555555

alonso เทียน กวนโอ๊ย จริงๆ

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณเจ้าของบ้านนะครับที่เอาคลิปมาให้ดู

เนื่องจากข่าวช่วงนี้ค่อนข้างน้อย ผมก็เลยจะขอประเมินผลงานของนักแข่งที่ทำผลงานได้ดีและผลงานไม่เข้าเป้าอย่างละประมาณ 2-3 คนในมุมมองของผมนะครับ ถ้าท่านอื่นๆสนใจ ก็ร่วมกันแสดงความเห็นได้นะครับ

มาเริ่มกันด้วยคนที่ผลงานดีกันก่อนนะครับ (ไม่ได้เรียงตามลำดับนะครับ)

1. Sebastian Vettel

ยังคงผลงานดีอย่างต่อเนื่องสำหรับแชมป์โลกคนล่าสุด เมื่อสามารถคว้าแชมป์ไปได้ถึง 6 จาก 11 สนามในปีนี้ และที่ 2 อีก 4 สนาม โดยหลุดโพเดียมไปครั้งเดียวที่สนามบ้านเกิดในอันดับที่ 4 ยิ่งไปกว่านั้น เค้ายังคว้าโพลไปถึง 8 สนาม และหลุดจากแถวหน้าแค่ครั้งเดียวที่สนามบ้านเกิดเหมือนกัน (สตาร์ทจากอันดับ 3) ทำให้คะแนนสะสมของเค้านำหน้าอันดับ 2 ถึง 85 คะแนน

ถึงแม้ว่ารถ RB7 จะได้รับการยอมรับว่าเป็นรถที่ดีที่สุดในสนาม ณ เวลานี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฝีมือของ Vettel นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ถึงได้ทำผลงานออกมาได้ดีขนาดนี้ ซึ่งหลายๆคนก็ได้ยกให้เค้าเป็นตัวเต็งที่จะได้แชมป์ไปในฤดูกาลนี้แบบค่อนข้างจะทิ้งห่างกับคนอื่นพอสมควร

ถ้าจะมีจุดที่น่ากังวลสำหรับ Vettel ก็คือ เค้าน่าจะโดนกลุ่มผู้ตามมาอย่างรถหมายเลข 2-5 คอยกดดันเค้าตลอดแน่ๆในสนามที่เหลือ เพราะทีมอย่าง McLaren และ Ferrari เองก็แสดงให้เห็นแล้วว่า Vettel และ RBR ไม่ใช่ทีมที่ไม่มีใครเอาชนะได้ ซึ่งชัยชนะในหลายๆครั้งของเค้า ก็เป็นการที่ได้ออกสตาร์ทจากตำแหน่งที่ดีที่สุดและขับหายไปเลยแบบแทบไม่มีความกดดันในวันอาทิตย์ และเมื่ออยู่ในสภาวะกดดันหรือต้องไล่ตาม Vettel เองก็ใช่ว่าจะทำได้เข้าเป้าทุกครั้ง

อีกจุดนึงก็คือ เรื่อง Reliability ของรถ ซึ่ง 11 สนามที่ผ่านมา ยังไม่มีปัญหาอะไรรุนแรงเกิดขึ้นในระหว่าง race เลย ถ้าไม่นับปัญหาในพิท ซึ่งในปีที่แล้ว ปัญหาเรื่อง Reliability เองก็ถือว่าเป็นอีก 1 ปัจจัยที่ทำให้การแข่งขันตื่นเต้นจนไปถึงสนามสุดท้าย ปัญหาเรื่องนี้ รวมไปถึงเรื่อง DNF และ การโดนทำโทษระหว่าง race อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เส้นทางการก้าวสู่แชมป์โลก 2 ปีซ้อนอาจจะสะดุดเล็กน้อยได้

ความเป็นไปได้เมื่อจบฤดูกาล: ถ้าไม่ซวยจริงๆ หรือ McLaren และ Ferrari งัดเอาอะไรพิเศษมากๆออกมาได้ แชมป์โลกไม่น่าจะหลถดมือครับ

