Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 
12 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
ดาวเด่น Test # 1 และการทดสอบยางใหม่

การทดสอบรถฟอร์มูล่าวันก่อนเปิดฤดูกาลครั้งแรกทั้ง 4 วันที่ผ่านมา ณ สนามเฆเรซ ประเทศสเปน เราได้รับรู้กันอยู่แล้วนะคะว่าไม่สามารถวัดอะไรจากเวลาที่แต่ละคันทำไว้ได้ แต่ละทีมมุ่งเน้นไปที่การทดสอบระบบ ทดลองการเซ็ตรถในหลายๆ รูปแบบ และทำความรู้จักนิสัยของรถให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะรถของปีนี้หน้าตาเปลี่ยนไปอันเนื่องจากกฎที่บังคับให้ลดความสูงของจมูกรถและปรับตำแหน่งท่อไอเสียให้ขึ้นสูงเพื่อไม่ให้ใช้ประโยช์ของไอเสียในทางอากาศพลศาสตร์ได้ นักขับเองก็ต้องมีการปรับตัวให้คุ้นชินกับความรู้สึกใหม่ในการขับขี่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ความประทับใจแรกของคนเราก็ย่อมมีค่ะ เมื่อดูจากความสม่ำเสมอของเวลาที่นักขับของทีมนั้นๆ ทำได้และความคงเส้นคงวา (reliability) ของรถตลอดตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา หลายคนในแพ็ดด็อกยกให้ "E20" ของโลตัสน่าสนใจที่สุด

หากตัดความสนใจในการกลับมาของคิมี่ ไรค์โคเน่น ของบรรดาผู้สื่อข่าวแล้ว เหล่านักขับกำลังจับตามองรถของโลตัสอยู่นะคะ ลูอิส แฮมิลตัน กล่าวว่า "รถโลตัสน่าประทับใจทีเดียว" ในขณะที่เซบาสเตียน เวทเทล ก็ให้ข้อสังเกตว่า "นับถึงตอนนี้พวกเขาดูเร็วกว่าและดูสม่ำเสมอมากกว่า ที่น่าสงสัยกลับเป็นพวกเรา เฟอร์รารี่ แล้วก็แม็คลาเรน"





รถโลตัสสร้างความประทับใจแรกที่เฆเรซ




นิโค ฮูลเคนเบิร์ก ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อในเยอรมันว่า "E20 เหมือนเป็นจรวดมิสไซล์ที่เกาะถนนได้ดีเหลือเชื่อ" ส่วนมาร์ก เว็บเบอร์ ก็ให้ความสนใจเช่นกัน โดยในตอนแรกเขาไม่รู้ว่าเวลาที่ดีที่สุดของโรแมง โกรส์ฌอง จากการทดสอบครั้งนี้ (ราว 1:18.4) รถโลตัสใช้ยางอะไร ต่อเมื่อได้คำตอบว่าเป็นยางมีเดียม เขากล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นเวลาที่ดีมาก ซึ่งถ้าโกรส์ฌองทำเวลาได้อย่างนี้ เราก็ต้องมาจับตาดูคิมี่ (ไรค์โคเน่น) กันหละ" รวมไปถึงเกเก้ รอสเบิร์ก แชมป์โลกปี 1982 ที่มาชมการทดสอบก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า "ในตอนนี้มีเร้ดบูลและโลตัสที่น่าประทับใจที่สุด"

ฟังคนอื่นพูดแล้ว มาลองฟังทีมบอสและนักขับโลตัสกันบ้างนะคะ เอริก บูลลิเยร์ นับว่ารถของตนดูไปได้ดีในการลองวิ่งครั้งแรก แต่ยังคาดเดาอะไรจากรถไม่ได้เลยจริงๆ และกว่าจะถึงสนามแรกที่เมลเบิร์น รถจะต้องเปลี่ยนไปอีกมาก ส่วนโกรส์ฌองก็พอใจรถของตนมาก เขากล่าวว่ารถดูขับง่ายแล้วก็ควบคุมได้ดี โดยเฉพาะการเข้าโค้งความเร็วสูง และถ้าหากเหยียบมากเกินไปก็ยังเอารถอยู่

