อายุ 40+ ยังไม่ถึงวัย แต่ทำไม? ต้องส่องกล้องตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่

นับวันจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น “มะเร็งลำไส้ใหญ่” ทั้งที่อายุยังไม่ถึง 50 ปีนั้นเพิ่มมากขึ้นและมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ นั่นอาจเป็นเพราะไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนยุคนี้ที่ชีวิตเร่งรีบขึ้น มีความเครียดสะสม สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ทานเนื้อสัตว์และไขมันเกินความจำเป็น แถมสภาพแวดล้อมยังเต็มไปด้วยมลพิษ ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งได้ทั้งสิ้น มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ ถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ดังนั้นการตรวจคัดกรองโรคเป็นประจำจึงเป็นหัวใจสำคัญของการรักษามะเร็งชนิดนี้ ซึ่งการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่เป็นมาตรฐานและใช้กันทั่วโลกก็คือ การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

และเนื่องจากโรคนี้มีระยะก่อนเป็นมะเร็งค่อนข้างนานและสังเกตอาการได้ยาก เพราะแม้เป็นมะเร็งไปแล้วแต่ถ้ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น ก็มักจะไม่พบอาการผิดปกติใดๆ อาจมีก็แค่เป็นอาการทั่วไป เช่น ปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง ท้องเสียหรือท้องผูก บางคนถ่ายเป็นเลือดแต่คิดว่าเป็นแค่ริดสีดวงทวารจึงไม่ได้กังวลและคิดว่าไม่เป็นอะไร ไม่เห็นจำเป็นต้องไปหาหมอ ซึ่งนั่นอาจทำให้โรคลุกลามมากขึ้น และแน่นอนว่าการรักษาก็ต้องยากขึ้นตามไปด้วย

แนะนำว่าถ้ามีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารเป็นๆ หายๆ หรือนานเกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไป ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้องดีกว่า เพราะปัจจุบันพบโรคมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนอายุ 40-49 ปี และจากการศึกษาพบว่าหากเราเริ่มตรวจคัดกรองตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้น โดยไม่ต้องรอให้มีอาการผิดปกติ จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ เพราะหากพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะทำให้แพทย์สามารถรักษาได้ทันก่อนที่โรคจะลุกลาม โอกาสที่จะรักษาให้หายก็มีมากขึ้นด้วย หรือหากไม่พบความผิดปกติ ก็ควรตรวจซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ หรืออย่างน้อยทุกๆ 3-5 ปี

แต่สำหรับผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แนะนำให้เริ่มตรวจก่อนคนที่เป็นอย่างน้อย 10 ปี เช่น มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ตอนอายุ 45 ปี ควรต้องตรวจตอนอายุ 35 ปี เพราะถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ ...

ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่..ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แค่เตรียมตัวตามนี้ คลิกชม >> https://bit.ly/2WwrT9a