รายละเอียดการแข่งขันและข้อมูลสนาม
สนามที่ 19: 16-18 พ.ย. 55
ชื่อสนาม: เซอร์กิตออฟดิอเมริกาส์ (สนามถาวร)
ทิศทางการวิ่ง: ทวนเข็มนาฬิกา
จำนวนรอบแข่งขัน: 56 รอบ
ความยาวของสนาม: 5.513 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 308.896 กม.
ความเร็วสูงสุด: ยังไม่มีข้อมูล
อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อ 1 รอบ: ยังไม่มีข้อมูล
ดาวน์ฟอร์ซ: ยังไม่มีข้อมูล
อัตราการใช้ยาง: ยังไม่มีข้อมูล
การเลือกยางของปิเรลลี่: ฮาร์ด (สีเงิน) / มีเดียม (สีขาว)
อัตราการใช้เบรก: ยังไม่มีข้อมูล
แรง G สูงสุด: ยังไม่มีข้อมูล
DRS Zone: ใช้ได้ที่ระยะ 650 เมตรก่อนโค้ง 12
จำกัดความเร็วในพิตเลน: 60 กม./ชม. ระหว่างช่วงฝึกซ้อมและในรอบควอลิฟาย และ 100 กม./ชม. ในรอบแข่งขัน
สถิติสนามต่อ 1 รอบ: ยังไม่มีข้อมูลเนื่องจากจัดแข่งขันในปีนี้เป็นครั้งแรก
พยากรณ์อากาศวันแข่งขัน: มีเมฆเป็นส่วนมาก อุณหภูมิ 14/22 องศาเซลเซียส
โปรแกรมตลอดสุดสัปดาห์การแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย)
ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 16 พ.ย. เวลา 22.00-23.30 น.
ซ้อม 2 - เสาร์ที่ 17 พ.ย. เวลา 2.00-3.30น.
ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 17 พ.ย. เวลา 22.00-23.00 น.
รอบควอลิฟาย - อาทิตย์ที่ 18 พ.ย. เวลา 1.00-2.00 น.
แข่งขัน - จันทร์ที่ 19 พ.ย. เวลา 2.00 น.
*ติดตามชมได้ทางช่องอีเอสพีเอ็น ช่องอีเอสพีเอ็น เอชดี หรือเว็บไซต์ที่ขึ้นไว้ด้านขวานี้
ผังสนาม "เซอร์กิตออฟดิอเมริกาส์"
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยูไนเต็ดสเตทส์ กรังด์ปรีซ์
- สนามเซอร์กิตออฟดิอเมริกาส์หรือซีโอทีเอประกอบด้วยโค้งทั้งหมด 20 โค้ง แบ่งเป็นโค้งซ้าย 11 โค้งและโค้งขวา 9 โค้ง เป็นหนึ่งในห้าสนามของปีนี้ที่เป็นสนามทวนเข็มนาฬิกาเช่นเดียวกับสิงคโปร์ เกาหลี อาบูดาบี และบราซิล
- พื้นผิวของสนามนี้ใช้เวลา 4 เดือนในการลาดพื้น ซึ่งชั้นที่ 3 และ 4 แล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยชั้นที่ 4 ใช้ส่วนผสมจากวัสดุที่มาจากทั่วทั้งเท็กซัส โดยรวมแล้วการก่อสร้างแทร็คใช้วัสดุรวมกันมากกว่า 640,000 ลูกบาศก์เมตร
- ผู้จัดยกให้โค้ง 1 เป็น "ซิกเนเจอร์" ของสนามแห่งนี้ โดยจากเส้นสตาร์ทมีการยกระดับ 41 เมตรหรือ 133 ฟุตก่อนนักขับจะต้องเลี้ยวโค้งซ้ายที่ชันมากซึ่งต้องเปลี่ยนเกียร์ลงมาถึงเกียร์ 1
- โค้ง 2-3 คล้ายกับโค้งเอส "เซนน่า" ของสนามอินเตอร์ลากอสในบราซิล ส่วนโค้ง 4-6 เหมือนจำลองโค้งแม็กกอตส์ โค้งเบ็กเกตส์ และโค้งแชปเปลของสนามซิลเวอร์สโตนในอังกฤษ นอกจากนั้นโค้ง 12-14 ก็ดูเหมือนช่วงสเตเดี้ยมของสนามฮ็อคเคนไฮม์ในเยอรมัน และใครที่คิดถึงโค้ง 8 อันโด่งดังของสนามอิสตันบูลพาร์กในตุรกีก็จะได้เห็นอยู่ในระหว่างโค้ง 16-18 ของสนามนี้ด้วย
- สนามซีโอทีเอทำพิธีเปิดไปแล้วและประเดิมขับรอบแรกโดยมาริโอ อันเดรตติ นักขับระดับตำนานคนหนึ่งของอเมริกา แชมป์โลกฟอร์มูล่าวันปี 1978 โดยตลอดการแข่งขัน 131 สนาม เขาเคยได้ลงแข่งขันรายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ทั้งหมด 11 ครั้ง แต่ชนะในบ้านเพียงครั้งเดียวกับรถโลตัสในปี 1977
- ก่อนหน้านี้สหรัฐอเมริกาใช้สนามจัดการแข่งขันฟอร์มูล่าวันมาแล้ว 9 สนาม ได้แก่ เซบริง ริเวอร์ไซด์ วัตกินส์เกล็น ฟีนิกซ์ ดัลลัส ดีทรอยต์ ลาสเวกัส ลองบีช และล่าสุด อินเดียนาโปลิสมอเตอร์สปีดเวย์
- ผู้ชนะรายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ คนล่าสุดคือ ลูอิส แฮมิลตัน ในปี 2007 ขณะลงแข่งขันเป็นปีแรกของเขาในฟอร์มูล่าวันให้กับแม็คลาเรน โดยทำได้ทั้งตำแหน่งโพลและชนะ ซึ่งนับเป็นชัยชนะลำดับที่สองของเขาในฟอร์มูล่าวัน
- ยูเอส กรังด์ปรีซ์ 2007 ถือเป็นการแจ้งเกิดของนักขับแชมป์โลกในเวลาต่อมา 2 คน นอกจากลูอิส แฮมิลตัน จะโดดเด่นด้วยผลงานทั้งได้โพลและชัยชนะแล้ว เซบาสเตียน เวทเทล ในวัย 19 ปี ยังได้ลงแข่งขันในฟอร์มูล่าวันเป็นครั้งแรก โดยขับให้กับบีเอ็มดับเบิ้ลยู เซาเบอร์ แทนที่โรเบิร์ต คูบิซ่า ซึ่งได้รับบาดเจ็บหนักจากการแข่งขันที่มอนทรีออลก่อนหน้านั้น เขาควอลิฟายได้อันดับที่ 7 และจบในอันดับที่ 8 ได้ 1 คะแนน ทำให้เขาถือสถิติเป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่ได้คะแนนจากการแข่งขันและยังเป็นสถิติจนถึงปัจจุบัน
- มิชาเอล ชูมัคเกอร์ คือนักขับที่ประสบความสำเร็จในรายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ มากที่สุด โดยชนะรวม 5 ครั้งในปี 2000 และ 2003-2006 ในการแข่งขันที่อินเดียนาโปลิสทั้งหมด
พรีวิวสนามแบบสามมิติโดยปิเรลลี่
คลิปจากยูทูบโดย NextgenAutoVideos
*ข้อมูลจาก formula1.com และ fia.com
ภาพจาก nextgen-auto.com และ vividseats.com