ขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านสำหรับเรื่อง blown diffuser ที่โพสต์ไว้ในบล็อกเมื่อวานนี้นะคะ ที่จริงหาอ่านยากมากเลยในแบบที่เป็นภาษาไทย คราวนี้เราก็จะได้เข้าใจมากขึ้นแล้ว^^

ปีนี้เลยกลายเป็น crash kid แทนเวทเทลไปเลย

ชอบ ลีลา ham ช่วงปี 2007-2008 ครับ
บู๊ล้างผลาญจริง * แต่ว่าอยู่ในฟอร์มที่นิ่งมากๆ แล้วก็ไม่ค่อยชนใครเลยมั้ง

แต่ปัจจุบัน เหมือนว่าใจไปเกินรถแล้ว ^^

* มองอีกมุม ปี 2011 ก็ต้องเข้าใจแกด้วยนะ
นิสัยของ ham ชนที่ monaco กับ canada เพราะ track แคบมาก
แล้วแกตกไปอยู่อันดับกลางๆด้วย เป็นธรรมดา ที่ต้องเจอเหตุชุลมุน

+ ปีก่อนๆที่แกได้แชมป์ หรือขึ้น podium ที่ monaco กับ canada สถานการณ์มันต่างกัน
เนื่องจากแก start จากหัวแถวแล้วก็ขับได้ดีมาก ทีเดียว

วันนี้นำความรู้เรื่องการจัดสรรจำนวนยาง (Tyre Allocation) มาให้อ่านกันนะครับ สำหรับบ้างคนที่ยังไม่รู้

ยางซ้อมกับยางแข่ง แบ่งแยกไว้ตายตัวครับ ทุกทีมเท่ากัน

รถทุกคันได้ยาง 11 ชุด/Race Weekend - Hard 6 , Soft 5 เหมือนกันหมด (บางสนามที่ดูว่ากินยางมากๆ อาจแถมให้ซ้อมเพิ่มอีก 1 ชุด)
ยางซ้อม มีทั้งหมด 5 ชุด Hard 3, Soft 2
ยางแข่ง 6 ชุด Hard 3, Soft 3 เหมือนกันหมดครับ
ตอนซ้อมจะใช้ยางอะไรใช้ไปเต็มที่ 5 ชุดที่มีครับ ถึงไม่ได้ใช้เช่นรถเสีย ก็เก็บไป Qualify หรือเอาไปให้ทีมเมทใช้ซ้อมแทนก็ไม่ได้ครับ ยางใครยางมัน ทีมเดียวกันก็ห้ามแบ่ง ยางซ้อมทั้งหมดจะใหม่จะเก่า ต้องส่งคืนหมดก่อนเริ่ม Q ครับ เหลือไว้ Q + Race 6 ชุด เท่าเทียมกันทุกคัน

การคืนยางก็มี Pattern นะครับ หลัง FP1 - Hard 1 / FP2 - Hard 1, Soft 1 / FP3 - Hard 1, Soft 1 สมมุติ FP1 รถเสีย จะเก็บยางใหม่ไว้ใช้ตอน FP2 ก็ไม่ได้ จบ FP1 ต้องคืน 1 ชุดครับ แต่ FP1 จะเอายางจาก FP2 มาใช้ได้หรือไม่ อันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่คงไม่ทำกันมั้งครับ เพราะส่วนใหญ่ FP1 สภาพสนามยังห่วยอยู่ ไม่ค่อยมีใครอยากเอายางไปถลุงโดยได้ประโยชน์น้อย

ลองมาดู Pattern การใช้ยางในการ Qualify ดูครับ

ที่ผ่านๆมา ที่เขาเก็บยางใหม่ หรือเหลือยางคือ ไม่ใช้ยาง soft จนหมดตอน Q ครับ ไม่สามรถเก็บยางจากการซ้อมได้ครับ . . . จะพยายามใช้แค่ 2 ชุด ตอน Q เหลือสดๆไว้ 1 . . . แต่การจะเก็บยางไว้ได้ ก็ต้องทีมหัวแถวครับ ที่เร็วแน่ๆ เวลาเร็วเหลือๆ

