Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
รีวิวผลงาน 12 ทีม F1 ปี 2012

อย่างที่พูดถึงเสมอว่าฟอร์มูล่าวันปี 2012 ตื่นเต้นเร้าใจตั้งแต่ต้นจนจบครบ 20 สนามจริงๆ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่นักขับและทีมงาน แต่คนดูก็ลุ้นกันตัวโก่งจนวินาทีสุดท้ายพอๆ กับคนที่เกี่ยวข้องในสนาม ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเราต้องยกเครดิตให้ทั้ง 12 ทีมสำหรับ "โชว์" ที่ดีที่สุดปีหนึ่ง

คนเขียนได้อ่านบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งของเว็บไซต์ espnf1.com จึงขอนำมาฝากคุณผู้อ่าน โดยเป็นการสรุปรวมผลงานของทุกทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา ใครเป็นดาวเด่น ใครเป็นดาวดับ เชิญรับชม (อ่าน) ได้เลยค่ะ...


เร้ดบูล: ทีมยอดเยี่ยมประจำปี 2012

เร้ดบูลเป็นกรณีศึกษาที่ดีสำหรับการจัดการทีมฟอร์มูล่าวันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงกฎการแข่งขันขนานใหญ่ในปี 2009 ทีมจากออสเตรียก็เป็นทีมที่ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าและทำได้อย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ประเภททีมและประเภทนักขับสามปีซ้อน คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกล่าวว่าเอเดรียน นิวอี้ ดีไซเนอร์ของทีมมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเล่นกับกฎด้านเทคนิคจนถึงขีดสุด ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้คู่แข่งต้องเจองานหนัก หากแต่ผู้คุมกฎอย่างเอฟไอเอต้องไล่ตามการตีความของเร้ดบูลอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม งานของพวกในปีนี้ไม่ง่ายเลย ผลจากการห้ามโบลว์นดิฟฟิวเซอร์ซึ่งเป็นจุดแข็งทำให้ RB8 ติดขัดอยู่ตลอดครึ่งฤดูกาลแรก แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งฤดูกาลหลัง นิวอี้และทีมงานค้นพบการแก้ปัญหากับบริเวณท้ายรถที่สูญเสียความได้เปรียบไปและนี่เองเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้พวกเขาพลิกกลับมาคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ในส่วนของคริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอสก็ต้องคอยรับมือกับการไขข้อสงสัยและประเด็นสำคัญๆ จากทีมคู่แข่งเป็นระยะ โดยเฉพาะในเรื่องกฎการควบคุมค่าใช้จ่าย จึงกล่าวได้ว่าผลจากความเป็นผู้นำด้านเทคนิคของนิวอี้และการฟันฝ่าอุปสรรคของฮอร์เนอร์ได้นำความสำเร็จสูงสุดมาสู่เร้ดบูลในวันนี้


เฟอร์รารี่: ทีมที่กลับมาได้ยอดเยี่ยมที่สุด

ไม่ต้องพูดกันมากว่า F2012 มีสมรรถนะย่ำแย่แค่ไหน แต่พวกเขาก็แก้ไขได้ทันท่วงทีเมื่อลงแข่งขันหลังจากในการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลต้องตามหลังเร้ดบูลอยู่ถึง 2 วินาที บริเวณท่อไอเสียคือปัญหาใหญ่ที่สุดและยังมีจุดอื่นๆ ที่เป็นปัญหาอีกมาก ที่เด่นชัดที่สุดคือผลการทดสอบรถจากอุโมงค์ลมกับในแทร็คมักไม่ตรงกัน หากจะยกเครดิตทั้งหมดให้กับเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ที่สามารถพารถลุ้นสามอันดับแรกได้ตลอดสัปดาห์การแข่งขันคงไม่ยุติธรรมกับทีมงานเฟอร์รารี่นัก แม้รถจะไม่เอื้อนัก แต่การวางแผนกลยุทธ์ของทีมแทบจะสมบูรณ์แบบไปทุกสนาม (ยกเว้นในสนามแคนาดาที่ไม่ยอมเรียกอลอนโซ่เข้าพิตไปเปลี่ยนยางจนทำให้เขาตกจากอันดับที่ 1 ลงมาเป็น 5 ในหกรอบสุดท้าย) รวมไปถึงสมรรถนะของรถที่แน่นอนกว่าใคร ครั้งเดียวที่พวกเขามีปัญหากับรถจริงๆ คือระบบกันสะเทือนของรถอลอนโซ่เสียหายที่มอนซ่าในรอบควอลิฟาย แต่ด้วยความพยายามในการฟื้นตัว ทำให้พวกเขาจบการแข่งขันในอันดับที่ 3 หลังออกตัวจากกริดที่ 10