2. Fernando Alonso

แชมป์โลก 2 ปีซ้อนคนล่าสุดเองก็ถือได้ว่าเป็นคนที่ทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะเมื่อนับใน 6 สนามหลังสุดที่เค้าสามารถคว้าแชมป์ไปได้ 1 สนาม ที่ 2 อีก 3 สนาม และหลุดโพเดียมไปเพียงสนามเดียว (DNF ที่แคนาดา)

ถึงแม้ว่าคะแนนสะสมดูจะห่างจากผู้นำอยู่พอสมควร (89คะแนน) แต่ส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่า รถของ Ferrari นั้นสู้รถของ RBR ไม่ได้ โดยเฉพาะในสนามแรกๆที่รถ Ferrari ดูจะเป็นรองรถของ Renault ด้วยซ้ำในบางสนาม แต่ Alonso เองก็ทำผลงานได้เต็มที่เท่าที่รถของเค้าจะทำได้ ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบผลงานกับเพื่อนร่วมทีม จะเห็นได้ว่า Alonso นั้นทำผลงานได้เยี่ยมเลย และผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่า ต่อให้เอาใครมาขับรถ Ferrari ในตอนนี้ ก็คงทำผลงานได้ไม่เหนือกว่า Alonso แน่ๆ

สำหรับจุดที่น่าสนใจในช่วงฤดูกาลที่เหลือคือ Alonso จะสามารถเบียดแย่งตำแหน่งที่ 2 มาได้หรือไม่ เพราะในตอนนี้ ปัจจัยหลายๆอย่างดูจะเริ่มเข้าทาง Ferrari มากขึ้น เช่น ยาง hard ที่จะไม่มีการนำมาใช้อีกแล้วในฤดูกาลนี้, อุณหภูมิของสนามในสนามที่เหลือที่น่าจะสูงขึ้น ซึ่งน่าจะเข้าทางรถ Ferrari ที่ดูจะเป็นมิตรกับยางมากกว่าทีมอื่นๆ (และน่าจะเป็นข่าวร้ายของ Mercedes รวมไปถึงใครก็ตามที่ขับตามหลังรถ Mercedes เมื่อจบรอบแรก) รวมไปถึงความชำนาญส่วนตัวของ Alonso ซึ่งได้เคยแสดงให้ดูมาแล้วในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว

ความเป็นไปได้เมื่อจบฤดูกาล: น่าจะเบียดกันกับรถหมายเลข 2-4 เพื่อการแย่งกันเป็นผู้ที่ทำคะแนนสะสมเป็นอันดับ 2 อย่างสนุก รวมไปถึงคะแนนประเภทผู้สร้างที่น่าจะสู้กับ McLaren ได้อย่างสูสี ถ้าโชคเข้าข้าง อาจจะคว้าที่ 2 ได้ แต่ถ้าไม่ อาจจะต้องรอกันใหม่ในปีหน้า

3. Kamui Kobayashi

ถือได้ว่าเป็นอีก 1 ม้ามืดในช่วงครึ่งฤดูกาลทีผ่านมา โดยเค้าสามารถเห็บแต้มได้ 7 จาก 11 สนาม รวมไปถึง 6 สนามรวดตั้งแต่มาเลเซียจนถึงบาเลนเซีย และน่าจะเป็น 7 สนามรวดถ้าเค้าไม่โชคร้ายโดน DSQ ไปในสนามแรกเนื่องจากรถผิดกฏ ในส่วนของคะแนนรวม เค้าทำได้ถึง 27 คะแนน ซึ่งน้อยกว่า Schumi เพียงแค่ 5 คะแนนเท่านั้น และเค้ายังเป็นกำลังสำคัญของทีม ซึ่งกำลังลุ้นที่จะป้องกันอันดับ 6 ในคะแนนสะสมเอาไว้ให้ได้ (ทำคะแนน 27 จาก 35 คะแนนของทีมในปีนี้)

