Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 
27 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Singapore Grand Prix: One Night Only!

เมื่อคืนเราว่าเป็นสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ที่สนุกสนานเร้าใจมากที่สุดในบรรดาที่แข่งกันมา 3 ปีเลยค่ะ อาจเป็นเพราะ 5 คนที่ลุ้นแชมป์โลกต่างมีเรื่องของตนเองกันไป และใน 5 คนนั้น ลูอิส แฮมิลตัน คงเป็นคนที่ช้ำใจที่สุด...

เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) - อันดับที่ 1 / 1:57:53.579
เป็นผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด 1:47.976 (รอบที่ 58)
คะแนนสะสม - อันดับที่ 2 - 191 คะแนน

อลอนโซ่มาแบบม้วนเดียวจบ จริงๆ แล้วจะเสียนิดเดียวก็ตอนสตาร์ทซึ่งออกช้าไปนิดหนึ่งได้ก็ยังอาศัยจังหวะรถที่พุ่งได้ดีกว่ารถเร้ดบูลของเซบาสเตียน เวทเทล ทำให้ยังป้องกันตำแหน่งไว้ได้ ชัยชนะครั้งที่ 4 ในฤดูกาลและเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันทำให้ตอนนี้เขาไล่มาห่างกับมาร์ก เว็บเบอร์ ผู้นำในคะแนนสะสมเหลือเพียง 11 คะแนนเท่านั้น และถึงแม้จะมีการกระแทกกันระหว่างเว็บเบอร์กับแฮมิลตันจนฝ่ายหลังต้องออกจากการแข่งขันไป อลอนโซ่ก็ยังไม่ตัดชื่อใครออกไป อีก 4 สนามที่เหลือยังคงต้องต่อสู้กันอย่างเข้มข้น


เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) - อันดับที่ 2 / +0.2
คะแนนสะสม - อันดับที่ 4 - 181 คะแนน

เวทเทลเกาะเป็นเงาตามตัวอลอนโซ่ไปตั้งแต่ต้นจนจบ ทำทุกอย่างเหมือนกันแม้กระทั่งเข้าพิทก็รอบเดียวกัน เขาพยายามที่จะกดดันอลอนโซ่เผื่อคู่แข่งจะมีจังหวะหลุด แต่ก็ไม่คิดแซงเพราะการแซงนักขับอย่างอลอนโซ่เป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป เขาพอใจกับอันดับ 2 ที่ได้มา และยังย้ำว่าทั้ง 5 คนที่ลุ้นแชมป์ต่างยังมีสิทธิ์อยู่ทุกคน สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ถ้าใครชนะสัก 1-2 สนามก็จะได้เปรียบทันที เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ


มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) - อันดับที่ 3 / +29.1
คะแนนสะสม - อันดับที่ 1 - 202 คะแนน

การควอลิฟายได้อันดับที่ 5 ดูเหมือนเสียเปรียบที่สุดในบรรดา 5 คนที่ลุ้นแชมป์กันอยู่ แต่ด้วยกลยุทธ์ของทีมที่เรียกให้เว็บเบอร์เข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางตั้งแต่ช่วงต้นที่มีเซฟตี้คาร์ออกมาและปล่อยให้วิ่งยาวตลอดก็ทำให้เขากลับมาอยู่ในอันดับที่ดีแม้จะต้องออกแรงแซงขึ้นไป 2-3 ตำแหน่ง ในส่วนของจังหวะที่กระแทกกันกับรถแม็คลาเรนของแฮมิลตันในรอบที่ 36 ตัวของเขายังโชคดีที่ขับต่อไปได้ในขณะที่คู่แข่งต้องออกจากการแข่งขัน ซึ่งเขาให้ความเห็นถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่าคล้ายๆ กับที่แฮมิลตันกระแทกกับมาสซ่าที่สนามมอนซ่า จริงๆ แล้วมันไม่รุนแรงแต่ก็พอที่จะทำให้พวกเขาทั้ง 2 คนออกจากการแข่งขันได้ ซึ่งตัวเขาเองโชคดีที่ยังได้ขึ้นโพเดียมอันดับที่ 3 พร้อมกับ 12 คะแนนที่มีค่าในการนำในคะแนนสะสมประเภทนักขับต่อไป




สิงคโปร์โพเดียม



เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) - อันดับที่ 4 / +30.3
คะแนนสะสม - อันดับที่ 5 - 177 คะแนน