หากมองย้อนไปในการทดสอบรถเมื่อเดือนมีนาคม แม็คลาเรนมีความเร็วเหนือกว่าเฟอร์รารี่ทั้งในการวิ่งระยะสั้นและระยะยาว แต่การที่เฟอร์รารี่ได้อันดับที่ 2 ในคะแนนสะสมประเภททีมแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการก้าวไกลของพวกเขาในช่วงระยะเวลา 8 เดือน


แม็คลาเรน: ทีมที่ผิดหวังที่สุด

ความล้มเหลวของแม็คลาเรนที่มักพูดถึงในฤดูกาลหลังๆ คือไม่สามารถเริ่มต้นปีได้ด้วยรถที่เร็วที่สุด แต่ในที่สุด ปี 2012 พวกเขาทำได้แล้วด้วยการล็อกกริดแถวหน้าและจบการแข่งขันอันดับที่ 1 และ 3 ที่เมลเบิร์น (ซึ่งน่าจะจบด้วยผล 1-2 หากไม่มีเซฟตี้คาร์ออกมา) รวมไปถึงผลงานควอลิฟายที่มาเลเซีย อย่างไรก็ตาม กว่าจะได้อย่างที่ควรได้ พวกเขาต้องรอถึงชัยชนะที่แคนาดาจากลูอิส แฮมิลตัน

ทั้งช่วงเวลาระหว่างนั้น หรือกระทั่งหลังจากนั้น แม็คลาเรนต้องประสบปัญหากับประสิทธิภาพของรถที่แสดงออกมาได้ไม่เต็มที่และความผิดพลาดในการเข้าพิตหลายครั้ง ยังดีที่พวกเขาได้ชัยชนะสองสนามติดจากเบลเยียมและอิตาลี ซึ่งทำให้รู้ว่ารถมีดีอยู่ในตัว เพียงแต่ยังปลดล็อกอะไรบางอย่างไม่ได้ ต่อมาเมื่อทีมงานเริ่มเข้าใจเจ้า MP4-27 มากขึ้น ปัญหาความไม่แน่นอนกลับตามมา แฮมิลตันน่าชนะที่สิงคโปร์และอาบูดาบี และน่าจะได้คะแนนมากกว่านี้จากญี่ปุ่นและเกาหลี บางทีอาจเป็นเพราะสไตล์การขับที่ดุดันของแฮมิลตันอาจส่งผลกับรถมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเจนสัน บัตตัน เพื่อนร่วมทีม ถ้าหากรถไม่เปราะไปเสียก่อน ไม่แน่ว่าเขาอาจร่วมลุ้นแชมป์ที่บราซิลด้วยก็ได้

เร้ดบูลอาจแข็งแกร่งมาก แต่แม็คลาเรนก็ควรอยู่เหนือเฟอร์รารี่ได้สบายๆ ทั้งที่มีรถที่เร็วที่สุด พวกเขาก็ยังประสบปัญหาเดิมๆ ที่ทำให้ไม่ได้แชมป์ประเภททีมมายาวนานถึง 14 ปีแล้ว