ในปีนี้น่าจะเป็นปีที่ KK ได้เติบโตขึ้นอย่างมากในฐานะในขับ F1 เพราะเค้าต้องเป็นนักขับมือ 1 ของทีม (ซึ่งมีประสบการณ์น้อยที่สุดในบรรดาทุกทีมในปีนี้) ซึ่งการนำ Sauber รั้งอันดับที่ 6 เอาไว้ได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดคาดพอสมควร เพราะทีมในระดับกลางหลายๆทีมอย่าง Williams, STR หรือ Force India เองก็ดูน่าจะพร้อมว่าพวกเค้าพอสมควร ทั้งในเรื่องนักแข่งและทีม จุดเด่นอย่างนึงซึ่งหลายๆคนติดใจก็คือ การแซงที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้า ซึ่งก็ได้เห็นกันแทบจะทุกสนาม

ถึงแม้ว่า รถ C30 ของพวกเค้าจะดูดีขึ้นกว่า C29 ซึ่งในบางสนามก็สามารถหลุดไปถึง Q3 ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในบางสนามพวกเค้าเองก็ต้องดิ้นรนกันสุดชีวิตกว่าจะรอด Q1 มาได้ ซึ่งส่งผลให้อันดับสตาร์ทไม่ค่อยดีนัก แต่กลยุทธ์ในวันอาทิตย์ของ Sauber เองก็ถือได้ว่าได้ผลดีมาในหลายๆสนาม ซึ่งหลักๆก็คือ การที่พวกเค้ามักจะเข้าพิทน้อยกว่าชาวบ้าน ซึ่งเป็นที่ฮือฮากันตั้งแต่สนามแรกที่ Sergio Perez เข้าพิทเพียงแค่ครั้งเดียว หลังจากการคาดการณ์ต่างๆนานาว่าน่าจะมีการเข้าพิทกันอย่างถล่มทลายสืบเนื่องมาจากยาง Pirelli

อย่างไรก็ดี ต่อให้วางแผนดีขนาดไหน แต่ถ้านักแข่งไม่สามารถทำได้ ก็ไม่เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการเช่นกัน ซึ่งในจุดนี้ KK สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นคนที่ผมคิดว่าทำงานคุ้มค่าจ้างที่สุดคนนึงเลนทีเดียว

ความเป็นไปได้เมื่อจบฤดูกาล: น่าจะเจอช่วงที่ยากลำบากมากขึ้นในครึ่งหลังของฤดูกาล เพราะทีมในกลุ่มเดียวกันอย่าง Force India กำลังแรงขึ้นมา และน่าจะแรงอย่างต่อเนื่องใน 2 สนามถัดไปเป็นอย่างน้อย รวมไปถึงทีมอย่าง STR ที่นักแข่งในทีมต้องเร่งทำผลงานอย่างหนัก ถ้าไม่อยากตกงานในปีหน้า และ Williams ที่เริ่มจะดีขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ดี ผมยังเชื่อว่าเค้าน่าจะรั้งอันดับที่ 11 ในส่วนของนักขับ และน่าจะรั้งอันดับ 6 ในส่วนของทีมไว้ได้ ถ้า S.Perez สามารถช่วงทำแต้มให้ทีมได้บ้าง

และถ้าอะไรๆเป็นใจหน่อย เค้ามีสิทธิ์จะได้ Pastor Maldonado เป็นเพื่อนร่วมทีมในปีหน้าที่ Williams ก็เป็นไปได้

สำหรับคนอื่นๆที่ทำผลงานดีแต่ผมไม่ได้นำมาวิเคราะห์ไว้ก็มีนะครับ อย่าง L.Hamilton และ JB

สำหรับส่วนของคนที่ทำผลงานดีก็คงพอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วค่อยมาต่อกันกับคนที่ทำผลงานไม่เข้าเป้า

ว้าวๆ น่าสนใจมากเลยค่ะ

ขอบคุณคุณ Thomaskung มากค่ะที่ช่วยทำให้บล็อกหายเหงา ใครมีความคิดเห็นอย่างไรอีกเกี่ยวกับครึ่งฤดูกาลแรก มาแชร์กันนะคะ