Q1 ทีมเร็วๆ อย่าง Redbull & Mclaren ใช้แค่ยาง Hard ก็ยังเร็วกว่าคันที่ 17 ที่ใช้ยาง Soft . . . ใช้ยาง Hard ก็ตัดเชือกผ่านเข้ารอบแล้ว ก็จะเหลือยางสดๆ ไว้ Q2 Q3 เต็ม 3 ชุด . . . แต่ทีมที่ไม่เร็วพอ ก็ต้องสละยาง Soft มา 1 ชุด เพื่อผ่านการตัดตัว เมื่อก่อน Ferrari เร็วๆพอ ก็ใช้ยาง Hard ผ่านได้ . . . แต่เดี๋ยวนี้ต้องงัดยาง Soft มา 1 ชุดเพื่อผ่านการตัดตัว Q1 . . ถ้าใช้ยาง Hard มีเสียวไม่ผ่าน
เหมือน Webber ที่เมืองจีน ไม่ผ่าน Q1 ได้ที่ 18 เพราะคิดว่ายาง Hard ก็คงผ่าน แต่พลิคล๊อคดันทำเวลาไม่ดีพอก็ตกรอบแรกไป . . . แต่ก็ได้ดีที่เหลือยาง Soft ใหม่ 100% เต็มทั้ง 3 ชุดเอาไว้แผลงฤทธิวันแข่ง จากที่ 18 มาเป็นที่ 3 เพราะได้ยางดี ถ้ามีอีกไม่กี่รอบ ได้ที่ 2 ชัวร์ เพราะ Vettel ยางหมดสภาพเต็มที่แล้ว

Q2 . . ทุกคันต้องเสียยาง Soft ไปอีก 1 ชุด . . เพราะใช้ยาง Hard ตัดตัว Top Ten มันยากแล้วเพราะต้องเจอรถเร็วขึ้นทั้งนั้น เพราะตอน Q1 มันเอาตั้ง 17 . . . อย่างน้อย 6 คันหลัง แทบตายตัวอยู่แล้วว่าใครจองตกรอบแรก รอแจ็คพอต ใครแปลกหน้าตกรอบเพิ่มมา 1 คัน

Q3 . . ทีมเร็วๆอย่าง Redbull & McLaren มักเหลืออยู่ 2 ชุด ทีมที่เหลือส่วนมากจะเหลือใหม่ๆแค่ชุดเดียว
ถ้าสูสีมีลุ้น เมื่อก่อนก็งัดทั้ง 2 ชุดมาใช้เพื่อหวัง Pole . . . แต่ถ้านำขาด ก็มักจะออกไปใช้ Soft ชุดเดียวพอ . . . Redbull ออกไปชุดเดียวนำเยอะ ก็จอดได้เลย . . . McLaren เห็นถูกนำขาด ออกไปก็ไม่พอที่จะชิง Pole ได้ ก็เลือกเก็บยางไว้ดีกว่า ไม่มีลุ้น . . . นักแข่งออกไป ถ้าไม่มีอะไรพลาดก็รู้แล้วครับว่า ยังพอเหลืออีกไหม ถ้าโดนอยู่ซัก 0.1- 0.2 ยังพอคิดว่าออกไปลุ้นไหว แต่ถ้าโดนอยู่ 0.4-0.5 ก็แทบรู้แล้วว่า จะยังเหลือให้ลุ้นไหม ออกไปก็เปลืองยางเปล่าๆ
ถ้าสูสีมีลุ้น ออกไปหนเดียว ไม่อุ่นใจ ก็ต้องออกไปป้องกันตัวอีกรอบ เสียยางใหม่ที่เหลือไปอีกชุด . . . ทีมตามเห็นมีลุ้น ก็ต้องออกไปลุ้นใหม่ เพื่อได้ Pole
เมื่อก่อนยางไม่ Drop เร็วแบบนี้ ก็ใช้ยางทุกชุดที่มีออกไปทำเวลาไม่ต้องหวงไว้ . . . แต่ปีนี้เจอยาง Drop เร็วแบบนี้ อายุยางทุกรอบมีความหมายหมด เก็บใหม่ๆไว้แข่งดีกว่า

