Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
30 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

F1 - Belgian Grand Prix & Moto GP - Indianapolis Grand Prix - Race Day

F1 - Belgian Grand Prix - Race Day: หรือจะเหลือสอง?

สายฝนเป็นนางเอกของเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่สปาเช่นเดียวกับ 2-3 วันมานี้ และผลการแข่งขันอาจทำให้แฟนคลับของเซบาสเตียน เวทเทล (อย่างเรา) เฟอร์นันโด อลอนโซ่ หรือเจนสัน บัตตัน เริ่มถอดใจลุ้นเสียแล้วเมื่อตัวเก็งแชมป์โลกอีก 2 คนจบในอันดับที่ 1 และ 2 โกยคะแนนหนีออกไปได้อีกมาก...

1. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 1:29:04.268
2. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) +1.5 วินาที
3. โรเบิร์ต คูบิซ่า (เรโนลต์) +3.4 วินาที
เวลาต่อรอบเร็วที่สุด: ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 1:49.069

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างสบายของแฮมิลตันถ้าไม่นับฝนตกสลับหยุดไปมาและมีจังหวะหนึ่งที่แฮมิลตันหลุดจากแทร็คจนเกือบถึงกำแพงเพราะฝนเริ่มหนักขึ้น ส่วนเว็บเบอร์ก็ยังพกดวงมาเต็มกระเป๋า หลังจากพลาดตอนสตาร์ทจากที่ได้ตำแหน่งโพลหล่นลงมาหลายอันดับก่อนจะเริ่มเซ็ตตัวเองในอันดับที่ 5 ตามหลังแฮมิลตัน บัตตัน เวทเทล และคูบิซ่า ก็โชคดีจริงๆ เมื่อคนที่ดวงกุดที่สุดของรายการคือบัตตันกับเวทเทลที่วิ่งอยู่ข้างหน้าเว็บเบอร์มีอันต้องหลุดจากตำแหน่งบนโพเดียมเพราะความใจร้อนของฝ่ายหลัง รวมทั้งความผิดพลาดในพิทของเรโนลต์ ส่งผลให้เว็บเบอร์จบในอันดับที่ 2 และคูบิซ่าก็เข้าตามมาในอันดับที่ 3 แบบแอบเสียดายเล็กน้อย




บัตตันต้องออกจากการแข่งขันหลังโดนเวทเทลชนข้างจนหม้อน้ำกระจาย



เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ตัวเก็งอีกคนก็ไม่ได้คะแนนจากสนามนี้อีกเช่นกัน ดวงของอลอนโซ่ในสนามนี้ก็ถือว่าแย่พอๆ กับบัตตัน หลังจากออกตัวจากอันดับที่ 10 ในรอบแรกก็โดนรถของรูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ ชนเข้าอย่างจังแต่ยังวิ่งต่อได้หลังจากซ่อมแซมในพิท อย่างไรก็ตามเขาไม่จบการแข่งขันเพราะในช่วงท้ายรถหมุนคว้างกระแทกกำแพงจนล้อหัก

คนอื่นๆ ทั้งเฟลิเป้ มาสซ่า อาเดรียน ซูทิล นิโค รอสเบิร์ก มิชาเอล ชูมัคเกอร์ มีผลงานที่ดีทีเดียวในสนามนี้ ต่างจบใน 10 อันดับแรก รวมไปถึงคามูอิ โคบายาชิ และวิทาลี เปตรอฟ ซึ่งรายหลังสตาร์ทจากกริดอันดับสุดท้ายเสียด้วย ส่วนเฮมี่ อัลเกอร์ชัวรี่ ของโตโร รอสโซ่ อดได้คะแนนสุดท้ายไปเพราะโดนโทษเพิ่ม 20 วินาทีบวกเข้ากับเวลาที่ทำได้เนื่องจากไปตัดโค้ง จึงหล่นไปอยู่อันดับที่ 13

จบจากสนามนี้ทำให้สองผู้นำตุนคะแนนนำไปได้อีกพอสมควรกับการแข่งขันที่เหลืออีกเพียง 6 สนามในฤดูกาลนี้ แฮมิลตันขึ้นนำอีกครั้งในคะแนนประเภทนักขับโดยมี 182 คะแนน นำหน้าเว็บเบอร์เพียง 3 คะแนน ส่วนอันดับที่ 3-5 แน่นอนว่าคะแนนยังเท่าเดิมเพราะสนามนี้กินไข่กันหมด สำหรับประเภททีมต่อจากนี้คงเป็นการขับเคี่ยวระหว่างเร้ดบูลและแม็คลาเรน ซึ่งตอนนี้เร้ดบูลนำแค่แต้มเดียวค่ะโดยมีอยู่ 330 คะแนน