ซูชิ สู้ๆ

เทียนของพี่โซ่ 5555

ชอบของแม็คอ่ะคับ

มาต่อกันด้วยคนที่ทำผลงานไม่เข้าเป้านะครับ

1. Michael Schumacher

ยังคงเป็นปีที่ยากลำบากอีกปีสำหรับแชมป์โลก 7 สมัย เมื่อเค้าสามารถทำคะแนนได้เพียง 32 แต้มเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่แคนาดา แต่เค้าไม่มีคะแนนถึง 5 สนาม โดยเป็นการไม่จบการแข่งขัน 3 สนาม และเค้ามีคะแนนมากกว่า Kamui Kobayashi ซึ่งเป็นนักขับที่เป็นรองเค้าทั้งประสบการณ์และทีมอย่างชัดเจนเพียงแค่ 5 คะแนนเท่านั้น

เมื่อลองวิเคราะห์ดู หลายๆปัจจัยดูจะไม่เป็นใจให้เค้าเอาซะเลย ยกตัวอย่างเช่น รถของพวกเค้าก็ยังคงเป็นรอง 3 ทีมหัวแถวแบบชัดเจน โดยเฉพาะช่วงต้นๆที่น้ำหนักรถยังมากอยู่ ซึ่งทางฝรั่งเค้ามองว่า Mechanical grip ของรถ Mercedes ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของพวกเค้า ซึ่งคนที่ดูจะเข้าใจเรื่องนี้ดีก็คงเป็น F.Massa ที่ต้องตามหลังรถ Mercedes ในหลายๆครั้งเมื่อจบรอบแรก และเค้ามักจะต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะแซงไปได้ ซึ่งในหลายๆครั้ง ก็ส่งผลกระทบให้ Massa หมดลุ้นไปในสนามนั้นไปเลย

อีกปัญหานึงที่น่าจะส่งผลต่อๆกันมาก็คือ รถของพวกเค้าค่อนข้างจะ "กินยาง" มากกว่าชาวบ้าน ซึ่งส่งผลกระทบให้รถของพวกเค้ามักจะเข้าพิทค่อนข้างเยอะ (มักจะอยู่ในระดับเดียวกับพวกทีมหัวแถว และมักจะมากกว่าทีมระดับกลางตาราง) ในหลายๆสนาม การเข้าพิทเยอะก็ส่งผลกระทบให้พวกเค้าเสียตำแหน่งที่สามารถคว้าคะแนนได้ไปให้ทีมกลางตารางเมื่อจบการแข่งขัน

ยิ่งไปกว่านั้น Schumi ยังมี shot ที่ตัดสินใจพลาดแบบเล็กๆน้อยๆอยู่เรื่อยๆ ส่งผลให้เข้ามักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเฉี่ยวชนกับรถคันอื่นๆอยู่เสมอ อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ เค้ายังคงเป็นรองเพื่อนร่วมทีมรุ่นน้องอย่าง Rosberg อย่างชัดเจน (ในลักษณะที่คล้ายคลึงกันกับ F.Massa และ F.Alonso ที่ Ferrari)

อย่างไรก็ตาม เค้าก็ยังยืนยันที่จะลงแข่งในฤดูกาลหน้าต่อไป ท่ามกลางกระแสข่าวลือเกี่ยวกับคนที่จะมาแทนที่เค้าอยู่เรื่อยๆ ส่วนทางฝั่งทีมงานของ Mercedes ก็ดูจะยังหนุนหลังแชมป์โลกคนนี้ต่อไป

ความเป็นไปได้เมื่อจบฤดูกาล: ผมคิดว่าเค้าคงไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่า เค้าควรจะยกระดับผลงานตัวเองให้อยู่ในระดับที่ได้เข้า Q3 ในทุกสนาม และควรจะมีแต้มติดไม้ติดมือในเกือบทุกสนาม