ขอบคุณข่าวของเจ้าของบ้าน และขอบคุณคุณ Editor ที่นำความรู้เรื่องยางมาฝากกันนะคะ ได้ความรู้ิีอีกเย๊อะ

งั้นขอความรู้เพิ่มขึ้นอีกนิดค่ะ ขอคำอธิบายให้เห็นชัดเจนหน่อยค่ะว่า ยางแต่ละชนิด เช่น Hard soft แตกต่างกันอย่างไรคะ ควรใช้เมื่อใดค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

อธิบายคร่าวนะครับ ยาง Hard เนื้อยางจะทนกว่า ยาง Soft วิ่งได้นานกว่า ส่วนยาง Soft เนื้อยางจะเบาบ้างกว่า ยาง Hard ส่วนจะใช้เมื่อใดนั้นใน Race จะต้องใช้ ยาง Hard กับ Soft อย่างละ 1 ชุดบังคับ ยกเว้นกรณี ฝนตก...ประมาณนี้ละครับ


วันนี้พามาดู F1: 2011 Formula One Driver Salary List กัน

1. Fernando Alonso (Ferrari) 30M€
2. Jenson Button (McLaren) 10M€
3. Lewis Hamilton (McLaren) 10M€
4. Felipe Massa (Ferrari) 10M€
5. Nico Rosberg (Mercedes) 8M€
6. Michael Schumacher (Mercedes) 8M€
7. Sebastian Vettel (Red Bull) 8M€
8. Mark Webber (Red Bull) 8M€
9. Heikki Kovalainen (Lotus) 3M€
10. Jarno Trulli (Lotus) 3M€
11. Rubens Barrichello (Williams) 2,2M€
12. Timo Glock (Virgin) 2M€
13. Nick Heidfeld (Renault) 2M€
14. Kamui Kobayashi (Sauber) 1M€
15. Adrian Sutil (Force India) 1M€
16. Vitaly Petrov (Renault) 500k€
17. Jaime Alguersuari (Toro Rosso) 400k€
18. Sébastien Buemi (Toro Rosso) 400k€
19. Narain Karthikeyan (HRT) 250k€
20. Jérôme d’Ambrosio (Virgin) 200k€
21. Paul di Resta (Force India) 200k€
22. Vitantonio Liuzzi (HRT) 200k€
23. Pastor Maldonado (Williams) 200k€
24. Sergio Perez (Sauber) 200k€

อันนี้เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งครับ ปล่อยให้นักแข่งทำหน้าที่ของตัวเองไป เพราะเห็นรู้สึกจะไปกดดันทำข่าวสารพัดกับ Hamilton ซะเหลือเกิน (ถึงจะรู้ว่ามันทำเงินได้เยอะก็เถอะ) อีกหน่อยการแข่งมันจะน่าเบื่อครับถ้านักแข่งไม่หาอะไรตื่นเต้นให้คนดูบ้าง


-----------------------------------------------------------------

ยางแต่ละชนิด เช่น Hard soft แตกต่างกันอย่างไรคะ ควรใช้เมื่อใดค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

^
^
^
ยาง Hard เนื้อแข็ง จะวิ่งได้นานเพราะยางสึกช้าครับ แรงเสียดทานของยางจะน้อยเพราะความแข็งทำให้หน้าสัมผัสของยางกับถนนน้อยลง เหมาะกับสนามที่มีทางตรงยาวและพื้นผิวค่อนข้างขรุขระ (ทางตรงยาวต้องการแรงเสียดทานให้น้อยที่สุดเพื่อให้ไปได้เร็ว ในขณะที่พื้นผิวขรุขระจะทำให้ยางร้อนเร็วขึ้น ยาง Hard จะอ่อนตัวลงจากความร้อนจนอยู่ในอุณหภูมิที่พอเหมาะครับ)

