร์นวลที่ส่องสว่าง Clenching your jaw and that’s when I saw คุณกำลังขบกรามแน่นอย่างตึงเครียดและนั่นเป็นสิ่งที่ฉันมองเห็น The fire in your eyes ดวงตาที่ลุกโซนไปด้วยไฟแห่งความโกรธ Clothes on the floor, you stormed out the door ทิ้งเสื้อผ้าให้กองอยู่บนพื้นแล้วคุณก็เดินพรวดพราดออกจากประตู And that’s when I knew และนั่นคือเวลาที่ฉันรู้ That I can’t live without you ว่าฉันไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากคุณ It was sparks at first sight เกิดประกายไฟแห่งแรงดึงดูดตั้งแต่แรกเห็น But it was love at first fight แต่นั่นคือความรักที่เริ่มต้นขึ้นจากการทะเลาะกันครั้งแรก
[Post-Chorus] At first fight ในครั้งแรกที่ได้ทะเลาะกัน
[Bridge] You never really know someone คุณจะไม่มีวันได้รู้จักใครสักคนอย่างแท้จริง Til you see the other side of ’em จนกระทั่งได้เห็นอีกด้านหนึ่งของพวกเขาที่แสดงออกมา And I didn’t know you were the one และฉันไม่รู้เลยว่าคุณคือคนหนึ่งคนนั้น Til you and I were almost done จนกระทั่งคุณและฉันเกือบจะต้องยุติความสัมพันธ์ลงไป
[Chorus] Under the moonlight ภายใต้แสงจันทร์นวลที่ส่องสว่าง Clenching your jaw and that’s when I saw คุณกำลังขบกรามแน่นอย่างตึงเครียดและนั่นเป็นสิ่งที่ฉันมองเห็น The fire in your eyes ดวงตาที่ลุกโซนไปด้วยไฟแห่งความโกรธ Clothes on the floor, you stormed out the door ทิ้งเสื้อผ้าให้กองอยู่บนพื้นแล้วคุณก็เดินพรวดพราดออกจากประตู And that’s when I knew และนั่นคือเวลาที่ฉันรู้ That I can’t live without you ว่าฉันไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากคุณ It was sparks at first sight เกิดประกายไฟแห่งแรงดึงดูดตั้งแต่แรกเห็น But it was love at first fight แต่นั่นคือความรักที่เริ่มต้นขึ้นจากการทะเลาะกันครั้งแรก
[Outro] (You never really know someone) (คุณจะไม่มีวันได้รู้จักใครสักคนอย่างแท้จริง) (‘Til you see the other side of ’em) (จนกระทั่งได้เห็นอีกด้านหนึ่งของพวกเขาที่แสดงออกมา) (And I didn’t know you were the one) (และฉันไม่รู้เลยว่าคุณคือคนหนึ่งคนนั้น) Under the moonlight ภายใต้แสงจันทร์นวลที่ส่องสว่าง (You never really know someone) (คุณจะไม่มีวันได้รู้จักใครสักคนอย่างแท้จริง) (‘Til you see the other side of ’em) (จนกระทั่งได้เห็นอีกด้านหนึ่งของพวกเขาที่แสดงออกมา) (And I didn’t know you were the one) (และฉันไม่รู้เลยว่าคุณคือคนหนึ่งคนนั้น) Under the moonlight ภายใต้แสงจันทร์นวลที่ส่องสว่าง