ถ้าไม่เป็นไปตามนั้น การยุติอาชีพนักแข่ง F1 ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อที่เค้ายังคงสง่างามในฐานะนักขับที่ยิ่งใๆญ่ที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง ยิ่งเมื่อพิจารณารถในปีหน้า ก็ดูจะใกล้เคียงกับรถปีนี้ ที่น่าจะแตกต่างกันก็คงเป็นเรื่อง Blown Diffuser ซึ่ง Mercedes เองก็ไม่น่าจะสร้างความแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่อง Blown Diffuser ได้แบบชัดเจน

แต่ถ้าเค้าทำได้อย่างที่ผมเขียนไว้ก่อนหน้า การยุติอาชีพในปีหน้าก็ดูจะเป็นสิ่งชอบธรรมที่เค้าสมควรได้รับ

2. Jaime Alguersuari กับ Sebastian Buemi

สำหรับ 2 นักแข่ง STR ขอรวบยอดให้เป็นข้อเดียวกันเลยนะครับ เพราะอยู่ในกรณีที่คล้ายคลึงกัน

หลังจากปีแห่งความสำเร็จของ RBR ทีมน้องอย่าง STR ก็ได้รับการคาดหมายว่าพวกเค้าน่าจะทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าในปี 2010 แต่ในผลงานที่ผ่านมา พวกเค้าดูจะยังทำได้ต่ำกว่าความคาดหวังพอสมควร โดยเฉพาะผลงานในวันเสาร์ที่มักจะต้องลุ้นการผ่าน Q1 อยู่ในเกือบทุกสนาม และถ้าผ่านไปได้ ก็มักจะอยู่ในลำดับท้ายๆของ Q2 เสมอ ถึงแม้ว่าในบางสนามอาจจะในกลยุทธ์ในวันอาทิตย์ทำให้ได้คะแนนมาบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ผลงานของนักขับทั้งคู่ก็ยังดูไม่น่าประทับใจอยู่ดี

เมื่อพิจารณาเป็นรายบุคคล S.Buemi ดูจะทำผลงานได้เหนือกว่าเพื่อนร่วมทีม แต่ Alguersuari มักจะใช้กลยุทธ์ในวันอาทิตย์ช่วยให้เค้าสามารถคว้าคะแนนไปได้ (เห็นได้ชัดก็ที่บาเลนเซีย ที่เค้าสามารถคว้าอันดับ 8 มาได้จากการสตาร์ทจากอันดับที่ 18) ทำให้คะแนนโดยรวมไม่แตกต่างกันมาก (Buemi 12 แต้ม Alguersuari 10 แต้ม)

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาว่าทั้งคู่ต่างก็ได้โอกาสขับ F1 มาพอสมควรแล้ว รวมไปถึงดาวรุ่งคนใหม่อย่าง Ricciardo ที่ทำผลงานได้ดีพอสมควร จนได้โอกาสไปขับ HRT ทำให้อนาคตของทั้ง 2 คนนี้ดูจะต้องลุ้นกันพอสมควรทีเดียว ซึ่งทางทีมบอสของพวกเค้าเองก็ได้บอกไว้แล้วว่า ถ้าพวกเค้าทำผลงานได้ดี โอกาสจะย้ายไปขับให้ RBR ก็ยังมีอยู่ แต่ถ้าทำผลงานแย่ โอกาสตกงานก็มี ซึ่งทั้งคู่ก็คงรู้อยู่แล้ว

ความเป็นไปได้เมื่อจบฤดูกาล: ทั้งคู่คงต้องงัดทุกอย่างที่ตัวเองมีออกมาใช้ให้ได้ในช่วงครึ่งหลังนี้ ถ้าทำผลงานดีทั้งคู่ Ricciardo เองก็คงต้องไปหาที่ลงที่อื่น เพราะ M.Webber ก็น่าจะต่อสัญญาไปอีกปี