ยาง Soft เนื้ออ่อน วิ่งได้น้อยรอบแต่วิ่งได้เร็วครับ เพราะแรงเสียดทานจากหน้าสัมผัสยางเมื่อยางอ่อนตัวมีเยอะทำให้เกาะถนนมาก เหมาะกับสนามที่มีโค้งเยอะ ๆ และพื้นผิวค่อนข้างเรียบ (ขรุขระมากยาง overheat ครับ)

ปล. บริษัทบล็อกทุกอย่างที่สามารถส่ง comment ได้ OMG -*-

ยกตัวอย่างยาง Hard กับ Soft ง่าย ๆ เลย

ลองเอาจักรยานมาเติมลมยางให้แข็งปั้กกับปล่อยลมยางให้อ่อนยวบแล้วลองปั่นดูทั้งสองแบบเทียบกันครับ นั่นคือ feeling ของยาง Hard กับยาง Soft

ขอบคุณคุณ Editor และคุณ fascinator นะคะที่ช่วยทำให้ เข้าใจเรื่องยางขึ้นอีกเยอะ (^_^) โดยเฉพาะคำอธิบายเรื่องลมจักรยาน

ข้อมูลเยอะดีจัง

ขอบคุณทุกท่านมากเลยค่ะ ^^

โอ้ ขอบคุณข้อมูลคุณเจ้าของบ้านและทุกท่าน
อบอุ่น+เยี่ยมมาก

ขอบคุณสำหรับข่าว กับ ข้อมูล นะครับ
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลย

เซ็บมันได้ 8 ล้านยูโรเองเหรอ แบบนี้ก็ยังเรียกเสี่ยเซ็บไม่ได้อ่ะดิ ว๊า ฮ่าๆๆ

ปล. โซ่มันจะรวยไปไหนเนี่ย -*-

สงสัยว่าทำไมปีที่แล้วแฮมถึงไปเข็นรถอ้ะครับ

แล้วโดนลงโทษอะไรบ้าง

อ่า... ขอตามอ่าน ความรู้ จาก blog F1 ดีๆ ในบ้านเราครับ

เรื่อง Hamilton ไปเข็นรถปีที่แล้ว เนื่องจากรถเค้าน้ำมันหมดครับ ซึ่งสืบเนื่องมาจากการที่เค้าต้องการให้น้ำหนักรถน้อยที่สุด เพื่อที่จะทำเวลาให้ดีกว่า Vettel ให้ได้ และในท้ายที่สุดก็เฉือน Vettel ไปได้

ส่วนบทลงโทษในตอนนั้น น่าจะเป็นแค่เตือนเฉยๆนะครับ ไม่ได้โดนลงโทษอะไรแบบจริงจัง แต่หลังจากนั้น FIA ก็ได้ออกกฎให้รถทุกคันที่ Qualify ต้องสามารถนำรถกลับมาที่พิทได้ ไม่งั้นจะโดนลงโทษ (ผมไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรนะครับ อาจจะเป็นการโดนปรับ grid ลง 5 ตำแหน่ง หรือการปรับเวลาที่ทำได้ให้เป็นโมฆะ ถ้าท่านใดมีข้อมูลก็ช่วยเพิ่มเติมด้วยนะครับ)

@คุณ spiralmind

ยินดีต้อนรับสู่บ้านหลังน้อยๆ ของชาว F1 ค่ะ ^^

ขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านสำหรับเรื่อง blown diffuser ที่โพสต์ไว้ในบล็อก

หาweb f1ของไทยมานานถูกใจมาก

@คุณ yellow flag

ยินดีต้อนรับเช่นกันค่ะ ดีใจที่บ้านหลังนี้เป็นประโยชน์กับพวกเราทุกคนค่ะ :D