<<<<<<<<<<<<<<<<<<


เรื่องนี้ต้องขยาย: เซบาสเตียน เวทเทลในสนามสปา 2010

เมื่อวานคงเป็นการแข่งขันที่วุ่นวายมากๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตของ "เซ็บ" เลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ควบคุมรถไม่อยู่จนสะบัดไปชนข้างรถของบัตตันในรอบที่ 16 ทำให้แชมป์โลกคนปัจจุบันต้องออกจากการแข่งขันไปและตัวเองยังสามารถเข้าพิทไปเปลี่ยนจมูกรถกลับออกมาแข่งต่อได้ ต่อมาหลังจากโดนทำโทษแบบขับผ่าน (drivethrough penalty) เนื่องจากอุบัติเหตุนั้น ก็มาเจอจังหวะที่โดนปีกหน้ารถฟอร์ซอินเดียของวิตันโตนิโอ ลิอุซซี่ เจาะยางหลังซ้ายทำให้ต้องวิ่งกลับเข้าพิทจากระยะทางกว่าครึ่งสนาม พอฝนเริ่มลงหนักก็เข้ามาเปลี่ยนยาง ออกไปก็มีจังหวะโดนอลอนโซ่กระแซะในพิทเลน และท้ายที่สุดยางที่เปลี่ยนไปก็ใช้การไม่ดี ต้องกลับเข้าไปเปลี่ยนอีกครั้ง สรุปแล้วเวทเทลเข้าพิทรวม 5 ครั้ง




ยางแบนหลังจากโดนปีกหน้ารถฟอร์ซอินเดีย



จังหวะอื่นๆ ในสนามนี้ยังพอทำใจได้ แต่เหตุการณ์ที่ชนกับบัตตันทำให้แม้แต่เราซึ่งเชียร์น้องชายคนเล็กคนนี้แบบสุดใจยังงงว่าอะไรดลใจให้เธอรีบร้อนขนาดนั้น แน่นอนว่าคู่กรณีหัวเสียมากทีเดียวว่าไปทำให้เขาหมดโอกาสลุ้นแชมป์ปีนี้โดยสิ้นเชิง ซึ่งเวทเทลก็ได้ออกมาขอโทษบัตตันหลังการแข่งขัน เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำลายการแข่งขันของทั้งบัตตันและของตนเอง มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้เจตนาเลย

แถมเรื่องราวทำท่าจะบานปลาย เมื่อมาร์ติน วิทมาร์ช ทีมบอสของแม็คลาเรนออกมาช่วยลูกทีมรุมสกรัมว่าความผิดนี้เป็นความผิดแบบ "เด็กในฟอร์มูล่าเล็ก ๆ" ไม่ใช่ในแบบที่ควรเป็นในฟอร์มูล่าวัน และคิดว่าการลงโทษแบบขับผ่านถือว่าเบาเกินไป ตบท้ายด้วยการบอกว่า "ไปทำอย่างนี้กับทีมเมทดีกว่าทำกับทีมเรา!"

เราก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร ออกจะกลุ้มใจด้วยซ้ำ "อะไรที่ทำให้เซ็บน้อยเป็นได้ถึงขนาดนี้?" เราวนคิดไปมาอยู่หลายตลบ เรื่องใจร้อนก็อย่างหนึ่งและก็รู้มานานแล้วว่าน้องเป็นประเภทรออะไรไม่ค่อยได้ แต่ปีนี้ดูว่าจะรอแทบไม่ได้เสียจริงๆ หรือว่าน้องโดนความหวัง ความกดดันต่างๆ เล่นงานเต็มๆ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ตั้งใจแต่ไม่สำเร็จ จนดูเหมือนว่าปีนี้คงหมดหวังลุ้นแล้ว และถึงแม้จะได้แชมป์โลกในปีนี้ เชื่อได้เลยว่าจะต้องมีคำครหาว่าเป็นแชมป์โลกที่ไม่สมศักดิ์ศรีแน่นอน

"น้องเป็นนักขับที่ไม่ดีจริงเหรอ?" เราก็ยังมีคำถามนี้ลอยวนไปวนมาในหัวอีกด้วย แต่ไม่ว่าน้องคนนี้จะต้องเจออะไร จะต้องใช้เวลาอีกมากแค่ไหนที่จะบ่มให้น้องเป็นนักขับที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า เราสัญญาว่าเราจะไม่ทิ้งน้องคนนี้เด็ดขาด กำลังใจคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนเราก้าวเดินต่อไปได้...


