หลังผ่านการแข่งขันสนามที่ 11 แฮมิลตัน ยังนำอยู่ในคะแนนประเภทนักขับโดยมี 157 คะแนน ตามมาด้วยบัตตัน 143 คะแนน เร้ดบูลทั้ง 2 คันได้คะแนนเท่ากันที่ 136 คะแนน แต่ให้เครดิตกับเว็บเบอร์ซึ่งชนะมากกว่าจึงอยู่ในอันดับที่ 3 และเวทเทลอยู่อันดับที่ 4 สำหรับอลอนโซ่ได้เพิ่มมาเป็น 123 คะแนน ยังอยู่ในอันดับที่ 5

ด้านคะแนนประเภททีม แม็คลาเรนก็ยังนำอยู่โดยมี 300 คะแนน ตามมาด้วยเร้ดบูลและเฟอร์รารี่ ด้วยคะแนน 272 คะแนนและ 208 คะแนนตามลำดับ

แน่นอนค่ะว่าเรื่องราวไม่ได้จบลงด้วยดีแม้เฟอร์รารี่จะได้ 43 คะแนนเต็มๆ จากการเข้าเส้นชัยแบบ 1-2 เมื่อกรรมการชี้ไปที่เรื่อง "ทีมออร์เดอร์" ซึ่งห้ามทำกันมาตั้งแต่ปี 2002 (กฎนี้ออกมาเนื่องจากยุคเฟอร์รารี่-ชูมัคเกอร์-บาร์ริเคลโล่ ทำกันบ่อย) เพราะฉะนั้น บทลงโทษแรกที่ออกมาทันทีหลังเอฟไอเอเรียกทีมบอสและนักขับเข้าไปคุยก็คือ เฟอร์รารี่โดนปรับเป็นเงิน 100,000 เหรียญสหรัฐ โดยเอฟไอเอกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะลงโทษอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ทั้งเฟอร์รารี่และเร้ดบูลโดนเล็งเป็นพิเศษ จากกรณีที่ช่างภาพถ่ายมาได้ว่าปีกหน้าของรถทั้ง 2 ทีมถูกปรับต่ำลงใกล้พื้นมากกว่าทีมอื่น หลังจากกรรมการนำรถเข้าไปตรวจสอบก็ปรากฏว่าผ่านทั้ง 2 ทีมค่ะ โดยคริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอสของเร้ดบูลให้คอมเมนต์ว่าหลักฐานภาพถ่ายนำมาใช้ในเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เห็นว่าปีกอาจกดลงต่ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักรถ แรงดันยาง หรือที่สำคัญก็คือมุมกล้องที่ถ่ายมาอาจไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกัน ก็เป็นอันว่าเคลียร์กันไปกับเรื่องปีก ส่วนกรณีการตัดสินเรื่องทีมออร์เดอร์ ต้องตามกันต่อไปค่ะว่าจะมีอะไรกระทบกับผลการแข่งขันนี้หรือเปล่า

สำหรับบางส่วนของคำสัมภาษณ์จากห้องแถลงข่าวหลังจบการแข่งขัน เราขอนำช็อตเด็ดมาฝาก เรียกว่าเป็นช็อตที่เวทเทลใช้ความทะเล้นของตัวเองตีระฆังช่วยอลอนโซ่หลังเจอผู้สื่อข่าวกดดันอย่างหนักกับกรณีทีมออร์เดอร์...

ไบรอน ยัง ผู้สื่อข่าวจากเดลี่มิเรอร์: ความจริงก็คือคุณไม่สามารถเอาชนะมาสซ่าได้ในการแข่งขัน คุณจึงให้ทีมทำอย่างนี้เพื่อคุณ?

เฟอร์นันโด อลอนโซ่: ก็ถ้านั่นเป็นความคิดเห็นของคุณ

ไบรอน ยัง: ผมกำลังถามคุณอยู่ แล้วนั่นไม่ใช่ความเห็นของคุณเหรอ?

เฟอร์นันโด อลอนโซ่: ไม่ใช่

เอียน ปาร์เกอร์ส ผู้สื่อข่าวจากพีเอ: เฟอร์นันโด คุณพูดว่าคุณแฮปปี้กับชัยชนะวันนี้ แต่ว่ากันตามตรง ผมไม่เคยเห็นคนที่อยู่ตรงกลางบนโพเดียมมีความสุขน้อยเท่านี้มาก่อนเลย รวมทั้งเวลาที่นั่งตรงกลางในห้องแถลงข่าวด้วย ทำไมคุณถึงไม่พูดความจริงกับเราสักครั้ง แค่ยอมรับว่าคุณได้รับความเอื้อเฟื้อให้ชนะในวันนี้?

เซบาสเตียน เวทเทล: ผมไปได้รึยัง?

เอียน ปาร์เกอร์ส: ไปเถอะเซบาสเตียน อ้อ...เซบาสเตียน ให้ความเห็นกับเราหน่อยมั้ย?

เฟอร์นันโด อลอนโซ่: หวังว่าคำถามต่อไปเป็นของเซบาสเตียนนะ อย่าเพิ่งไป อยู่ก่อน อยู่ก่อน... อย่างที่ผมบอก ทีมเราสู้ได้ตั้งแต่วันศุกร์ ผมทำได้ถึงอันดับ 1 ในการควอลิฟายก็ทำได้ที่ 2 ซึ่งน่าจะเฉือนไปแค่ 12 ซม. และผมคิดว่าวันนี้เราทำฟาสเทสต์แลปได้ (แต่ที่จริงเวทเทลทำได้ในรอบสุดท้าย) ดังนั้นโดยรวมรถเราไม่ได้ช้ามากในสุดสัปดาห์นี้

ผมไปได้รึยัง?

