เที่ยงแล้ว อย่าลืมกินข้าวนะครับ เดี๋ยวโรคกระเพราะถามหา

พรุ่งนี้มีข่าวเขียนแน่ครับ เรื่อง driver of the year voted by ESPN *-*

อย่าลืม คืนนี้ 2210น. ช่อง 9 มีเทปบันทึกภาพการเเสดงการ ขับรถฟอร์มูล่าวัน เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “สตรีท ออฟ คิงส์ ราชดำเนิน เรดบูล แบงค็อก 2010” ครับ

ขอบคุณสำหรับข่าวครับผม

ไตรกรีฬานี่มันน่าสนุกนะ แต่ต้องแข็งแรงจริงๆ ส่วน KERS เนี่ย คิดว่าน่าจะใช้กันซัก 6-7 ทีมแง๋มๆ

ส่วนคืนนี้ ขอบคุณคุณ hstgz ที่เตือนนะครับ ลืมเลย อิอิ อยากดูๆๆๆ

ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะมีกี่ทีมที่ใช้ KERS พวกทีมใหญ่ๆ ก็คงใช้กันหมด

Ferrari กับ McLaren น่าจะเป็นทีมที่ดูจะได้เปรียบจากการใช้ KERS มากกว่าทีมอื่น เพราะเคยมีประสบการณ์แบบเต็มๆ season มาแล้ว (อาจจะรวม Renault ไปอีกทีมก็ได้ครับ)

ซึ่งในตอนนั้น KERS ของ McLaren ดูจะดีกว่าของ Ferrari อยู่นิดๆ แต่ทั้งคู่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้ aero package ที่ดีกว่าของ Brawns และ Red Bull อยู่ดี เพราะประโยชน์ของ KERS ดูจะมีแค่ช่วงที่มีทางตรงยาวๆ ซึ่งสนามที่ดูจะได้เปรียบจริงๆก็มีไม่กี่สนามเช่น Spa ที่ Kimi ช่วยกู้หน้า Ferrari ไว้และทำลายสัปดาห์แห่งความฝันของ Force India และ Fisichella และที่ Monza ซึ่งมีช่วงให้ใช้ KERS ได้เต็มที่ ถึง 2 ช่วง

แต่สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในปีหน้า การใช้ KERS + adjustable rear wing น่าจะช่วยให้การแซงมีมากขึ้นบ้าง แต่โดยส่วนตัว ก็ยังเชื่อว่าคงจะไม่ช่วยให้มีการแซงได้มากขึ้นแบบผิดหูผิดตาเมื่อเทียบกับปีนี้ เพราะ aero package น่าจะยังมีผลกระทบที่สูงกว่า ถึงแม้ว่าการแบน Double Diffuser ไป แต่ละทีมคงพยายามหาทางออกอื่นๆอยู่ดี และ RB7 ก็ยังน่าจะเป็นรถที่ทุกทีมต้องเอาชนะอยู่ดี

การเปิดตัวรถใหม่ + การหาทางออกใหม่ๆแทนที่ทางออกเดิมที่ถูกบังคับให้เลิกใช้ เป็นอะไรที่น่าติดตามจริงๆครับ ไม่แน่ว่า ทีมขนาดกลาง+เล็ก อาจจะหาทางออกแบบสุดยอด และสร้างปาฎิหารย์แบบ Brawns อีกทีมก็เป็นไปได้