***********************************


Moto GP - Indianapolis Grand Prix - Race Day: (ลอเรนโซ่) แบ่งให้คนอื่นบ้าง

เนื่องจากทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะไม่ตื่นมาดู (555) เพราะฉะนั้นขอรายงานผลการแข่งขันอย่างเดียวนะคะ

1. ดานี่ เปโดรซ่า (เรปโซล ฮอนด้า) 47'31.615
2. เบน สปีส์ (มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เทค 3) +3.575 วินาที
3. ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ (เฟียต ยามาฮ่า) +6.812 วินาที
เวลาต่อรอบเร็วที่สุด: ดานี่ เปโดรซ่า (เรปโซล ฮอนด้า) 1'40.896

เมื่อเช้าตื่นมาก็คว้าโทรศัพท์มาเปิดเช็คผลโมโต้ จีพีก่อนเลย เปิดมาก็ โอ๊ะ! ขวัญใจเรา วาเลนติโน่ รอสซี่ได้ที่ 4 อ่ะ ดีใจมากมาย แล้วต่อมาก็แปลกใจ ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ได้ที่ 3 เหรอเนี่ย อืม แบ่งให้คนอื่นเขาบ้างก็ดี อิอิ ส่วนเบน สปีส์ ก็น่าปลื้มใจแทนที่ได้ที่ 2 ต่อหน้าแฟนๆ ในบ้าน ซึ่งอาจทำให้ลอเรนโซ่เคืองเล็กๆ ที่ทำให้สถิติที่ลอเรนโซ่จบในท็อป 2 มาตลอดฤดูกาลนี้มีอันต้องสิ้นสุดลง

ในเรื่องของคะแนนสะสมก็ยังไม่มีอะไรเสียหายสำหรับลอเรนโซ่ค่ะ เพียงแค่ระยะห่างลดเหลือ 68 คะแนน โดยลอเรนโซ่มี 251 คะแนน ตามมาด้วยเปโดรซ่า 183 คะแนน รอสซี่ยังอยู่อันดับที่ 5 มีอยู่ 114 คะแนน ตามหลังเคซี่ สโตเนอร์ 5 คะแนนและนำหน้าสปีส์ 4 คะแนน

ส่วนโมโต้ ทู มีคนที่ดูเมื่อคืนรายงานมาให้ว่าฟีมของพวกเราล้ม รายละเอียดเป็นอย่างไร รบกวนเพื่อนๆ ที่ได้ดูเล่าให้เราฟังบ้างนะคะ

สนามต่อไปของโมโต้ จีพี สนามที่ 12 ไปกันต่อเลยในรายการซานมารีโน่ กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมิซาโน่ วันอาทิตย์ที่ 5 ก.ย. คราวนี้คงกลับมาเวลาที่คุ้นเคย ไม่ต้องอดนอน อิอิ สำหรับฟอร์มูล่าวัน สนามต่อไปคงเป็นอีกสนามที่หลายคน (ทั้งคนแข่งและคนดู) ชื่นชอบ สนามที่ 14 ในรายการอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ วันอาทิตย์ที่ 12 ก.ย. ถือเป็นสนามสุดท้ายในยุโรป ซึ่งเจ้าของบล็อกคงต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ แล้วล่ะค่ะ เนื่องจากแว่วมาว่าต้องไปทำงานต่างจังหวัดเสาร์-อาทิตย์นั้น หมายความว่าบล็อกต้องโหว่อีกแล้ว แต่ยังอยากให้ทุกคนเข้ามาช่วยกันในรายงานการซ้อม การควอลิฟาย หรือมีข่าวอัพเดทอะไรก็มาแปะไว้ได้เลยค่ะโดยเจ้าของบ้านจะเข้ามาทักทายเป็นระยะๆ

ที่สำคัญ เย็นวันอาทิตย์นั้นจะรีบบึ่งรถกลับบ้านให้ทัน 1 ทุ่มให้ได้แน่นอน!


ปล. เมื่อวานคนพากย์ในทรูวิชั่นส์บอกว่าเร้ดบูลจะพานักขับมาเที่ยวเมืองไทย ช่วงระหว่างเสร็จจากสิงคโปร์แล้วจะไปต่อที่ญี่ปุ่น เขาจะพามาโปรโมทในงานอเมซซิ่ง ไทยแลนด์ ค่ะ เอ๊...แล้วเขาจะพามาทั้ง 2 คนเลยรึป่าว? ใครรู้ข่าวความเคลื่อนไหวเรื่องนี้รบกวนแจ้งด้วยนะคะ เผื่อพวกเราชาวฟอร์มูล่าวันจะได้แห่กันไปให้กำลังใจพวกเขา อิอิ




*ข้อมูลจาก formula1.com / autosport.com/f1 / motogp.com
ภาพจาก formel1.de




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2553
20 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2553 11:03:49 น.
Counter : 1274 Pageviews.

