เป็นครั้งแรกของเซบาสเตียน เวทเทล ที่นำการแข่งขันตั้งแต่ไฟแดงดับ 5 ดวงจนถึงเส้นชัยโดยไม่มีใครแตะอันดับที่ 1 แทนเขาแม้เจ้าตัวเพิ่งออกจากพิต เหตุการณ์เดียวที่สร้างความเสียวไส้ให้ผู้นำคือการที่รถโลตัสของเฮกกิ โควาไลเน่น ถูกปล่อยออกจากพิตเฉือนหน้าเขากระชั้นชิดในการเข้าพิตครั้งสุดท้ายในรอบที่ 49 ซึ่งภายหลังเอฟไอเอได้สั่งปรับทีมโลตัสเป็นเงิน 10,000 ยูโรจากกรณีนี้ด้วยงานหลักตั้งแต่ออกตัวของเวทเทลจึงเป็นการทิ้งระยะห่างจากกลุ่มให้ได้มากจนพอใจ โดยมีเจนสัน บัตตัน ติดตามมาในอันดับที่ 2 ตั้งแต่เริ่มเช่นกัน แม้ตอนช่วงท้ายของการแข่งขัน บัตตันจะลดความห่างจาก 10 วินาทีกว่าจนมาเหลือเพียง 2-3 วินาที แต่เวทเทลก็ใช้ประโยชน์จากกลุ่มรถช้าเป็นกันชน และสามารถเข้าเส้นชัยได้สบายๆกลุ่มถัดมาที่แฟนๆ ได้ลุ้นกันสนุก เริ่มจากคู่เฟอร์นันโด อลอนโซ่กับมาร์ก เว็บเบอร์ โดยเป็นอีกสนามหนึ่งที่ฝ่ายหลังออกตัวได้ไม่ดีซึ่งบวกกับกริดอยู่ในด้านสกปรกกว่า จึงสูญเสียตำแหน่งได้ง่ายดาย อลอนโซ่ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ตั้งแต่รอบแรกแต่ระหว่างการแข่งขันกระทั่งออกจากพิตครั้งที่ 1 แต่เว็บเบอร์ก็ไล่ตามมาแซงเขาได้สองครั้งสองครา โดยเฉพาะครั้งหลังเป็นการแซงหลังช่วงเซฟตี้คาร์ และนักขับออสซี่ก็สามารถยึดอันดับสุดท้ายบนโพเดียมไว้ได้จนจบการแข่งขันเมื่อพูดถึงเซฟตี้คาร์ ของคู่สนามสิงคโปร์ มาปีนี้มีต้นเหตุที่ทำให้ต้องออกมาเกิดจากมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ที่ไปเสยล้อหลังขวาของเซอร์จิโอ เปเรซ จากการกะจังหวะแซงผิดพลาดในรอบที่ 28 ส่งผลให้รถของเขาลอยและพุ่งชนกำแพงอย่างจัง โดยเอฟไอเอได้ลงโทษเขาด้วยการ "ประณาม" ภายหลังการแข่งขัน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมาวิ่งนำการแข่งขันอยู่ช่วงหนึ่งแต่คู่เอกประจำสัปดาห์จริงๆ แล้วตกเป็นคู่ของเฟลิเป้ มาสซ่ากับลูอิส แฮมิลตัน ที่มีเรื่องค้างกันมาตั้งแต่รอบควอลิฟายจนกระทั่งในการแข่งขันคู่นี้ก็ยังไม่วายมีกระทบกระทั่งซ้ำอีกรอบ หลังจากทั้งคู่ต่างเข้าพิตแรกของตนในรอบที่ 11 เมื่อกลับสู่การแข่งขันแล้วปรากฏว่าแฮมิลตันซึ่งเป็นฝ่ายตามหลังพยายามแซงมาสซ่าแต่ไม่สำเร็จ ปีกหน้ารถแม็คลาเรนเสียหายและล้อหลังขวาของมาสซ่าก็ยางแตกจากการถูกชน นอกจากแฮมิลตันต้องเข้าไปเปลี่ยนปีกหน้าใหม่แล้ว เขายังต้องได้รับโทษขับผ่านพิต (drive-through penalty) อีกด้วย ถึงกระนั้นเขายังสามารถไล่อันดับขึ้นไปถึงอันดับที่ 5 ในขณะที่มาสซ่าซึ่งออกอาการโมโหคู่กรณีอย่างมากจบการแข่งขันในอันดับที่ 9ในเรื่องการลงโทษหลังการแข่งขัน เอฟไอเอยังได้ปรับเงินทีมเรโนลต์เป็นจำนวน 7,500 ยูโร โทษฐานให้ข้อมูลกับบรูโน่ เซนน่า ผิดพลาด โดยเมื่อการแข่งขันเข้าสู่ภาวะปกติหลังช่วงเซฟตี้คาร์ เซนน่าได้รับคำสั่งจากทีมให้ไล่แซงเซอร์จิโอ เปเรซ ขึ้นไป ทั้งๆ ที่เปเรซเร็วกว่า 1 รอบ ผลสุดท้ายทั้งคู่ก็ชนกัน เป็นเหตุให้เอฟไอเอพิจารณาว่าทีมให้ข้อมูลตำแหน่งของนักขับผิดพลาด ก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่หลีกเลี่ยงได้สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 14ประเภทนักขับ1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 309 คะแนน2. เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) 185 คะแนน3. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 184 คะแนน4. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 182 คะแนน5. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 168 คะแนน- อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2011/ประเภททีม1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 491 คะแนน2. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 353 คะแนน3. เฟอร์รารี่ 268 คะแนน4. เมอร์เซเดส 114 คะแนน5. เรโนลต์ 70 คะแนน- อันดับคะแนนสะสมประเภททีมทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/2011/การลุ้นแชมป์โลกปีนี้คงจะประกาศได้อย่างเป็นทางการในสนามหน้า แต่สำหรับรองแชมป์โลกคงจะอีกยาวไม่น้อย ติดตามกันได้กับสนามที่ 15 ในรายการเจแปนิส กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 7-9 ตุลาคม ค่ะ*ข้อมูลจาก autosport.com/f1ภาพจาก formel1.de
ใครจะเป็นรองแชมป์ว๊า ห้า ห้า ห้า