รถเร้ดบูลคันหนึ่งอยู่บนสุด แต่อีกคันอยู่ล่างสุดเป็นเพราะมาร์ก เว็บเบอร์ มีปัญหากับเกียร์บ็อกซ์ค่ะ ที่น่าสนใจมากคือเฟอร์รารี่ที่เพิ่งปรับตำแหน่งภายในทีมกันไม่กี่วันปรากฏว่าฟอร์มสวยทันทีทันใด เฟอร์นันโด อลอนโซ่ และเซบาสเตียน เวทเทล ได้ไล่เวลากันสนุกในช่วงท้ายๆ ก่อนหน้านั้นเฟอร์รารี่ทั้ง 2 คันก็สลับกันทำเวลาลดกับแม็คลาเรนของลูอิส แฮมิลตัน และเมอร์เซเดส คันของนิโค รอสเบิร์ก อีกคันที่น่าจับตามองคือ พาสเตอร์ มัลโดนาโด ของวิลเลียมส์ ซึ่งมักจะมีผลงานที่ดีในสนามนี้เมื่อครั้งที่เขาอยู่ในระดับจูเนียร์ ก็ยังทำได้ดีเมื่อได้ขับรถฟอร์มูล่าวัน

สำหรับอุบัติเหตุในช่วงนี้มีเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ เป็นการชนกำแพงทั้งเคสของวิตันโตนิโอ ลิอุซซี่ ของเอชอาร์ที และมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ของเมอร์เซเดส อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงกลางของการซ้อมมีธงแดงเกิดขึ้นราว 5 นาที เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแอ่งน้ำเล็กๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณทางตรงด้านหน้า ซึ่งคาดว่าเกิดจากน้ำซึมจากใต้พื้นถนน


รอบบ่าย (Free Practice 2)

1. Fernando Alonso (Ferrari) 1m15.123s (42 laps)
2. Lewis Hamilton (McLaren-Mercedes) 1m15.228s / + 0.105 (33)
3. Nico Rosberg (Mercedes) 1m15.321s / + 0.198 (44)
4. Jenson Button (McLaren-Mercedes) 1m15.448s / + 0.325 (38)
5. Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) 1m15.667s / + 0.544 (46)
6. Felipe Massa (Ferrari) 1m15.781s / + 0.658 (45)
7. Michael Schumacher (Mercedes) 1m16.356s / + 1.233 (33)
8. Mark Webber (Red Bull-Renault) 1m16.642s / + 1.519 (42)
9. Adrian Sutil (Force India-Mercedes) 1m17.101s / + 1.978 (46)
10. Nick Heidfeld (Renault) 1m17.126s / + 2.003 (38)
11. Vitaly Petrov (Renault) 1m17.337s / + 2.214 (35)
12. Sergio Perez (Sauber-Ferrari) 1m17.541s / + 2.418 (47)
13. Rubens Barrichello (Williams-Cosworth) 1m17.570s / + 2.447 (39)
14. Sebastien Buemi (Toro Rosso-Ferrari) 1m17.581s / + 2.458 (32)
15. Pastor Maldonado (Williams-Cosworth) 1m17.633s / + 2.510 (49)
16. Kamui Kobayashi (Sauber-Ferrari) 1m17.706s / + 2.583 (37)
17. Jaime Alguersuari (Toro Rosso-Ferrari) 1m17.789s / + 2.666 (43)
18. Heikki Kovalainen (Lotus-Renault) 1m18.266s / + 3.143 (50)
19. Jarno Trulli (Lotus-Renault) 1m18.490s / + 3.367 (39)
20. Paul di Resta (Force India-Mercedes) 1m19.053s / + 3.930 (15)
21. Jerome D'Ambrosio (Virgin-Cosworth) 1m19.185s / + 4.062 (40)
22. Timo Glock (Virgin-Cosworth) 1m19.338s / + 4.215 (35)
23. Narain Karthikeyan (HRT-Cosworth) 1m22.066s / + 6.943 (33)