 

เป็นธรรมดาสำหรับ Vettel ครับ ปีนี้มีโอกาสลุ้นแชมป์มากขึ้น ความกดดันก็มากขึ้นทำให้ความผิดพลาดมากขึ้นเป็นธรรมดา ปีหน้าคงควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่านี้

สำหรับ Moto Lorenzo ก็วิ่งชิล ๆ ครับไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองเพราะคะแนนห่างหลาย ๆ แต่เจ้าฟีมนี่สิลงไปคลุกฝุ่นอีกแล้ว ปีนี้คลุกฝุ่นบ่อยจริง ๆ = ="

ปล. จะรีบซิ่งกลับยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อนนะครับคุณเจ้าของบล็อก อิอิ

 

โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.121.238.157 30 สิงหาคม 2553 11:23:28 น.  

 

ท่าทางปีนี้ Vettel ยังนิ่งไม่พอกระมัง
(ทั้งล่อกันเองกะเพื่อนร่วมทีม+ทีมอื่นๆ)

เท่าที่ตามมาครึ่งซีซั่น ผมว่าปีนี้ Webber ขับได้นิ่งกว่าเจ้าเซบเยอะอยู่นะ ดูท่าว่าปีนี้ แชมป์โลก น่าจะเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง HAM กะ WEB ซะแล้วละ

 

โดย: hstgz IP: 57.59.9.172, 57.59.9.172, 202.122.130.31 30 สิงหาคม 2553 11:25:25 น.  

 

ไม่ต้องห่วงครับ คุณ Finishline

คุณสมบัติของ Vettel หรือเจ้าเซ็บ แบบนี้หละครับ จะยิ่งใหญ่ในอนาคต ถ้าหากว่าไม่มีลูกบ้า ไม่มีอารมณ์ ก้อจะไม่มีความมุ่งมั่น ชูมี่เมื่อก่อนยิ่งกว่านี้ อีกครับ

The Doctor ก้อเหมือนกัน รายนั้นยิ่งบ้าเข้าไปใหญ่ สิ่งนี้ที่หลายคนอยากมีแต่ไม่มี แต่เจ้าฟิลม์ อยากให้เค้ามีสิ่งนี้ แต่ดูเหมือนจะยาก

สิ่งนี้หละ ที่จะทำให้เป็นนักขับที่ดีที่เก่งในอนาคตได้

ปล. ชักอยากให้ Vettel มาขับให้ ม้าลำพองกับอลอนโซ่แล้ว

 

โดย: desmond IP: 203.155.217.2 30 สิงหาคม 2553 12:59:27 น.  

 

เมื่อวานนี่แบบว่า เอ่อ...ทั้งเซ็บ ทั้งฟีม จ๋อยไปสองรายการเลย ฮ่าๆๆ


ตอนนี้ Vettel ต้องใจเย็นลงในการเลือกจังหวะแซง ยังเป็นจุดด้อยของหนุ่มน้อยจากเยอรมันคนนี้อยู่ เพราะถ้าดูจากหลายๆครั้งที่พลาดเนี่ย เกิดจากการเลือกแซงแบบเสี่ยงเกินไป ก็ต้องจำเป็นบทเรียนต่อไป ถ้าถามว่าเป็นนักขับที่ไม่ดีมั้ย ... แฮมเองก่อนที่จะนิ่งแบบนี้ ผลงานในอดีตก็การันตีคุณภาพได้เช่นกัน เป็นเรื่องปกติของนักแข่งวัยรุ่นครับ


ส่วนฝั่ง MotoGP รุ่นใหญ่แบบว่าดูไปหลับไป ฮ่าๆๆ (ปีหน้าตื่นมาดูดีกว่า) ส่วนรุ่น moto2 ก็เหมือนที่คนพากย์บอก ว่า Red Flag ครั้งแรกนี่มันการเืมืองแน่ๆเลย รถที่เทกระจาดออกไป ไม่มีรถขวางแทรคเลย แต่ออกสตาร์ทครั้งที่สอง ฟีมก็ไม่ได้หล่นลงไปมากหรอกนะ เพียงแต่จังหวะผิดพลาดครั้งเดียว ล้มเลย ก็เลยหมดลุ้น... เสียดายสนามนี้ รถดี คนก็ขี่ได้ดี แต่ยังไงก็เชียร์ต่อไป


ตอนนี้หวังเรื่องที่นักขับ RBR จะมาเมืองไทยนี่ล่ะครับ อยากให้ขับรถโชว์ด้วยจังเลย (แต่คงยาก) งานนี้ถ้ามีกิจกรรม ก็ตั้งใจไว้ว่า จะลางานแน่นอน 555+


ปล. คุณ finishline หายป่วยเร็วๆนะครับ
ปล.2 ไม่อยากให้ Vettel ขับให้ Ferrari เลยครับ ฮ่าๆๆ

 

โดย: runtaro IP: 203.121.177.66 30 สิงหาคม 2553 14:07:00 น.  