สรุปอันดับเวลาต่อรอบเร็วที่สุดตลอดการทดสอบ 4 วัน

1. Nici Rosberg (Mercedes) 1m17.613s (174 laps)
2. Romain Grosjean (Lotus) 1m18.419s / +0.806 (212)
3. Michael Schumacher (Mercedes) 1m18.561s / +0.948 (174)
4. Fernando Alonso (Ferrari) 1m18.877s / +1.264 (106)
5. Mark Webber (Red Bull) 1m19.184s / +1.571 (151)
6. Sebastian Vettel (Red Bull) 1m19.297s / +1.684 (146)
7. Lewis Hamilton (McLaren) 1m19.464s / +1.851 (166)
8. Daniel Ricciardo (Toro Rosso) 1m19.587s / +1.974 (157)
9. Jean-Eric Vergne (Toro Rosso) 1m19.597s / +1.984 (159)
10. Kimi Raikkonen (Lotus) 1m19.670s / +2.057 (192)
11. Sergio Perez (Sauber) 1m19.770s / +2.157 (116)
12. Paul Di Resta (Force India) 1m19.772s / +2.159 (170)
13. Kamui Kobayashi (Sauber) 1m19.834s / +2.221 (182)
14. Nico Hulkenberg (Force India) 1m19.977s / +2.364 (90)
15. Bruno Senna (Williams) 1m20.132s / +2.519 (250)
16. Jules Bianchi (Force India) 1m20.221s / +2.608 (46)
17. Felipe Massa (Ferrari) 1m20.454s / +2.841 (164)
18. Jenson Button (McLaren) 1m20.688s / +3.075 (147)
19. Pastor Maldonado (Williams) 1m21.197s / +3.584 (122)
20. Heikki Kovalainen (Caterham) 1m21.518s / +3.905 (167)
21. Pedro De la Rosa (HRT) 1m22.128s / +4.515 (108)
22. Jarno Trulli (Caterham) 1m22.198s / +4.585 (117)
23. Giedo Van der Garde (Caterham) 1m23.324s / +5.711 (74)


******************************************


หมดยางแค่ไหนใน 4 วันแรก?

จากเรื่องรถก็มาเรื่องยางกันต่อนะคะ ในการทดสอบที่เฆเรซครั้งแรกนี้ ปิเรลลี่เตรียมยางใหม่มาให้ทดลองใช้รวมแล้ว 1,176 เส้นหรือ 294 ชุด ซึ่งนักขับที่เข้าร่วมการทดสอบมีทั้งหมด 23 คน ลงขับรวมกันแล้วได้ระยะทาง 14,949 กิโลเมตรค่ะ

สำหรับการใช้ยางตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา นักขับใช้ยางมีเดียมเป็นจำนวนมากที่สุด คือวิ่งด้วยยางชนิดนี้เป็นระยะทางรวม 1,776 รอบ ใช้ยางไป 91 ชุด รองลงมาได้แก่ ยางซอฟต์สีเหลือง 1,010 รอบ ใช้ยาง 57 ชุด และยางฮาร์ดสีเงิน 594 รอบ ใช้ยาง 33 ชุด

พอล เฮมเบรี่ ผู้อำนวยการด้านมอเตอร์สปอร์ตของปิเรลลี่กล่าวว่า "ประสิทธิภาพของยางเป็นไปตามที่คาดไว้ เราได้รับเสียงตอบรับในแง่บวกจากทั้งนักขับและทีม ซึ่งพวกเขาชมว่ายางช่วยให้ส่วนท้ายของรถเกาะถนนขึ้น มีเศษยางน้อยลง และความแตกต่างระหว่างเวลาต่อรอบของยางประเภทต่างๆ ยังลดลงด้วย โดยรวมแล้วยางมีประสิทธิภาพดีขึ้น ในส่วนของเราก็พอใจกับเรื่องความเสื่อมของยางซึ่งไม่มีประเด็นอะไร อย่างไรก็ตาม จากการที่อุณหภูมิที่เฆเรซต่ำมากและทีมให้ความสนใจไปที่งานด้านอื่นมากกว่าเรื่องยาง จึงยังเร็วเกินไปที่จะได้ข้อมูลสรุป ในการทดสอบครั้งต่อไปที่บาร์เซโลน่า เราจะได้เห็นพัฒนาการของยางมากขึ้น ซึ่งทางเราเข้าใจกฎของปีล่าสุดอย่างชัดเจน ก็จะได้ร่วมพัฒนาไปพร้อมกันกับทีม ทั้งนี้ การที่ยางสำหรับแทร็คแห้งทั้ง 3 ชนิดของเราต่างทำเวลาเร็วที่สุดได้ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าเรากำลังจะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้"