ปีนั้น ที่มอนซา ถ้า Kimi ไม่มี KERS ได้เสร็จ Fisichella แน่ๆ

ไม่แน่ครับเพราะ KERS มีผลที่มองไม่เห็นตามมาหลายประการ

หลายคนคิดว่าติด KERS แล้วสามารถใช้เป็นบูสเตอร์ทำให้รถได้เปรียบ และหลายคนคิดว่า ปี 2009 ที่ทีมเล็กสามารถไล่ต้อนทีมใหญ่ได้เป็นเพราะพัฒนาการก้าวกระโดดของทีมเล็กทั้งหลาย เปล่าเลยครับ จริง ๆ แล้วเป็นเพราะทีมใหญ่มีพัฒนาการย้อนกลับต่างหาก KERS ช่วยบูสเครื่องเพิ่มความเร็วทางตรงได้ก็จริง แต่ข้อเสียมันตามมามากมายเช่นกันทั้งน้ำหนักตัวมันเองที่อย่างน้อยก็ปาไป 25 kg ขั้นต่ำแล้ว การกระจายน้ำหนักตัวรถที่เสียสมดุลไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งมันมีผลต่ออัตราการกินยางและระบบช่วงล่างอย่างร้ายแรง กว่าที่ทีมใหญ่จะคลำหาทางในการแก้ปัญหานี้ได้ก็ปาไปครึ่งฤดูกาลแล้วครับ

ฉะนั้นทีมที่จะได้เปรียบเต็ม ๆ เมื่อเปิดฤดูกาล 2011 มาเห็นจะเป็น Ferrari กับ McLaren อย่างไม่ต้องสงสัย ทีมที่ยังไม่เคยใช้ KERS ไม่รู้หรอกครับว่าปัญหามันจะตามมามากมายขนาดไหน แต่สำหรับ Red Bull และ Mercedes อาจเป็นกรณียกเว้น เพราะเชื่อว่าด้วยความเก๋าของ Adrian Newey แห่ง Red Bull และ Ross Brawn แห่ง Mercedes น่าจะคลำหาทางในการแก้ปัญหาได้ไม่ยาก

แต่ขอเดานะครับ เปิดฤดูกาลมาที่ Bahrain Ferrari จะได้ pole

Bahrain ก็ไม่แน่นะครับ อาจจะเป็นทีมเล็กๆๆก็ได้

มันไม่มีหลักประกันอะไรจะบอกได้เลยนะ ว่า KERS ที่ทีมใหญ่ๆมีประสบการณ์มาแล้ว กับน้ำหนักอีก 40 กิโลที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ทีมใหญ่ได้เปรียบ ถ้าทีมอื่นไม่ใส่ KERS


การกระจายน้ำหนัก 40 กิโลที่เพิ่มขึ้นของปีหน้าของรถที่ใช้ KERS กับที่ไม่ใช้น่าจะต่างกัน ผมเดานะ ... เพราะงั้น คำตอบนี้ น่าจะจบตอนหลังจากสนามแรก (ที่มันแทบจะไม่มีการแซงกันได้เลย)

แว๊บมาอัพข่าวอีกหน่อย

Renault confirm Vitaly Petrov ถึงปี 2012 นะครับ แหม่...มีเงิน + มีนายกหนุนหลังนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง *0*

ผมเข้าใจถูกมั้ยว่า รถที่มีและไม่มี KERS จะต้องมีน้ำหนักรถต่ำสุดที่เท่ากัน

ครับ ต้องเท่ากันที่ 605 kg ครับ แต่จะกระจายน้ำหนักลงแต่ละล้อเท่าไหร่นั่นคืออีกเรื่องที่จะต้องตามแก้ไขกันเองครับ

ดีใจกับ Petrov ด้วยครับ มีเงินมันดีอย่างนี้นี่เอง อิอิ แต่...ปีที่แล้วก็ต้องขอบคุณ Petrov ก็หวังว่าจะพัฒนาฝีมือขึ้นได้เรื่อยๆนะ

แอบเห็นใครไม่รู้ไปดูเทนนิส
//www.youtube.com/watch?v=1myEhqeRguE

ก็เซ็บน้อยน่ะซิคะ

ไปงานเทนนิสการกุศลระหว่างโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ กับราฟาเอล นาดาล ที่ซูริค เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา

น้องเป็นแฟนเฟดเดอเรอร์ด้วยค่ะ^^