"ปิเรลลี่" แน่นอนแล้ว
ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ ปิเรลลี่จะเป็นผู้สนับสนุนยางแต่เพียงผู้เดียวในปีหน้าและปีต่อไปรวม 3 ปี รายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของเอฟไอเอ

ทีมงานต้องมีใบอนุญาตทำงานในฟอร์มูล่าวันด้วยนะ
จากการที่มีข้อเสนอให้เอฟไอเอออกใบอนุญาตให้กับสมาชิกทุกคนของทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ก็คาดว่าจะใช้กับฟอร์มูล่าวันในปี 2011 และจะปรับใช้กับการแข่งขันรายการอื่นๆ ของเอฟไอเอในอนาคตด้วย

เคลียร์เรื่องเซฟตี้คาร์
ไม่อนุญาตให้แซงกันภายใต้เซฟตี้คาร์จนกว่าเซฟตี้คาร์จะเข้าพิทและพ้นเส้นเซฟตี้คาร์แรกไปแล้ว แต่หากเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ไม่ว่าเริ่มต้นรอบหรือระหว่างรอบ เซฟตี้คาร์จะกลับเข้าพิทเมื่อสิ้นสุดรอบและรถแข่งจะต้องวิ่งเข้าเส้นชัยตามลำดับนั้นๆ โดยไม่อนุญาตให้แซงกันอีก ทั้งนี้ ขอให้มีผลโดยทันที
(ข้อนี้เป็นการเคลียร์จากกรณีมิชาเอล ชูมัคเกอร์ แซงเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ในรอบสุดท้ายภายใต้เซฟตี้คาร์ที่โมนาโคค่ะ)

เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
รถที่ช้ากว่าปกติหรือขับแล้วส่งผลอันตรายต่อรถคันอื่น ไม่ว่าจะบนแทร็ค ทางเข้าพิทเลน หรือในพิทเลน จะมีการรายงานต่อกรรมการสนามทันที ทั้งนี้ ขอให้มีผลโดยทันที
(ข้อนี้น่าจะมาจากหลายๆ เหตุการณ์ของฤดูกาลนี้ที่เบียดกันบ่อยเหลือเกิน)

และเพื่อให้แน่ใจว่ารถแข่งจะไม่ขับช้าโดยไม่มีเหตุอันควรในช่วงควอลิฟายหรือรอบที่เพิ่งวิ่งออกมาจากพิท นักขับจะต้องทำเวลาไม่เกินกว่าเวลาเร็วที่สุดที่เอฟไอเอกำหนดระหว่างเส้นเซฟตี้คาร์หลังทางออกพิทกับเส้นเซฟตี้คาร์ก่อนทางเข้าพิท (แปลถูกมั้ยคะเนี่ย -- Drivers must stay below the maximum time set by the FIA between the safety car line after the pit exit and safety car line before the pit entry.) โดยเวลาเร็วที่สุดนั้นจะกำหนดโดยผู้อำนวยการการแข่งขัน (race director) ในแต่ละสนามและแจ้งก่อนวันฝึกซ้อมวันแรก ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมระหว่างการแข่งขัน

ใครช้าอดแข่ง
ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นไป ใครที่ทำเวลาดีที่สุดของตนเองในคิว 1 (หรือการควอลิฟายรอบแรก) แต่เกินกว่า 107% ของคนที่ทำเวลาดีที่สุดในคิว 1 นั้นจะไม่อนุญาตให้ลงแข่งขัน แต่กรรมการอาจอนุญาตในบางกรณีหากนำเวลาที่ทำได้ในช่วงฝึกซ้อมมาพิจารณาประกอบ หากมีคนที่ต้องนำเวลามาพิจารณาภายหลังเกินกว่า 1 คน ก็ให้กรรมการสนามเป็นผู้พิจารณาอันดับออกสตาร์ท
(เรื่อง 107% นี้เคยใช้มาแล้วช่วงปี 1996-2002)

นักขับปรับอุปกรณ์บนตัวรถเองได้แล้ว (แต่ข้อแม้เพียบ!)
ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นไป นักขับสามารถปรับอุปกรณ์บนตัวรถเองได้และเมื่อไหร่ก็ได้ก่อนการแข่งขัน และเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแซงระหว่างการแข่งขัน จะอนุญาตให้กระทำได้เมื่อแข่งขันผ่านไปแล้ว 2 รอบ ซึ่งนักขับจะต้องได้รับการแจ้งมาทางอุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ถึงจะสามารถปรับรถได้ นอกจากนี้ การปรับดังกล่าวจะทำได้เมื่อเวลาช้ากว่าคันหน้าน้อยกว่า 1 วินาทีตามตำแหน่งที่ควรจะเป็น? (แปลแล้วงงอ่ะค่ะ -- It will only be enabled if the driver is less than one second behind another at any of the pre-determined positions around each circuit.) และการปรับดังกล่าวจะไม่มีผลเมื่อนักขับแตะเบรกหลังระบบทำงานแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังหารือกับทีมต่างๆ เอฟไอเออาจปรับรายละเอียดเพิ่มเติมให้ได้เวลาใกล้เคียงกัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ของการปรับตัวรถนี้

F-duct โดนแบน
จากที่เมื่อวานเรามานั่งข้องใจกับการทำงานของ F-duct ปรากฏว่ากฎที่ออกมาล่าสุดนี้ มาเพื่อปราบ F-duct โดยเฉพาะ

ตั้งแต่ปี 2011 เอฟไอเอจะไม่อนุญาตให้ติดตั้งอุปกรณ์ใดก็ตามที่เป็นการปรับปรุงตัวรถโดยเปลี่ยนหลักอากาศพลศาสตร์ (aerodynamics)

ปรับน้ำหนักรถ
ตั้งแต่ปี 2011 รถจะต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 640 กิโลกรัมตลอดการแข่งขันทั้งรายการ (ของปีนี้ เขาให้ 620 ค่ะ)

ห้ามน้ำมันหมดถัง
หากต้องมีการตรวจตัวอย่างน้ำมันหลังการฝึกซ้อม รถยังต้องมีน้ำมันเหลือในถังจนถึงขับกลับเข้ามาในพิท ทั้งนี้ ขอให้มีผลโดยทันที
(กรณีนี้คงพิจารณาจากเหตุการณ์ที่ลูอิส แฮมิลตัน น้ำมันหมดหลังควอลิฟายที่แคนาดา จนต้องเข็นรถเข้าพิท ซึ่งที่จริงยังเหลือน้ำมันอยู่นิดหนึ่งแต่ต้องเก็บไว้ให้ตรวจ)

ออกใบอนุญาตให้นักขับจีน
หลังจากผ่านการขับทดสอบรถฟอร์มูล่าวันมาหลายครั้ง โฮ ปิน ตัง นักขับชาวจีนได้รับใบอนุญาตขั้นทดลองให้ขับจำนวน 4 สนาม


จบการเสนอข่าวเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ!




*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1

Create Date : 24 มิถุนายน 2553
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 8:54:55 น.		13 comments
Counter : 1227 Pageviews.
Share Tweet