ประโยคสุดท้ายของผู้อำนวยการด้านมอเตอร์สปอร์ตของปิเรลลี่หมายถึงผลงานข้างล่างนี้ค่ะ

วันที่ 1
1. คิมี่ ไรค์โคเน่น 1:19.670 (ยางมีเดียม)
2. พอล ดิ เรสต้า 1:19.772 (ยางมีเดียม)
3. นิโค รอสเบิร์ก 1:20.219 (ยางซอฟต์)

วันที่ 2
1. มิชาเอล ชูมัคเกอร์ 1:18.561 (ยางฮาร์ด)
2. มาร์ก เว็บเบอร์ 1:19.184 (ยางซอฟต์)
3. แดเนียล ริคเคียร์โด้ 1:19.587 (ยางซอฟต์)

วันที่ 3
1. นิโค รอสเบิร์ก 1:17.631 (ยางซอฟต์)
2. โรแมง โกรส์ฌอง 1:18.419 (ยางมีเดียม)
3. เซบาสเตียน เวทเทล 1:19.297 (ยางซอฟต์)

วันที่ 4
1. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ 1:18.877 (ยางซอฟต์)
2. ฌอง-เอริก แวนญ์ 1:19.597 (ยางซอฟต์)
3. เซบาสเตียน เวทเทล 1:19.606 (ยางมีเดียม)





รถโตโร รอสโซ กับยางมีเดียมสีขาว




ยังมีข้อมูลตัวเลขอื่นๆ จากการทดสอบยางที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ

- จากการทดสอบวันแรก ความแตกต่างของเวลาต่อรอบระหว่างยางมีเดียมกับยางฮาร์ดอยู่ที่ 0.4-0.5 วินาที โดยยางเกาะถนนมากขึ้นและเสื่อมน้อยลง โดยเฉพาะยางหลัง

- เวลาต่อรอบที่ดีที่สุดที่นักขับทำได้ในแต่ละวันของการทดสอบทั้ง 4 วันแซงหน้าเวลาที่ดีที่สุดของการทดสอบที่เฆเรซครั้งสุดท้ายในปีที่แล้วไปอย่างสบายๆ ซึ่งรูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ ของวิลเลียมส์เป็นผู้ทำไว้ 1:19.832

- ปิเรลลี่เตรียมยางมาที่เฆเรซทั้งหมด 294 ชุดหรือ 1,176 เส้น แบ่งเป็น
1) ยางซอฟต์ 71 ชุด
2) ยางมีเดียม 105 ชุด
3) ยางฮาร์ด 43 ชุด
4) ยางอินเตอร์มีเดียต (สำหรับแทร็คกึ่งเปียกกึ่งแห้ง) 38 ชุด
5) ยางเว็ท (สำหรับแทร็คเปียก) 37 ชุด

- ทีมต่างๆ ใช้ยางในการทดสอบรวมกัน 181 ชุด แบ่งเป็น
1) ยางซอฟต์ 57 ชุด
2) ยางมีเดียม 91 ชุด
3) ยางฮาร์ด 33 ชุด
*ไม่ได้ใช้ยางอินเตอร์มีเดียตและยางเว็ท

- จำนวนรอบที่ยางชนิดต่างๆ วิ่งได้มากที่สุด
1) ยางฮาร์ด 26 รอบ
2) ยางมีเดียม 27 รอบ
3) ยางซอฟต์ 20 รอบ

- อุณหภูมิสูงสุด / ต่ำสุดที่เฆเรซตลอด 4 วัน ได้แก่ 20 / -2 องศาเซลเซียส

- อุณหภูมิสูงสุด / ต่ำสุดของแทร็คตลอด 4 วัน ได้แก่ 26 / 0 องศาเซลเซียส






*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ nextgen-auto.com
ภาพจาก nextgen-auto.com


Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2555 12:10:23 น. 15 comments
Counter : 1340 Pageviews.

 
ต้องดูอีกที ว่ายางในอุณหภูมิจริง จะสึกเร็วกว่านี้แค่ไหน


โดย: runtaro IP: 125.25.236.11 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:12:19 น.  

 
รถที่ทำเวลาได้เร็วสุดเป็นรถตกปี. คงต้องดูว่า ถ้าใหม่กันหมดจะเป็นอย่างไร

แต่น่าสนใจว่า ยาง hard กับ soft ในรถ mb. เวลาต่างกันไม่มากเท่าที่ผ่านมา. ท่าทางยางจะเปี่ยนไปมาก.