โลตัส: ฟื้นคืนสนาม

ทีมวิศวกรของโลตัสอาจแปลกใจเล็กๆ ที่รถ E20 ของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพระหว่างการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล แต่ที่จริงไม่มีใครจะรู้ว่ารถของตนเองดีแค่ไหนจนกว่าจะได้ลงแข่งจริงในสนามแรก และถึงแม้ว่าทีมต้องถอนตัวจากการทดสอบช่วงที่ 2 เนื่องจากระบบกันสะเทือนมีปัญหา แต่ก็เห็นได้ว่าโลตัสคันนี้เร็วจริงๆ ช่วงครึ่งฤดูกาลแรกพวกเขาทำได้ตามนั้นในการเกาะติดความเร็วของรถทีมหัวแถว และก่อนจะหยุดพักครึ่งฤดูกาล หลายคนก็ยังเชื่อมั่นว่าคิมี่ ไรค์โคเน่น ผู้ที่เกือบได้ชัยชนะในบาห์เรนและฮังการีจะสามารถลุ้นเป็นแชมป์โลกได้ แต่เมื่อกลับเข้าสู่การแข่งขันที่สปา เป็นที่ชัดเจนว่า "บิ๊กทรี" เร้ดบูล แม็คลาเรน และเฟอร์รารี่เริ่มสำแดงฤทธิ์เดชมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ยิ่งเป็นงานยากขึ้นไปอีกสำหรับโลตัส

รถของพวกเขานั้นเร็วพอในการแข่งขัน แต่สำหรับรอบควอลิฟายมักทำได้เพียงระดับกลางโดยเฉพาะไรค์โคเน่น ขณะที่โรแมง โกรส์ฌอง ก็มีอุบัติเหตุมากมาย ความเร็วที่ดีของรถจึงสูญเปล่าไป อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันที่อาบูดาบีทุกอย่างมาพร้อม ไรค์โคเน่นควอลิฟายได้ดี รถแม็คลาเรนของลูอิส แฮมิลตัน ออกจากการแข่งขัน และโลตัสก็ได้ชัยชนะที่สมควรได้รับจริงๆ

มีข้อสงสัยเล็กน้อยว่าหากรถควอลิฟายขึ้นสูงได้ถึงแถวหน้าบ่อยกว่านี้ (ซึ่งที่จริงในปีนี้ไรค์โคเน่นไม่เคยควอลิฟายได้แถวหน้าเลยสักครั้ง) การชิงชัยคงลุ้นได้มากกว่านี้ นั่นเป็นเพราะความต่างเพียงเศษเสี้ยวเดียวของวินาทีก็มีความสำคัญมากในปี 2012 ถึงกระนั้นยังถือได้ว่าเป็นการกลับสู่ฟอร์มของโลตัสและพร้อมเป็นตัวเก็งในปี 2013 อย่างแน่นอน









เมอร์เซเดส: ไปได้ไม่ถึงฝัน

จากปากของเมอร์เซเดสเอง พวกเขายอมรับว่าปี 2012 เป็นอีกปีหนึ่งที่น่าผิดหวัง แม้จะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นจากการได้ชัยชนะแรกนับตั้งแต่กลับสู่ฟอร์มูล่าวันในฤดูกาล 2010 ในฐานะทีมผู้ผลิต แต่ผลงานที่รูดลงช่วงครึ่งฤดูกาลหลังก็ไม่สามารถนำชัยชนะนั้นมาชดเชยได้

ในสนามแรกๆ W03 ดูเป็นรถที่ใช้ได้ทีเดียว แต่ปัญหาที่แก้ไม่ตกคือเรื่องการใช้ยาง ซึ่งส่งผลให้ 2 สนามแรกมีผลงานน่าผิดหวังอย่างยิ่ง ต่อมาที่เซี่ยงไฮ้ พวกเขาทำสำเร็จเมื่อนิโค รอสเบิร์ก ได้ทั้งตำแหน่งโพลและชัยชนะแบบสบายๆ แต่นับจากวันนั้นเมอร์เซเดสไม่เคยทำได้อีกเลย โดยยิ่งหลังจากโมนาโก กรังด์ปรีซ์ ซึ่งพวกเขาน่าจะชนะ ผลงานยิ่งดำดิ่งลงไปจากการที่ท้ายรถขาดดาวน์ฟอร์ซและรถก็กินยางอย่างมาก ในขณะที่คู่แข่งเริ่มทดลองท่อไอเสียแบบควานด้า (Coanda) เพื่อให้ท้ายรถเกาะถนนมากขึ้น พวกเขากลับประสบปัญหากับระบบของตนเอง และแม้ในเวลาต่อมามีการปรับปรุงอุโมงค์ลม แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ เลย เหมือนพวกเขายังพายเรือวนอยู่ในอ่าง แต่คู่แข่งกำลังก้าวไปข้างหน้ามากแล้ว