สำหรับบัตตัน สนามนี้เรียกว่าเรื่อยๆ มาแบบเงียบๆ ไม่หวือหวาแต่ก็เก็บ 10 คะแนนสำคัญไว้ได้ ช่วงท้ายสามารถเข้าใกล้เว็บเบอร์ได้แต่ไม่มากพอที่จะทำอะไรได้มากกว่านั้น เสมอตัวจริงๆ หลังจากออกตัวจากอันดับที่ 4 เช่นกัน


ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) - ไม่จบการแข่งขัน
คะแนนสะสม - อันดับที่ 3 - 182 คะแนน

เสียหายจริงๆ หลังจากเมื่อสนามที่แล้วที่มอนซ่าต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่รอบแรก มาสนามนี้ก็มีอันไม่ได้เห็นธงตราหมากรุกอีกครั้งหลังจากเกิดกรณีกับเว็บเบอร์ของเร้ดบูล ซึ่งแฮมิลตันกล่าวภายหลังว่าตอนนี้เขาจะลงแข่งโดยไม่คิดถึงเรื่องแชมป์โลกแล้ว แต่จะทำให้ดีที่สุดในทุกสนามที่เหลือ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาให้ความเห็นว่าเขาก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเว็บเบอร์ แต่เขาเชื่อว่านั่นเป็นความผิดพลาดตั้งแต่ช่วงที่เว็บเบอร์ติดหลังรถช้าทำให้แฮมิลตันสามารถดูดติดและแซงจากด้านนอกที่โค้ง 7 ได้ ในขณะนั้นเว็บเบอร์ก็อยู่ข้างหลังเขาในจุดที่เขามองไม่เห็นแล้ว แต่ก็คิดว่ารถของเขาผ่านไปแล้วและเมื่อเข้าโค้งก็เบรกโดยพยายามเหลือที่ให้เว็บเบอร์ที่อยู่ด้านใน แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่าโดนกระแทก ผลก็คือรถของเขายางแตก ต้องออกจากการแข่งขันทำให้ไม่ได้คะแนน และต้องตามเว็บเบอร์อยู่ 20 คะแนน


สำหรับคะแนนประเภททีม จากการที่เร้ดบูลได้ขึ้นโพเดียมทั้ง 2 คัน จึงทำให้คะแนนของพวกเขาอยู่ที่ 383 คะแนน ขยับหนีห่างแม็คลาเรนที่มีอยู่ 359 คะแนน ในขณะที่เฟอร์รารี่ซึ่งมาแรงในช่วงหลังนี้ตามมาในอันดับที่ 3 โดยมี 319 คะแนน


นอกจากเรื่องราวของ 5 คนที่ลุ้นแชมป์กันอยู่นั้นก็ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมาย เซฟตี้คาร์ออกมาครั้งแรกในรอบแรกเนื่องจากช่วงล่างรถฟอร์ซอินเดียของวิตันโตนิโอ ลิอุซซี่ ได้รับความเสียหายอันเป็นผลจากการกระแทกกับนิค ไฮด์เฟลด์ จากนั้นก็เกิดรายการงูกินหางค่ะ รถไฮด์เฟลด์เองเกี่ยวกันกับรถของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ในรอบที่ 36 ซึ่งทำให้รถเซาเบอร์ของเขาหมุนไปกระแทกกับกำแพงต้องออกจากการแข่งขัน แต่ชูมัคเกอร์ยังไปได้ต่อ โดยตอนต้น "ลุงชู" ก็มีจังหวะเบียดกับรถเซาเบอร์อีกคันของคามูอิ โคบายาชิ อย่างไรก็ตามนักขับญี่ปุ่นก็ไม่จบการแข่งขันเช่นกันเมื่อประสบอุบัติเหตุที่โค้ง 18 ในการแข่งขันรอบที่ 30 เนื่องจากจุดนั้นแคบมากจึงพาเอารถเอชอาร์ทีของบรูโน่ เซนน่า ซึ่งตามมาวิ่งเข้าหารถของโคบายาชิที่จอดนิ่งอยู่ก่อนแล้ว เป็นอันว่าต้องออกทั้งคู่