รอบนี้มีรถ 23 คันค่ะ เพราะเอชอาร์ทีของลิอุซซี่ต้องซ่อมหลังจากหลุดไปชนกำแพงเมื่อช่วงเช้า แถมระบบไฮโดรลิกมามีปัญหาเสียอีก โดยช่วงบ่ายเฟอร์นันโด อลอนโซ่ แทบจะครองเวลาที่ดีที่สุดโดยตลอดค่ะ และมีช็อตหวาดเสียวนิดหนึ่งเมื่อลอนโซ่เกือบเข้าไปชนท้ายรถของเฟลิเป้ มาสซ่า เพื่อนร่วมทีมขณะที่ฝ่ายแรกกำลังวิ่งทำเวลาแต่ฝ่ายหลังวิ่งช้ากว่า ซึ่งเวลาที่ดีส่วนใหญ่ก็ยังเป็นผลงานจากกลุ่มบนเช่นเคย สำหรับมาร์ก เว็บเบอร์ ก็ได้กลับมาซ้อมอีกครั้ง แต่ยังไม่วายมีปัญหาอีก คราวนี้เป็นเรื่อง KERS แต่ถึงอย่างไรก็ยังวิ่งได้หลายรอบ ทีมที่ผิดคาดเป็นเรโนลต์ค่ะ เวลายังไม่ดีทั้งช่วงเช้าและบ่าย ต้องลองดูอีกครั้งในเช้าวันเสาร์

บ่ายนี้มีอุบัติเหตุอยู่บ้างเหมือนกันค่ะ รถเรโนลต์ของวิทาลี เปตรอฟ เข้าข้างกำแพงได้รับความเสียหายเล็กน้อย ขณะที่เฮมี่ อัลเกอร์ชัวรี่ ก็พาโตโร รอสโซ เข้าหากำแพงคล้ายๆ เปตรอฟเช่นกัน อีกคันที่มีปัญหาคือฟอร์ซอินเดียของพอล ดิ เรสต้า เครื่องยนต์มีปัญหาหลังจากเริ่มช่วงบ่ายไปได้ 35 นาที


สิ่งที่หลายคนอยากฟังหลังผ่านการซ้อมวันแรกไปแล้วคือเรื่องยางซูเปอร์ซอฟต์ แต่เราก็เห็นพูดถึงกันไม่มากนะคะ เห็นรอสเบิร์กกับเวทเทลบอกว่ายางทำงานได้ดีกว่าที่คิดไว้ อาจจะไม่ต้องเข้าพิตกันมากครั้งอย่างที่กลัวกันเพราะยางก็อยู่ได้หลายรอบ เจนสัน บัตตัน ก็กล่าวว่ายางซูเปอร์ซอฟต์สึกช้ากว่าที่คาด แต่ทุกคนก็ยังไม่อยากระบุตัวเลขการเข้าพิตอยู้นั่นเองค่ะ

ติดตามกันต่อไปวันพรุ่งนี้ ในการซ้อมรอบสุดท้าย 16.00 น. และรอบควอลิฟาย เวลา 19.00 น. ค่ะ


*****************************


มีข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ออกมาเล็กน้อย ก่อนถึงเส้นตายวันตัดสินใจ 3 มิถุนายน ที่ประเทศบาห์เรนต้องให้คำตอบสุดท้ายกับเอฟไอเอ

เมื่อวานนี้ เบอร์นี่ เอ็กเคิลสโตน ได้ประชุมร่วมกับทีมต่างๆ เพื่อดูท่าทีว่าหากมีการแข่งขันที่บาห์เรนอีกครั้งในช่วงท้ายของฤดูกาล ทีมจะว่าอย่างไร ซึ่งลุงเบอร์นี่บอกว่าพวกเขาโอเคค่ะ แต่ปัญหาเดียวคือเรื่องวันที่ ซึ่งหากทุกอย่างตกลงกันได้ อินเดียน กรังด์ปรีซ์ ที่จะจัดขึ้นครั้งแรกในปีนี้ก็จะเลื่อนไปแข่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาล เพื่อให้บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ได้จัดในวันที่ 30 ตุลาคม อันเป็นกำหนดเดิมของสนามอินเดียแทน และนั่นก็หมายความว่าวันปิดฤดูกาลจะต้องยืดไปถึง 4 ธันวาคม

แต่ในความเป็นจริงก็ยากเหลือเกินค่ะที่ทีมจะรับได้หากต้องแข่งกันไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม เนื่องจากโดยปกติไม่มีการทดสอบระหว่างฤดูกาลแล้ว ทุกอย่างของทีมจึงเข้มข้นอยู่ในช่วงปิดฤดูกาล หากเวลาสำหรับการปิดฤดูกาลเหลือเพียงแค่นั้น สมาชิกของทีมจะทำงานลำบากมากขึ้นทีเดียว





*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ espnf1.com

Create Date : 27 พฤษภาคม 2554
Last Update : 27 พฤษภาคม 2554 12:34:02 น.		8 comments
Counter : 1099 Pageviews.
Share Tweet