เมื่อมีการประกาศว่าลูอิส แฮมิลตัน จะมาร่วมทีมในปี 2013 ความสนใจของทีมงานก็ก้าวข้ามไปสู่รถของปีหน้าทันที โดยที่โครงการของปี 2012 ถูกเก็บไปให้ถือเป็นปีแห่งการเรียนรู้อีกปีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวควรออกผลให้เร็วที่สุดหลังจากจบปีนี้ด้วยการเป็นทีมอันดับที่ 5 ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ทีมหวังไว้


เซาเบอร์: ทีมสุดเซอร์ไพรส์

ตั้งแต่ช่วงแรกของการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลเห็นได้ชัดว่าเซาเบอร์เป็นรถที่เร็วคันหนึ่ง แต่มีอยู่ 2 ปัจจัยที่ยังทำให้ทีมยิ้มได้ไม่เต็มที่ ปัจจัยแรกคือพวกเขายังขาดสปอนเซอร์หลัก คล้ายๆ กับเมื่อตอนปี 2011 ที่ทีมไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุน ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งคือเจมส์ คีย์ ผู้ออกแบบรถ C31 ออกจากทีมไปก่อนเปิดฤดูกาล ซึ่งถ้าหากรถคันนี้เร็วจริง เซาเบอร์จะรักษาให้เร็วแบบนี้ต่อไปอย่างไร?

ที่เมลเบิร์นอาจยังไม่เห็นอะไร แต่ที่มาเลเซียนั้นเห็นได้แน่นอน เซอร์จิโอ เปเรซ เกือบทำสำเร็จแม้สุดท้ายต้องเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ตามหลังเฟอร์นันโด อลอนโซ่ โดยในสัปดาห์นั้นรถเซาเบอร์เป็นรถที่เร็วที่สุด แต่กุญแจไขความสำเร็จสนามนั้นคือการไปได้ดีกับยางปิเรลลี่ เมื่อรถขับง่ายและเป็นมิตรกับยาง ความเร็วของรถก็มีให้ใช้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้น เปเรซยังได้โพเดียมที่แคนาดาและอิตาลี โดยเฉพาะสนามหลังเป็นอีกครั้งที่เขาเกือบชนะ รวมถึงผลงานของคามูอิ โคบายาชิ ที่คว้าโพเดียมอันดับที่ 3 ในสนามบ้านเกิด ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเพราะรถเซาเบอร์ทำได้จริง และถ้าจะพูดไปควรทำได้มากกว่าการจบบนโพเดียม 4 ครั้งด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นอาจเป็นความคิดที่อยู่เบื้องหลังการหานักขับมาแทนโคบายาชิ


สำหรับผลงานสรุปของอีก 6 ทีมที่เหลือมีดังนี้ค่ะ

ฟอร์ซอินเดีย

ยังคงดำเนินวิธีการแบบเดิมด้วยการเริ่มจากรถที่มีพื้นฐานดีและค่อยๆ พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นระหว่างฤดูกาล นิโค ฮูลเคนเบิร์ก เกือบทำให้ทีมได้ชัยชนะครั้งแรกในบราซิล และตัวเขาก็ย้ายไปอยู่กับเซาเบอร์ในปีหน้า อย่างไรก็ตาม พอล ดิ เรสต้า จะได้ขับสบายขึ้นหลังมีการปรับปรุงตัวถังซึ่งทำให้นักขับสก็อตประสบปัญหามากในสนามท้ายๆ


วิลเลียมส์

กลับคืนฟอร์มอีกครั้ง โดยเฉพาะการได้กลับคืนสู่โพเดียมสูงสุดจากชัยชนะที่สเปน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลจากการปรับปรุงทีมงานด้านเทคนิค แต่หลายครั้งเกินไปที่นักขับของพวกเขาปล่อยโอกาสดีๆ ที่จะนำรถเข้าเส้นชัยในอันดับที่ดีกว่านี้


โตโร รอสโซ

ถึงจะได้นักขับหน้าใหม่ไฟแรง แต่ความที่รถขาดความเร็วอย่างต่อเนื่องทำให้ทั้งสองคนหมดโอกาสแสดงฝีมือ นักขับชุดเดิมจึงสมควรได้รับโอกาสเป็นปีที่สอง และเมื่อรวมกับการเข้ามาของเจมส์ คีย์ ทีมจึงน่าจะทำได้ดีขึ้นในปีหน้า