แต่เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดเกิดขึ้นในช่วงท้ายค่ะ เมื่อรถโลตัสของเฮกกิ โควาไลเน่น เกิดไฟลุกท่วมด้านท้ายที่เป็นส่วนของเครื่องเนื่องจากระบบเชื้อเพลิงเสียหายจากอุบัติเหตุกับเซบาสเตียน บูเอมี่ ของโตโร รอสโซ่ โควาไลเน่นพยายามมองหากรรมการสนามที่จะมาช่วยดับเพลิง แต่ท้ายที่สุดเขาวิ่งมาจนถึงทางตรงหน้าพิท เลือกจอดข้างนอกเนื่องจากเห็นว่าปลอดภัยที่สุด เขาจอดหน้าพิทของทีมวิลเลียมส์และได้ที่ดับเพลิงมาฉีดเสียเองจนไฟสงบลง




ไฟลุกท่วมท้ายรถของเฮกกิ โควาไลเน่น ในรอบที่ 58



เก็บตกสุดท้ายหลังการแข่งขัน อาเดรียน ซูทิล ของฟอร์ซอินเดีย โดนปรับให้เพิ่ม 20 วินาทีเข้ากับเวลาที่ทำได้ หลังจากวิ่งออกนอกโค้ง 7 ในรอบแรก ทำให้ได้เปรียบตำแหน่งจากคู่แข่งในจุดนั้น เมื่อจบการแข่งขันเขาได้อันดับที่ 8 แต่เมื่อบวกเวลาเพิ่มเขาจึงตกไปอยู่อันดับที่ 10 แต่ต่อมาทีมฟอร์ซอินเดียประท้วงว่านิโค ฮูลเคนเบิร์ก ของวิลเลียมส์ก็ได้เปรียบคู่แข่งในลักษณะนี้เหมือนกัน กรรมการจึงพิจารณาหลักฐานและปรับเพิ่ม 20 วินาทีกับฮูลเคนเบิร์กด้วยเช่นกัน ทำให้เป็นฝ่ายหลังที่ตกไปอยู่อันดับที่ 10 และซูทิลขึ้นมาในอันดับที่ 9 ส่วนเฟลิเป้ มาสซ่า ซึ่งสนามนี้สตาร์ทจากแถวสุดท้ายและเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 10 ก็ได้เปรียบจากการที่สองคันหน้าโดนปรับเวลาเพิ่ม ทำให้เขาขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 8

สนามหน้าไปกันต่อที่ซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 10 ตุลาคม การแข่งขันปีนี้เข้มข้นจริงๆ แฟนฟอร์มูล่าวันห้ามพลาด 4 สนามสุดท้ายนะคะ




*ข้อมูลจาก formula1.com และ autosport.com/f1
ภาพจาก formel1.de และ autosport.com/f1




Create Date : 27 กันยายน 2553
Last Update : 27 กันยายน 2553 11:39:03 น. 13 comments
Counter : 1311 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับบทสรุปครับ คุณ finishline

ถือว่าเป็นสนามที่สนุกมากจริงๆ สนามนี้ Alonso สุดยอดครับ นิ่งมากๆ Seb ก็เจ๋งไม่แพ้กัน จนรอบสุดท้าย วิ่งอยู่ในวินาทีเดียวกัน เยี่ยมมาก

ส่วน Mark กับทีม RBR ก็เจ๋งไม่แพ้กันกับการเลือกเข้า Pit เร็วช่วง SC ออกครั้งแรก ส่วนตัวนั่งลุ้นอยู่ เพราะผ่านลุงไม่ได้ แกขับได้ทอปฟอร์มจริงๆ กลัวว่าเวลาจะโดนทิ้งห่างกลุ่มนำเยอะๆ ทำให้ยุทธวิธีไม่ได้ผล แต่สุดท้ายรถตั้งแต่อันดับ 3 ก็ไม่ได้เร็วมากอย่างที่คิด เลยทำให้แซงได้ หุๆ

เมื่อวานผมนั่งบ่นๆอยู่ในบลอกเมื่อวานไปหมดแล้ว แหะๆ วันนี้ก็ดีใจสำหรับ 2 Podiums ของ RBR โอกาสยังเปิดกว้างจริงๆแหละ Ferrari ก็แรงซะ ...แต่คิดว่ารถ RB6 ไม่แพ้แน่ รอลุ้นกันต่อครับ


้อ้อ..เมื่อวาน Mark โชคดีมากถึงมากที่สุด ดูรูปยางหลังแข่งสิครับ ไม่ถึง 5 มิลลิเมตรก็ไปแล้ว (สองภาพแรงของเว็บเบอร์ ส่วนอันสุดท้ายของแฮม)

//adamcooperf1.files.wordpress.com/2010/09/photo-adam-cooper-mw1.jpg
//adamcooperf1.files.wordpress.com/2010/09/photo-adam-cooper-mw2.jpg
//adamcooperf1.files.wordpress.com/2010/09/img_9362.jpg

ขอบคุณรูปจากคุณ RBRKMF1 แห่งบ้าน RBR ^^


โดย: runtaro IP: 58.137.32.147 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:12:56:06 น.  

