อีกทีมหนึ่งที่มีปัญหาจนซ้อมได้ไม่เต็มที่คือโลตัสค่ะ ในวันพุธพวกเขามีปัญหากับพวงมาลัยรถและให้โรงงานที่อังกฤษส่งมาใหม่ให้ทันเมื่อวานนี้ แต่ในเมื่ออุปกรณ์มาไม่ทันอย่างที่ต้องการ พวกเขาก็ทดสอบระบบไปพลางๆ และวิ่งได้รวม 38 รอบ แต่เวลาที่ทำได้ไม่ดีพอสำหรับการบันทึกสรุปแล้ว 3 วันแรกของปี 2011 ยังบอกอะไรมากนัก รอดูกันต่อไปในการทดสอบช่วงที่ 2 วันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ ที่เฆเรซค่ะ********************************จากการทดสอบช่วงแรก โดยเฉพาะกับการใช้อุปกรณ์ใหม่อย่าง "ปีกหลังปรับได้" (moveable rear wing) ซึ่งเอฟไอเอออกกฎนี้มาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแซง แต่มันก็มาพร้อมกับความไม่แน่ใจของทั้งผู้ออกกฎและผู้ใช้กฎว่าคอนเซ็ปต์เป็นอย่างไรและในการแข่งขันจริงใช้อย่างไรกันแน่?เอฟไอเอจึงยินดีหากต้องมีการปรับกฎเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่ออกแบบมาจะใช้ได้จริง โดยในสนามแรกๆ จะทดลองกำหนด "โซนแซง" ซึ่งเป็นบริเวณที่จะอนุญาตให้ใช้ปีกหลังปรับได้ นั่นคือ 600 เมตรสุดท้ายของทางตรงหลัก (main straight) ในแต่ละสนาม เมื่อรถคันใดที่กำลังตามคันหน้าน้อยกว่า 1 วินาทีก็จะสามารถใช้อุปกรณ์นี้ได้ในบริเวณที่ให้แซงนี้ โดยวัดเวลาเมื่อยู่ในบริเวณเบรกในโค้งก่อนเข้าทางตรง ซึ่งเอฟไอเอเชื่อว่าระยะ 600 เมตรเป็นระยะที่เหมาะสม คือมีความยาวพอให้รถแซงได้แต่ก็ไม่ง่ายเกินไป จากข้อมูลที่มีการทดลองในเครื่องซิมูเลเตอร์แสดงให้เห็นว่าหากรถมีความเร็วต่างกัน 10-12 กม./ชม. (ขึ้นอยู่กับดีไซน์ของรถ) ก็จะแซงกันได้ในระยะ 600 เมตรนี้ข้อจำกัดด้านบนนี้เฉพาะเวลาแข่งขันนะคะ เวลาซ้อมหรือควอลิฟายสามารถใช้ได้ตามสบายเพื่อให้แฟนๆ รวมทั้งผู้บรรยายเข้าใจได้ง่ายขึ้น เขาจะมีการทำสัญลักษณ์ไว้ให้ โดยหากขีดเส้นเดี่ยวบนทางตรง นั่นหมายถึงระยะที่ให้แซงได้ ถ้าขีด 2 เส้นในโค้งก่อนหน้านั้นจะแสดงถึงระยะวัดเวลาที่ต้องให้ตามคันหน้าน้อยกว่า 1 วินาทีถึงจะแซงตรงโซนที่กำหนดได้ ในการทดสอบช่วงต่อๆ ไป เอฟไอเอก็จะค่อยๆ ทดลองไอเดียนี้ โดยจะประเมินเต็มขั้นตอนในการทดสอบช่วงสุดท้ายที่บาห์เรนต้นเดือนมีนาคมค่ะ หากการทดสอบที่รวมไปถึงข้อมูลจากซิมูเลเตอร์ที่ระยะ 600 เมตรแสดงให้เห็นว่าแซงยากเกินไปหรืออาจทำให้แซงกันมากเกินไปในการแข่งจริงก็อาจจะลดระยะลงเพราะฉะนั้น 4 สนามแรกของปีนี้จะทดลองระยะแซง 600 เมตรกันก่อน โดยสนามบาห์เรน ออสเตรเลีย และมาเลเซีย จะกำหนดไว้ในช่วงทางตรงเส้นสตาร์ท-ฟินิช ส่วนที่จีนจะกำหนดที่สุดทางตรงยาวด้านหลังค่ะ และหลังจากนั้นเอฟไอเอจะประเมินอีกครั้งสำหรับระยะที่เหมาะสมของรายการต่อๆ ไปจะประสบความสำเร็จมั้ยน้อออออ?*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1