แต่ถ้าทำผลงานได้ในระดับเดิม ผมคิดว่า Alguersuari น่าจะเป็นคนที่ต้องเสียเก้าอี้ไป เพราะผมคิดว่าเค้ายังดูเป็นรอง Buemi

3. Jarno Trulli

ปีนี้เป็นอีกปีที่ยากลำบากสำหรับ Trulli หลักๆก็คงเป็นเรื่องปัญหาพวงมาลัยที่เค้าพูดมาเป็นระยะเวลานึงแล้ว ซึ่งเมื่อพิจารณาสไตล์ของเค้า (ซึ่งดูจะใกล้เคียงกันกับ JB) การที่เค้าไม่รู้สึกว่าสามารถควบคุมรถได้อย่างที่ต้องการได้ ก็คงเป็นอะไรที่เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับเค้า ซึ่งทาง team lotus เองก็พยายามก็แก้ไข แต่ก็ดูเหมือนกับว่าปัญหานี้ยังแก้ไขไม่ได้ซะที ในทางตรงข้าม เพื่อนร่วมทีมของเค้ากลับไม่เจอปัญหาแบบเดียวกัน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าสไตล์การขับที่แตกต่างกันน่าจะส่งผลกระทบในเรื่องนี้ด้วย

เมื่อรวมกับผลงานในปีที่แล้วที่เค้าเป็นรองเพื่อนร่วมทีมอย่าง Kovalainen ค่อนข้างชัดเจน ทำให้สถานการณ์ของเค้ายิ่งดูแย่ลงไปอีก ถึงแม้ว่าในตารางคะแนนเค้าจะอยู่ในอันดับที่สูงกว่าเพื่อนร่วมทีมก็ตาม (ได้อันดับ 13 2 สนาม Kovalainen ได้ที่ 14 สนามเดียว)

อีกปัจจัยที่ดูจะเป็นเรื่องที่กดดันเค้าก็คือ การที่สัญญาของเค้าจะหมดลงในฤดูกาลนี้ ซึ่งทาง team lotus เองก็ยังไม่ได้ประกาศท่าทีอย่างชัดเจนออกมา ส่วนทาง Trulli เองก็เคพูดไว้ว่า เค้าเองก็สนใจในการแข่งขันรถชนิดอื่นๆนอกเหนือจาก F1

ความเป็นไปได้เมื่อจบฤดูกาล: น่าจะต้องดิ้นรนกันต่อไป เป้าหมายหลักของเค้าก็คงจะเป็นการพยายามชนะเพื่อนร่วมทีมให้ได้ เพราะเค้าคงไม่สามารถสู้กับพวกทีมกลางตารางได้ในสภาวะปกติ

ถ้าปัญหาเรื่องพวงมาลัยยังแก้ไขไม่ได้ ผมคิดว่าเค้าคงทำผลงานไม่ได้ดีกว่าเดิม และปีนี้น่าจะเป็นปีสุดท้ายที่เราจะได้เห็นเค้าใน F1

สำหรับคนอื่นๆก็ยังมีนะครับ อย่าง F.Massa ที่ผลงานสู้เพื่อนร่วมทีมไม่ได้เลย แต่ยังมีด้านที่ดีในช่วงสนามหลังๆ หรือคู่หู Renault ที่ดูจะแผ่วลงไปอย่างชัดเจน หรือทางฝั่ง Williams ที่รถมีปัญหา จนยากที่จะประเมินผลงานของนักขับทั้งคู่ว่าทำได้ดีขนาดไหน

ก็จบกันไปแล้วนะครับกับการประเมืนผลงานในครึ่งฤดูกาลแรกในมุมมองของผม ถ้าท่านอื่นๆมีความเห็นอย่างไร ก็แสดงความเห็นกันได้นะครับ

การมาที่ Renault ของ Heidfeld ทำให้อนาคตปีหน้าของเค้ามืดมน และทำให้ Petrov ได้ขับต่ออีกปีแน่นอน

Eddie Jordan ออกมาให้ข่าวว่า B. Senna จะลงแทน Heidfeld ที่ Spa *-*