 

ขอบคุณทุกๆ ความเห็นเลยนะคะ โดยเฉพาะเรื่องของเจ้าเซ็บและอาการหวัดของเรา

เรื่องของน้องก็...อย่างที่เขียนไว้แหละค่ะ คือเราน่ะลึกๆ สงสารเขามากเพราะรู้ว่าเป็นคนตั้งใจมากขนาดไหน แล้วผลลัพธ์มันก็จบลงแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง ต่อจากนั้นก็เป็นการรุมประณามจากทั่วสารทิศ (ยกเว้นประเทศไทย เราว่าคนไทยนี่สุดยอดในการให้อภัยและเข้าใจคนแล้วล่ะค่ะ ^^) คือเราก็โรคจิต รู้ว่าเขาด่าน้องแน่แต่ก็ชอบไปอ่านคอมเมนต์ฝรั่ง เสร็จแล้วก็มานั่งเศร้า ที่เศร้านี่ก็เพราะว่าเจอแฟนฝรั่งหลายคนแล้วที่บอกว่า "เมื่อก่อนไอเคยเชียร์ แต่เดี๋ยวนี้ไอเลิกเชียร์แล้ว เซ็บเปลี่ยนไป ไม่เหมือนปีก่อนๆ เลย" อะไรปะมาณนี้อ่ะค่ะ

เราเลยสงสัยว่าคนที่รักใครเชียร์ใครแล้วเวลาที่เขาแย่เนี่ย จะทิ้งกันดื้อๆ แบบนี้เลยเหรอ? แต่แน่นอน เราคนนึงล่ะค่ะที่ไม่เปลี่ยนใจแน่ๆ เราเชื่อมั่นค่ะว่าเชียร์ไม่ผิดคน ภูมิใจน้องเหมือนรุ่นพี่คนอื่นๆ ที่เราเชียร์มา

ส่วนอาการหวัด เมื่อเช้าเราก็ว่าเราดีๆ อยู่นะ แค่ไอมากหน่อยเท่านั้น ตกบ่ายทำไมขอบตากับจมูกมันร้อนผ่าวๆ อย่างกะไข้จะขึ้น ไม่นะ! เราเกลียดการเป็นหวัดที่สุด!!!

 

โดย: finishline 30 สิงหาคม 2553 15:23:31 น.  

 

เราว่าที่ Seb โดนแฟนทีมอื่นหรือนักขับคนอื่นต่อว่า ก็คงเป็นเพราะว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง มีผลไปกระทบกับนักขับคนอื่นอยู่เรื่อยเลย ก็เลยนะ ... ส่วนเราก็คงเชียร์ตลอดไปเหมือนกันแหละ แน่นอนว่าเป็นคนไทย วัฒนธรรมการเชียร์ของเราก็คงไม่เข้มข้นเหมือนฝรั่ง มันก็คงง่ายมั้งที่จะไม่ได้ไปเกลียดหรือเลิกเชียร์ใคร ที่เป็นๆอยู่ก็แค่อยากให้ทีมหรือนักขับที่เราเชียร์ชนะ แค่นี้เอง ฮ่าๆๆ


พูดถึงทีม RedBull หน่อยดีกว่า ตอนนี้เราว่าทางทีมคงต้องวางแผนยาวๆไปจนจบ season แล้วล่ะ ต้องดูว่าสนามไหนที่ต้องชนะ กับสนามไหนที่เน้นแ่ค่แต้ม เพราะตอนนี้จะโยนคะแนนทิ้งเปล่าๆไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าระบบแต้มนี้ คะแนนมันจะพลิกได้ง่าย แต่มันก็ไม่ง่าย ถ้าคู่แข่งไม่โชคร้ายหรือพลาด สนามหน้าเนี่ย ท่าทางจะเหนื่อยเลยล่ะ เจอทางตรงยาวๆอย่าง Monza


จะออกมาหน้าไหนหนอ... RBR

 

โดย: runtaro IP: 203.121.177.66 30 สิงหาคม 2553 16:28:09 น.  