ในส่วนของมาสซ่า เขาแทบไม่ตอบอะไรกับเรื่องนี้ แต่สรุปได้ว่าเขาคิดว่าเขาสมควรชนะ แต่เขาเป็นนักขับเฟอร์รารี่ เขาทำเพื่อทีม และกรณีนั้นเขาตัดสินใจให้อลอนโซ่ผ่านเพราะทำเพื่อทีม...


***************************************


โมโต้ จีพี - ยูเอส กรังด์ปรีซ์

เมื่อตอนตี 4 ใครตื่นขึ้นมาดูถ่ายทอดสดโมโต้ จีพีเป็นเพื่อนเราบ้างมั้ยคะ?

แล้วใครที่เป็นแฟนวาเลนติโน่ รอสซี่ รู้สึกอย่างไรบ้างคะ สำหรับเรา บอกได้คำเดียวว่า "เห็นแล้วเจ็บแทน!"

สนามนี้ใช้แรงเยอะและต้องเร็วมากทีเดียว แค่ตอนธรรมดาไม่ได้บาดเจ็บอะไรเราว่านักแข่งก็เหนื่อยแย่อยู่นะ ต้องตั้งใจกับทุกโค้งเลยเพราะเสี่ยงต่อการล้มง่ายเหมือนกัน ดูอย่างดานี่ เปโดรซ่า ซิคะ ออกนำมาอย่างกับจรวด อยู่ดีๆ ก็ล้มตรงโค้ง 5 นั่นเสียแล้ว ความฝันของฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่ขอชนะสนามนี้เสียทีหลังจากล้มมา 2 ปีติดจึงเป็นจริง ขณะที่เคซี่ สโตเนอร์ ก็พาดูคาติมาแบบเนียนๆ ในอันดับที่ 2

สำหรับรอสซี่ เขาต้องกัดฟันสู้กับนิกกี้ เฮเด้น นักบิดเจ้าถิ่นอยู่นาน กว่าจะสลัดหลุดได้ก็ใกล้จบการแข่งขัน เราคนดูก็นึกว่ารอสซี่จะพอแล้วกับที่ 4 แต่ที่ไหนได้ อีกไม่กี่รอบถัดมาเข้าไปใกล้อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ ของเรปโซล ฮอนด้าที่เหลือคันเดียวและจัดการแซงอย่างไหลลื่นและขึ้นไปยืนแป้นเป็นอันดับสุดท้ายบนโพเดียมได้สำเร็จ แม้อีก 2 รอบสุดท้ายจะโดนโดวิซิโอโซ่กดดันตลอดเวลา แต่ยี่ห้อรอสซี่เสียอย่าง ทำได้อยู่แล้ววววววว

รอสซี่เอ๊ย...ทำไปด้ายยยยยย

สรุปอันดับบนโพเดียมค่ะ
1. ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ (เฟียต ยามาฮ่า) 43'54.873
2. เคซี่ สโตเนอร์ (ดูคาติ) +3.517
3. วาเลนติโน่ รอสซี่ (เฟียต ยามาฮ่า) +13.420

ด้วยชัยชนะครั้งที่ 6 ในฤดูกาลของลอเรนโซ่ เขาจึงนำในประเภทนักขับเป็น 210 คะแนน อันดับที่ 2 ยังเป็นเปโดรซ่า แม้จะไม่ได้คะแนนสนามนี้แต่ก็ยังมีอยู่ 138 คะแนน อันเดรีย โดวิซิโอโซ่และเคซี่ สโตเนอร์ อยู่ในอันดับที่ 3 และ 4 ด้วย 115 กับ 103 คะแนนตามลำดับ ส่วนรอสซี่ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 โดยมี 90 คะแนน

ตอนหลังการแข่งขัน รอสซี่บอกว่า "ตอนที่ผมเห็นเปโดรซ่าล้มไปแล้วมองเห็นโดวิซิโอโซ่อยู่ข้างหน้า ผมคิดได้ว่านั่นมันโพเดียมนี่ ผมจึงพยายามดู!" โชคดีนะเนี่ยที่รอสซี่จะได้พักอีกหลายวันกว่าจะถึงสนามต่อไป วันที่ 15 สิงหาคมในรายการเช็ก กรังด์ปรีซ์ ที่สนามเบอร์โน่ค่ะ

สำหรับฟอร์มูล่าวัน ยังเหลืออีก 1 สนามก่อนจะถึงช่วงซัมเมอร์เบรก ในสัปดาห์หน้าจะไปต่อกันที่ฮังการี กับสนามฮังกาโรริง ที่นี่เมื่อ 1 ปีก่อน มาสซ่าต้องพักยาวหลังประสบอุบัติเหตุในรอบควอลิฟายเมื่อชิ้นส่วนจากรถบรอว์นของรูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ เพื่อนสนิท ลอยมาโดนศีรษะเขาอย่างจังจนกระโหลกร้าว แฟนๆ ตามให้กำลังใจมาสซ่ากันได้ รวมทั้งคอยดูกันว่าเฟอร์รารี่จะยังเร็วอยู่หรือไม่ เร้ดบูลจะเอาอยู่หรือเปล่า และแม็คลาเรนจะปรับปรุงรถอย่างไรเพื่อคืนฟอร์ม ต้องติดตามกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ล่ะค่ะ




*ข้อมูลจาก formula1.com / autosport.com/f1 / motogp.com
ภาพจาก formel1.de / motogp.com / sebastian-vettel.org

Create Date : 26 กรกฎาคม 2553
Last Update : 27 กรกฎาคม 2553 10:46:19 น.		13 comments
Counter : 1361 Pageviews.
Share Tweet