 
PERFECT RACE ( POLE, FASTEST LAP,VICTORY ) 2 สนามติดแล้ว Alonso เรา

, แรกๆ เห็น ham นำเกือบ 40 แต้ม พาเราท้อเหมือนกัน
นี่ ได้แชมป์ 2 สนามติด ก็โกยได้พอควรแล้ว , ชื้นใจขึ้นมาก

แฟน ham อย่าเครียดนะครับ ตกมาอยู่แค่ที่ 3 เอง
Alonso แต่ก่อนอยู่ที่ 5 มานานมาก คิดว่าน่าเครียดกว่าเยอะ

เรื่องเครื่องยนต์ เห็นหลายคนว่า FERRARI ใช้โควต้าหมดแล้ว
ที่ FIA กำหนดมาทั้ง season ห้ามเกิน 8 เครื่อง

ผมอ่านข้อมูล จากทีมดู รู้สึกว่า ถึงจะใช้ 8 เครื่องแล้ว
แต่ 4 สนามสุดท้าย ไม่จำเป็นต้องแกะกล่องเอาเครื่องใหม่มาใช้นะครับ

FERRARI สามารถใช้ เครื่องเก่าที่ใช้แล้ว นำมาใช้ เวียนกันได้ ใน 4 สนามสุดท้าย
โดยเครื่องที่ใช้แล้วบางตัว สภาพก็สมบูรณ์
แบบว่าเครื่องน็อคก่อนวันแข่ง แล้วนำเครื่องเก่ามาใช้ อาจไม่โดนปรับ grid penalty
( อืม แต่ถ้าเครื่องน็อควัน Q งั้ วันแข่ง FERRARI จะแกะเครื่องใหม่ หรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบนะ )

----------------------

สนามเกาหลี ผมลองเล่นเกมดูแล้ว เป็นสนามที่พื้นๆมากเลยอ่ะครับ
ไม่มีอะไรแนว เท่าไหร่ ( รู้สึกคล้ายๆ เอา VALENCIA กับ HUNGARY มายำรวมกัน )
ไม่รู้ทำไม เกาหลี เค้ามีปัญหาเยอะจัง เห็นลงมือสร้างตั้งแต่ 2006 แล้วนิ
เห็นว่าจะพร้อมบ้างไม่พร้อมบ้าง ,, ไม่รู้เอาไงแน่


โดย: JUNE IP: 125.27.145.12 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:13:29:52 น.  

 
อิจฉาคุณ JUNE อ่ะ ดูซิ ยิ้มไม่หุบมา 2 สนามติดแล้ว

ส่วนเซ็บน้อย พวกเราภูมิใจในตัวน้องมากๆ
สู้ต่อไปนะ!


โดย: finishline วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:15:06:10 น.  

 
ขอบคุณเจ้าของบล็อก สำหรับข่าวนะครับ เมื่อคืนสนุกมากๆเลย
ผมว่าเฟอร์ร่ารี่ น่ากลัวขึ้นเยอะเลย ทั้งทางตรง ทางโค้ง ทำความเร็วได้ดีขึ้นมากจนน่าแปลกใจ
แชมป์ปีนี้ยังดูไม่ออกจริงๆ


โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 110.164.226.76 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:17:47:57 น.  

 
ไม่เครียดครับ เผื่อยังมีคนเข้าใจผิดอยู่ ผมเป็นแฟน Kobayashi ครับ


โดย: hstgz IP: 125.24.128.192 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:20:00:57 น.  