 

คือต้องเข้าใจว่าธรรมเนียมการเชียร์ของคนไทยกับฝรั่งนั้นไม่เหมือนกันครับ ทางฝั่งฝรั่งเชียร์นั้นส่วนใหญ่พูดตรง ๆ คือ ใช้สมองมากกว่าคนไทย อันนี้คือเรื่องจริงครับ พวกเค้าจะวิเคราะห์ว่าในเหตุการณ์ไหนใครถูกใครผิด ไม่เหมือนทางฝั่งไทยส่วนใหญ่ ใช้ความชอบส่วนตัว เชียร์ล้วน ๆ ไม่ว่ายังไงคนที่ฉันเชียร์ต้องถูกเสมอทุกกรณี ใครได้ดีเกินหน้าเกินตาคนที่ฉันเชียร์ฉันด่ากราดหมด ตัวอย่างที่เห็น ๆ กันอยู่บ่อย ๆ ก็ moto2 ที่เจ้าฟีมแข่งอยู่นี่แหละครับ เห็นแล้วรู้เลยว่าทำไมวงการ motorsports บ้านเรามันถึงได้ย่ำอยู่กับที่มาหลายปีหลายสมัยแล้ว

 

โดย: fascinator IP: 115.87.84.49 30 สิงหาคม 2553 18:59:11 น.  

 

มีเรื่องสงสัยอยากถามเจ้าของบล๊อกค่ะ

ตั้งแต่ชูมัคเกอร์กลับมาแข่งใหม่ สาเหตุที่เค้าทำผลงานได้ไม่ดีเป็นเพราะฝีมือตกไปหรือเพราะรถไม่แรงเท่าของทีมอื่น หรือเพราะสาเหตุอะไรกันแน่คะ อยากรู้จัง :))

 

โดย: lullabeer IP: 223.205.160.203 30 สิงหาคม 2553 19:12:07 น.  

 

ทั้งสองอย่างเลยครับ ดูเหมือนว่าแกจาตกลงไปบ้างอ่ะครับไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วอ่ะ น้าชูอ่ะ ผมว่าปีนี้ลุ้นเอาใจช่วยให้ไม่ขี้เหร่ไปแล้วกันสำหรับเมอร์ซิเดส

 

โดย: ton IP: 58.8.220.113 30 สิงหาคม 2553 20:32:00 น.  

 

ฮ่าฮ่าฮ่า

แหม ..คุณ fascinator พูดเอาผมนึกภาพออกเลย ตอนบ่นให้ Luthi อิอิ แต่ผมว่าคนทั่วไปก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่ยืนอยู่ข้างคนที่ตัวเองเชียร์แค่นั้นเอง อิอิ (ไม่ได้แก้ผิดให้เป็นถูก)


ส่วนเรื่องทีม Mercedes ปีนี้ที่ผมข้องใจอยู่อย่างนึง คือปีที่แล้ว Rosberge ขับรถ Williams แต่ป่วนแถวหน้าได้ดีกว่านี้มากๆ ผมว่าฝีมือของรอสเบิร์กก็น่าจะห่าง Kubica ไม่มากนะ ปีนี้มีไม่กี่สนามที่ทำได้แบบนั้น ผมว่ารถของ Ross Brawn ยังสู้ 3 ทีมใหญ่ไม่ได้จริงๆ ถ้าพูดกันจริงๆ ยังตาม Renault กับ Force India อยู่นิดๆด้วย

 

โดย: runtaro IP: 124.121.176.47 30 สิงหาคม 2553 22:02:10 น.  

 

ลุงชูแกฝีมืออาจจะตกบ้างแต่ผมเชื่อว่าตกไม่มากครับ แต่ที่สำคัญคือรถ Mercedes ตอนนี้เริ่มตามหลัง Renault กับ Force India แล้ว (ตอนต้นปียังนำหน้าอยู่หน่อย ๆ) แต่ที่สำคัญกว่าคือ รถ Mercedes ถูกออกแบบมาจากสไตล์การขับของ Jenson button ที่อยู่ร่วมทีมเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสไตล์ของ Button จะชอบรถ Understeer ครับ แต่ลุงชูแกชอบ Oversteer เจออะไรที่ไม่เข้าทางมันก็ไปยากล่ะครับ

 

โดย: fascinator IP: 115.87.84.49 30 สิงหาคม 2553 22:39:34 น.  

 

ต้องรอปีหน้าซะแล้วอ่ะครับ น้าชูอ่ะ ปีนี้ไม่ไหวเลยอ่ะครับ
ทั้งคู่เลยอ่ะ ตามลุ้นอยู่แต่มันไม่ไหวอ่ะครับ เหมือนว่ารถจะไม่เวิร์คกับแกเท่าไหร่เลย จำได้ว่าช่วงต้นๆก็เปลี่ยนแชสซีที่นึงแล้วอะ
กะว่าจารอดูมนต์เสกตารอสซะหน่อย.. ผมว่าเดี่ยวนี้เวลารอบควอลิฟายอ่ะแกทำได้ไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อนแล้วอ่ะ รอต่อที่มอนซ่ารอดูเจ้าบ้านดีกว่า ..... ลุ้นต่อคร้าบๆๆๆ

 

โดย: ton IP: 58.8.90.116 31 สิงหาคม 2553 0:18:21 น.  