แคเทอร์แฮม

อันดับที่ 11 ของวิทาลี เปตรอฟ จากบราซิลเป็นสิ่งที่ถือว่าอยู่ระหว่างความเป็นฤดูกาลที่ปานกลางกับย่ำแย่สำหรับแคเทอร์แฮม พวกเขาอาจไม่บรรลุเป้าหมายในการเก็บแต้ม แต่การได้ย้ายบ้านใหม่ไปอยู่ที่ลีฟิลด์ก็อาจกล่าวได้ว่าปี 2012 เป็นปีของการโยกย้ายปรับตัว


มารุสเซีย

เกือบจะคว้าอันดับที่ 10 ในคะแนนสะสมประเภททีมมาครองได้แต่ก็พลาดไปในนาทีสุดท้าย ด้วยความคงเส้นคงวาของทิโม กล็อค และการพัฒนาระบบ KERS ในปี 2013 เราก็น่าจะได้เห็นการขับเคี่ยวระหว่างพวกเขากับแคเทอร์แฮมอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อชาร์ลส์ พิค อดีตนักขับของตนย้ายไปร่วมทีมแคเทอร์แฮมในปีหน้า


เอชอาร์ที

รถทั้งสองคันไม่สามารถผ่านรอบควอลิฟายได้ในสนามแรก แต่เมื่อนับทรัพยากรที่มี ความพยายามของพวกเขาตลอดทั้งปีก็ถือว่าทำได้ไม่เลว เมื่อจบฤดูกาลเป็นที่แน่นอนว่าอนาคตของทีมไม่สดใสเสียแล้วและกลายเป็นว่าการแข่งขันนั้นเพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าจะพัฒนาตน การที่ทีมไม่สามารถลงแข่งต่อไปในปี 2013 อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นสัญญาณที่น่ากังวลของฟอร์มูล่าวันที่ขนาดกริดต้องสั้นลงอีกครั้ง












*ข้อมูลจาก espnf1.com


Create Date : 29 ธันวาคม 2555
Last Update : 29 ธันวาคม 2555 22:28:59 น. 7 comments
Counter : 1630 Pageviews.

 
สัวสดีปีใหม่ครับ จขกท และทุกคน ขอให้ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาครับ

ขอคุณมากนะครับสำหรับข่าว F1 และขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะครับ (^^))


โดย: W IP: 124.120.56.49 วันที่: 30 ธันวาคม 2555 เวลา:7:24:07 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะคุณ W

ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงนะคะ


โดย: finishline วันที่: 30 ธันวาคม 2555 เวลา:21:53:41 น.  

 
สุขสันต์วันปีใหม่พี่ๆทุกคน
ขอให้พี่ๆทุกคนมีปีที่ดีนะคะ :D


โดย: แฮมเทล IP: 124.122.130.243 วันที่: 30 ธันวาคม 2555 เวลา:22:49:59 น.  

 
ขอบคุณสำหรับบทความครับ

สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง คิดสิ่งใดก็สมความปรารถนานะครับ^^


โดย: Valiant IP: 124.122.18.89 วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:11:03:40 น.  

 
เห็นเรื่องลุงเบอร์นี่รึยังครับ

//www.autosport.com/news/report.php/id/104955




โดย: worapoth@hotmail.com IP: 223.206.40.254 วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:14:35:01 น.  

 
ขอบคุณคุณแฮมเทลและคุณ Valiant ด้วยค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ เช่นกันค่า ^^

@คุณ worapoth

ขอบคุณค่ะ เห็นแล้วล่ะค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านก็คือเรื่องที่ลุงแกมีเอี่ยวกรณีมีนอกมีในกับนายธนาคารชาวเยอรมันตอนขายหุ้นปี 2005 ตอนนี้นายธนาคารคนนั้นโดนตัดสินจำคุก 8 ปีไปแล้ว ก็รอลุ้นตัวลุงเบอร์นี่เองนี่ล่ะค่ะว่าจะยังไงต่อไป


โดย: finishline วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:18:22:33 น.  

 
ขอบคุณหลายค้าบบ


โดย: runtaro IP: 125.25.47.116 วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:19:13:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.