 
ผมก็ไม่เครียดนะครับ สำหรับคนที่เข้าผิดคิดว่าผมเชียร์ แฮม

แฟนคนแรกที่ผมเชียร์แน่นอนก็ต้องแฟนผมนะ

ส่วนแฟนคนที่สอง ก็โคบายาชิ
ผมยังยืนยันคำเดิมว่าเคยบอกไปในวันเก่าแล้วว่าผมเชียร์โคบายาชิ
ผมเป็นคนไทย และคนเอเชียก็ต้องเชียร์คนเอเชียซิครับ

และสนามนี้โคบายาชิ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
ขับได้แบบไม่เกรงใจใครหน้าไหน
แม้แต่แชมป์โลกระดับตำนาน อย่างลุงชู
ก็โดนจัดการซ่ะกระเด็นไปฟาดกำแพง
แต่ โคบายาชิ ดันขับแหกโค้งชนตอสะพานซ่ะนิ
.
..
...
สำหรับ เฮกกิ โควาไลเน่น
สุดยอดจริงๆครับ ที่ไม่ติดสินใจเข้าพิตเลน
เพราะเข้าไปในนั้นช่างเครื่อง วิศวกร น้ำมัน ฯลฯ เต็มไปหมด
กรณีเลวร้าย เครื่องยนต์ระเบิดจะอันตรายมากๆ
แต่กรรมการก็แย่จริงๆ เห็นรถวิ่งมาไฟท่วม ยังส่งถังดับเพลิงช้าอีก
เฮกกิ เป็นฮีโร่เลย ใจกล้าจริงๆ...ชุดที่ใส่นะกันไฟ แต่ไม่กันระเบิดนะครับ


โดย: เกลียดแดง IP: 58.64.114.183 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:20:28:39 น.  

 
เมื่อวานเพิ่งมีโอกาสได้ดูรายการช่วงก่อนแข่งของ BBC ชอบมากครับ สนุก และน่าสนใจ

โดยเฉพาะช่วงที่ให้ martin brundel เดินทั่วgrid เพื่อสัมภาษท์นักแข่ง โดยมีกล้องเดินตามตลอด

ได้ความรู้สึกเหมือนกับเราลงไปเดินในgridเองเลยครับ


โดย: punch IP: 61.90.92.204 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:20:36:21 น.  

 
อ่านบทสัมภาษณ์ของ Vettel อีกรอบ


"I think it's looking good. We are Red Bull, we are in a unique position again this year and we are horny – can you say that in English or does it not make too much sense? I think we have a very good chance. Korea is coming up which is unknown but, other than that, if you look at Japan, Brazil and Abu Dhabi, I think we have a very strong car."


เิอิ๊กๆ

Red Bull สู้ๆ


โดย: runtaro IP: 124.121.174.54 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:21:48:17 น.  

 
ดีใจกับ Alonso และ Sebi ด้วยค่ะ XD


โดย: Gigg IP: 118.174.109.196 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:21:59:00 น.  

 
อุ๊ย! คุณ punch ดูจากไหนอ่ะคะ เราอยากดูรายการของ BBC จัง โดยเฉพาะ post-race มันจะมีอะไรเด็ดๆ อยู่เรื่อย

ครั้งหนึ่ง Seb ไปออกแล้วอยากแกล้งเอาแชมเปญราดใส่ David Coulthard ในห้องส่ง เลยขออนุญาตทีมงานอยู่หลังกล้อง (แต่กล้องก็หันไปจับได้อยู่ดี) สุดท้ายเขาก็ไม่อนุญาตค่ะ คงกลัว Coulthard หมดหล่อ :P


โดย: finishline วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:8:47:23 น.  

 
ผมดูจากlink ที่คุณfinishline เคยให้มาไงครับ
totalsports....

เว็บนี้ดีมากทีเดียวครับ มีlive stream กีฬาเยอะมากเลย ภาพชัด แทบไม่กระตุกเลยครับ



โดย: punch IP: 58.9.61.126 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:17:02:44 น.  

 
//www.totalsportsmadness.com/


โดย: punch IP: 58.9.61.126 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:17:10:52 น.  

 
ไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมทีม ต้องให้ Seb เข้าพิท พร้อมกับ Alonso
เพราะอันที่จริงแล้ว Seb เป็นนักขับที่ใช้ยางไม่เปลืองเท่ากับ Alonso, Webber หรือ หลุยส์
เมื่อ Alonso เขาพิท ทีมน่าจะให้ Sebขับต่อไปอีกอย่างน้อย1รอบ
เสียดาย.... น่าเสียดาย.....


โดย: Seb's fan IP: 180.183.160.62 วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:16:11:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.