 

... Alonso เรานี่ โชคไม่ดี ตั้งแต่วัน Qualfy แล้ว
Q3 ช่วงท้าย ฝนลงเม็ด เลยจบอันดับโหล่ ใน Q สุดท้ายเลย

มาวัน RACE โดน ลุงเบ็น ชนเต็มๆอีก

[ ขอบ่นนิดหน่อย ลุงเบ็น ที่โดนน้าชู เบียดเกือบชนกำแพง
เห็นด่า เห็นบ่นน้าชูจะเป็นจะตาย เป็นข่าวใหญ่มาก จนน้าชู ต้องส่ง sms มาขอโทษ ]

แล้วนี่ชน alonso กลิ้งเลย ไม่เห็นขอโทษสักคำ
[ จะอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุสินะ ] ( ก็คิดถึงน้าชูบ้างนะครับ ว่ามันก็เป็นอุบัติเหตุเหมืือนกัน ทั้งที่เค้ายังไม่โดนรถลุงแกเลย ที่สนามก่อน )

*** เรื่อง Alonso สนามนี้
เข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์จริง หนีไม่ได้ สาเหตุน่าจะมาจาก
ฝนลงเม็ด ในวัน Qualify เลยมา start อันดับ 10 ซึ่งอันตรายมาก
ที่ต้อง start อยู่กลุ่มกลางๆ [ ข้างหน้า รถก็เยอะ + ข้างหลังก็เยอะ ]
ซึ่ง สภาพอากาศ ที่ใช้ ยาง slick แล้วฝนมา
โอกาสโดนสอย มีสูงมากๆ

-----------------------------

เอาล่ะ มองไปที่สนามหน้า MONZA ที่ ITALY
[ โอกาสได้ซิ่ง สนามบ้าน FERRARI ที่ตัวเองมาขับ FERRARI ปีแรกของ Alonso มาถึงแล้ว ]

หวังว่าจะได้แชมป์มากๆ

 

โดย: JUNE IP: 125.27.143.51 31 สิงหาคม 2553 1:26:28 น.  

 

คุณ finishline จขบ.

ซวยแล้วฮะ ผมเจอข่าวว่า

น้า Mark ของ RED BULL

แจ้งทีม ให้ตั้งน้าแกเป็นมือ 1 เพื่อจะได้มีโอกาสคว้าแชมป์โลก
ได้ง่ายขึ้น [ แบบบอกนัยๆอ่ะมั้ง ว่าให้ Vettel ช่วย block McLAREN ให้น้าแกหน่อย ]

ทีมจะทำหู ทวนลมเปล่านะ ( ก็เห็น boss น้า horner ด่า FERRARI อยู่ว่า เล่นสกปรก ที่เยอรมัน ขัดขวาง ลูกทีม massa ไม่ให้คว้าแชมป์ )

ถ้าตัวเองเล่นแบบ FERRARI บ้างล่ะ ?

ผมก็แอบเชียร์ vettel นะ ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้าย
ที่จะเหมา สถิติ แชมป์โลกเด็กที่สุด ในปีนี้ ( แชมป์ GP สนามเด็กสุดได้มาแล้ว ,, แชมป์ pole position เด็กสุดได้มาแล้ว
เหลือแชมป์โลก อย่างเดียวครับ ถ้าปีนี้ น้อง seb ทำไม่ได้ ham คงจะครอง ยาวตลอดแน่ๆ )

[ แต่ ตอนนี้ ก็ลุ้น Alonso อยู่อันดับแรกนะครับ ]

 

โดย: JUNE IP: 125.27.143.51 31 สิงหาคม 2553 1:36:31 น.  

 

โอ้! ผ่านไปคืนนึง คอมเมนต์ยาวมากมาย ขอบคุณทุกๆ คนมากนะคะที่ทำให้บ้านหลังนี้มีสีสันทุกวัน

ตอบคุณ lullabeer ด้วยคนค่ะ เราเห็นด้วยกับอีกหลายๆ คอมเมนต์ที่บอกว่ามันทั้งรถทั้งคนนั่นแหละค่ะ

เรื่องธรรมชาติมนุษย์ ไม่มีอะไรในโลกเอาชนะได้ สังขารย่อมไม่เที่ยงค่ะ ปูนนี้แล้วอะไรก็ถดถอย ฟิตของคน 40 มันย่อมไม่ฟิตเหมือนคน 25 แน่ๆ แล้วอีกเรื่องคือความไวในการตอบสนอง อันนี้เราว่าเห็นได้ชัดเลยนะคะ ที่อยู่ได้ในระดับนี้เพราะอาศัยเก๋านั่นเอง

