ต่อมาเรามาดูผลงานในวันแข่งขันกันค่ะ เร้ดบูลซึ่งแม้การควอลิฟายอาจไม่โดดเด่น แต่ปรากฏว่าผลงานวันอาทิตย์พวกเขากลับทำได้ดีที่สุดค่ะ หรือที่เรารู้จักกันว่ามี "race pace" ดีที่สุดนั่นเอง ส่วนทีมอันดับที่ 2 เป็นเซาเบอร์ โดยมีเวลาเฉลี่ยต่อรอบน้อยกว่าเร้ดบูลเพียง 0.1 วินาทีเท่านั้น และมีโลตัสตามมาในอันดับที่ 3 ค่ะ สำหรับทีมที่ข้อมูลในวันแข่งออกมา "เซอร์ไพรส์" มากที่สุดเห็นจะเป็นโตโร รอสโซ ทีมน้องของเร้ดบูลนั่นเอง โดยมีผลงานห่างจากทีมพี่ประมาณครึ่งวินาที เรียกว่าดีกว่าแม็คลาเรนเสียอีกนะคะ แต่ผลงานการควอลิฟายของพวกเขากลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะทำได้เพียงแค่อันดับที่ 4 จากท้ายเท่านั้นแล้วเมอร์เซเดสล่ะ? นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ ทั้งที่เมื่อไม่กี่วันก่อน นิโค รอสเบิร์ก ยังให้สัมภาษณ์อยู่ว่ารถของเขาเร็วที่สุดในปีนี้ แต่จากข้อมูลที่วิเคราะห์มา เชื่อหรือไม่คะว่าเวลาเฉลี่ยในการแข่งขันของทีมจากเยอรมันดีกว่าแค่แคเทอร์แฮม มารุสเซีย และเอชอาร์ที เท่านั้น! ทั้งนี้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาการจราจรในสนามหรือปัญหาจากรถของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ที่มีอยู่บ่อยครั้ง เมอร์เซเดสทำเวลาช้ากว่าทีมที่เวลาดีที่สุดเฉลี่ยเกือบ 1 วินาทีเชียวล่ะค่ะดูกันต่อไปว่าสนามที่เหลือยังจะเป็นเทรนด์นี้อยู่หรือเปล่า?*ข้อมูลจาก nextgen-auto.comภาพจาก pierrevellagrandprix.wordpress.com