ดังนั้นแผนการบริหารยางระหว่าการแข่งคงพลิกไปเยอะ


โดย: saraph IP: 58.8.231.35 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:56:45 น.  

 
อย่างที่เนื้อข่าวบอกไว้เลย ปิเรลลี่พยายามลดความแตกต่างน่ะค่ะ


โดย: finishline วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:00:53 น.  

 
เอ้? ทำไมยาง hard ทำไมวิ่งได้น้อยรอบจังครับ
หรือว่าเพราะยางมันไม่เกาะถนน นักขับเลยบดยาง แล้วยางก็หมดเร็ว


โดย: W IP: 58.10.171.228 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:42:18 น.  

 
@คุณ W

คำตอบคือ...คนแปลแปลสลับกันค่ะ 555

ให้อภัยด้วยนะคะทุกท่าน แบบว่าข้อมูลมันเยอะ - -"

เดี๋ยวแก้เลยค่ะ อิอิ


โดย: finishline วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:09:09 น.  

 
เอาล่ะค่ะ แก้แล้วววว

ขอบคุณคุณ W มากเลยค่ะที่ท้วงมา อย่างนี้ดีแล้วล่ะค่ะ ช่วย จขบ. ตรวจสอบข้อมูลที่ปล่อยออกไป


โดย: finishline วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:13:39 น.  

 
555 ครับ
แค่สงสัยเฉยๆคับ
ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับสำหรับข่าวสาร ติดตามมาตลอดนะ อย่างน้อยก็เป็นเวปแรกที่เปิดอะคับ ^ ^


โดย: W IP: 58.10.171.228 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:02:19 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข่าวครับ


โดย: Dead Man IP: 118.173.144.17 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:31:43 น.  

 
ยาง mid กับ hard เริ่มไม่ต่างกันมากแล้ว วัดกันที่กลยุทธ์ของแต่ละทีม

ขอบคุณสำหรับข่าวสารครับ


โดย: atomixza วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:38:42 น.  

 
"ปิเรลลี่เตรียมยางมาที่เฆเรซทั้งหมด 294 ชุดหรือ 1,176 เส้น"

อยากรู้ทาง "ปิเรลลี่" ต้องใช้รถบรรทุกกี่คันในการขนส่ง
และน้ำหนักงานรวมกันทั้งหมดกี่ตัน ?

มันเป็นอะไรที่มหาศาลมาก กับรถแค่ 23 คัน


โดย: เกลียดแดง IP: 202.122.130.31 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:08:44 น.  

 
กำลังคิดเหมือนคุณเกลียดแดงในคห.บนเลยค่ะ
ดูเป็นอะไรที่ล้างผลาญมาก


โดย: Panaya11 IP: 124.121.213.189 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:18:40 น.  

 
ขอบคุณคุณผู้อ่านที่แสนน่ารักด้วยนะคะ บล็อกมาช้าหน่อยนะคะ อาทิตย์นี้ จขบ. ธุรกิจรัดตัวจริงๆ แถมต่อมทอนซิลบวม โดนไข้หวัดเล่นงานซะหง่อมเลย

@คุณเกลียดแดง / คุณ Panaya11

ยังไม่เจอรายงานในเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ ถ้าอ่านเจอแล้วจะนำมาฝากนะคะ นี่แหละ กีฬานี้ถึงมีมูลค่าสูงนัก แล้วก็มาบวกกับบัตรเข้าชมให้เราๆ นี่แหละ


โดย: finishline วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:55:14 น.  

 
แต่ก็ทำให้เราได้เทคโนโลยีใหม่ๆมาประยุกต์ใช้กับรถบนท้องถนนนะคร้าบบบ


โดย: พัฒน์ IP: 223.206.78.209 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:02:04 น.  

 
เจ้าของบ้านหายป่วยไวไวนะครับ ดูแลสุขภาพด้วย อีก 30 วันการแข่งสนามแรกจะเริ่มแล้ว อยากให้ถึงไวไวจัง


โดย: kazamakung IP: 110.171.148.209 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:25:12 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะคุณ kazamakung เจ้าของบ้านกำลังพยายามกำจัดมันไปค่ะ เพิ่งจะอวดกับแม่ไปเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่าเราไม่เป็นหวัดมาตั้งนานแล้ว 555

ไม่น่าเล้ยเรา!!


โดย: finishline วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:34:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.