ส่วนเรื่องรถเมอร์เซเดส อย่างที่คุณ fascinator บอก
ค่ะว่ารถของปีนี้ถูกเซ็ตให้เข้ากับบัตตันไว้ ปีนี้ลุงชูเลยลำบากหน่อย แล้วเราว่าลุงรอส บรอว์น อาจยังไม่คุ้นกับแชสซีส์ของเบนซ์แบบขนานแท้ (รึป่าว) ให้เวลาลุงบรอว์นปรับรถอีกนิดคงอยู่มือแกละน่า :P

คุณ JUNE เราเห็นข่าวแล้วล่ะค่ะ พวกเขาคงต้องทำแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นนะ...ถ้าจะทำ แต่น้าฮอร์เนอร์เขายังเชื่อว่าน้องชายคนเล็กยังกลับมาลุ้นแชมป์ได้ค่ะ

 

โดย: finishline 31 สิงหาคม 2553 8:18:54 น.  

 

ผมคิดว่ากรณี Schumi - Ruben นั้นมันอันตรายและผิดมากกว่ากรณี Alonso - Ruben ครับ

กรณีสนามนี้ผมเชื่อว่าลุงแกไม่ตั้งใจจริง ๆ ที่จะไปซัดนายโซ่จนต้องเข้าพิทแต่เป็นที่สภาพสนาม ที่สำคัญลุงแกออกมาขอโทษผ่านสื่อแล้วครับ

กรณีที่ Hungary กรณีนั้นอันตรายกว่ามากครับกับความเร็วระดับ 300 km/h และมีกำแพงคอนกรีตเป็นปัจจัยเสริม ลุงชูแกตั้งใจจะบังลุงรูเบนแต่น่าจะกะพลาดไปหน่อย ถึงแม้ว่าจะไม่มีการสะกิดกันเกิดขึ้นแต่ถ้าวันนั้นโชคไม่ดีสะกิดกันขึ้นมา เราอาจจะได้เห็นความสูญเสียที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ปี 1994 อีกครั้งก็เป็นได้

ในส่วนทีมออเดอร์ของ Red Bull ผมคิดว่าต้องดูสถานการณ์ในแต่ละสนามนั้น ๆ ด้วยครับและ Horner ยังไม่น่าจะใช้ทีมออเดอร์ในตอนนี้ ยังมีโอกาสอีกมากที่สถานการณ์จะยังพลิกกลับไปกลับมาอยู่

 

โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.122.225.60 31 สิงหาคม 2553 10:02:27 น.  

 

ชอตที่ลุงเบนชนโซ่ ลุงแกกดมาเต็มที่ขนาดนั้น (แถมพื้นลื่น
อีก) ใครจะเบรกอยู่บ้างล่ะ

แต่รถ Fer. แข็งชะมัด นึกว่าจะจอดแล้วนะเนี่ย วิ่งต่อจนจบเฉยเลย

 

โดย: hstgz IP: 57.59.9.172, 57.59.9.172, 202.122.130.31 31 สิงหาคม 2553 11:28:59 น.  

 

ผมก็เห็นด้วยว่า อุบัติเหตุของสนามนี้ที่ลุงรูเบนชนอลองโซ่ มันไม่ได้อันตรายมาก เพราะการชนแบบนี้ ปกติแล้วนักแข่งจะไม่ได้รับอันตราย แต่ที่ฮังการี่ มันอันตรายในระดับที่แตกต่างกันมากๆ (สนามนี้ แบบรายของเจ้า Seb อ่ะ อันตรายกว่าอีก)

 

โดย: runtaro IP: 203.121.177.66 31 สิงหาคม 2553 14:38:41 น.  

 

มาอู้งานต่อ = =/

สำหรับการแข่งที่อิตาลีผมคิดว่าจะมีคนเชียร์เจ้าโซ่ "น้อย" นะครับ ถ้ายังจำกันได้ปี 2006 ตอนนั้นที่เจ้าโซ่แย่งแชมป์กับลุงชูอยู่ ในการแข่งที่อิตาลีเจ้าโซ่ออกมาเหน็บแฟน ๆ ม้าลำพองว่าไม่มีสปิริตในการเชียร์แถมยังเหน็บไปยัง FIA ต่ออีกว่าต้องการล็อกให้ลุงชูเป็นแชมป์ปีนั้น = =

 

โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.121.201.183 31 สิงหาคม 2553 16:33:42 น.  

 

โปรดระวัง โซ่... เอ๊ย... ปลาหมอ ตายเพราะปาก อิอิ

 

โดย: hstgz IP: 125.24.131.106 31 สิงหาคม 2553 20:54:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.