ไฮไลท์

- ลูอิส แฮมิลตัน คว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 2 ของตนเองในปีนี้ได้สำเร็จจากการออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยมจากตำแหน่งโพล แต่งานของเขาไม่ง่ายนักเมื่อมีเงาของสองนักขับโลตัสอยู่ในกระจกมองหลังเกือบตลอดเวลา ในช่วงแรกเป็นโรแมง โกรส์ฌอง ที่รักษาอันดับที่ 2 ไว้ได้ตั้งแต่ผ่านโค้งแรกและติดตามกดดันแฮมิลตันมาตลอด โดยที่คิมี่ ไรค์โคเน่น เพื่อนร่วมทีมซึ่งออกตัวหล่นลงไปอันดับที่ 6 ในรอบแรกก็ค่อยๆ ไล่ขึ้นมาพร้อมกับเวลาต่อรอบเร็วที่สุดหลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อเขาออกจากพิตที่สองมาเบียดเฉือนเอาอันดับที่ 2 ไปจากโกรส์ฌองและไล่เข้าใกล้แฮมิลตันเรื่อยๆ แต่ก็ไม่อาจแซงรถแม็คลาเรนข้างหน้าเขาได้ อย่างไรก็ตาม นับเป็นวันแห่งความสำเร็จอีกวันของโลตัสเพราะนักขับของทีมได้ขึ้นโพเดียมคู่

- เซบาสเตียน เวทเทล เสียอันดับให้กับเจนสัน บัตตัน ในรอบแรกและตามอยู่ในอันดับที่ 4 เป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งหลังออกจากพิตครั้งที่ 2 เขาจึงมีโอกาสขยับอันดับ แต่เพราะความเร็วของไรค์โคเน่นในช่วงกลางของการแข่งขันเป็นต้นมาประกอบกับการวางแผนที่ยอดเยี่ยมของโลตัส นักขับฟินน์จึงออกมาอยู่หน้าทั้งเขาและโกรส์ฌอง ในตอนท้ายเร้ดบูลเรียกเวทเทลเข้าพิตครั้งที่ 3 เมื่อเหลือการแข่งขันเพียง 10 รอบ โชคยังดีที่รักษาอันดับที่ 4 ไว้ได้ แม้จะมีจังหวะหวาดเสียวจากเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ที่วิ่งเงียบๆ อยู่ในอันดับที่ 5 เกือบแซงได้ก็ตาม สำหรับบัตตันซึ่งเลือกกลยุทธ์ 3 พิตก็ประสบปัญหากับพิตสุดท้าย ทำให้อันดับตกไปอยู่หลังอลอนโซ่

- บรูโน่ เซนน่า ทำผลงานที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งเมื่อเขาจบในอันดับที่ 7 โดยช่วงท้ายสามารถทนการไล่ล่าของบัตตันในช่วงกลางและมาร์ก เว็บเบอร์ ในช่วงท้ายได้สำเร็จ สำหรับเว็บเบอร์ถือว่าน่าพอใจเมื่อนับจากกริดสตาร์ทที่ทำไว้เมื่อวาน เขาออกตัวจากอันดับที่ 11 และขึ้นมาถึงอันดับที่ 7 ได้ตั้งแต่รอบแรก แต่เพราะเร้ดบูลเลือกเข้าพิต 3 ครั้ง ทำให้เขาไม่สามารถทำอันดับได้มากกว่านี้

- สัปดาห์นี้ไม่ใช่สัปดาห์ที่ดีของเมอร์เซเดส ก่อนเริ่มการแข่งขัน รถของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ดับที่กริดสตาร์ทหลังวิ่งรอบอุ่นเครื่องแล้ว จึงทำให้รถทุกคันต้องวิ่งรอบอุ่นเครื่องอีก 1 รอบ โดยที่รอบการแข่งขันก็ถูกลดลงเหลือ 69 รอบ ระหว่างนั้นรถของชูมัคเกอร์ถูกเข็นกลับเข้าไปในพิตเพื่อสตาร์ทเครื่องและกลับเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้งโดยต้องออกตัวเป็นคันสุดท้ายจากพิต แต่อาจเพราะความรีบร้อนทำให้เขาทำความเร็วในพิตเลนเกินกำหนด จึงต้องรับโทษแบบขับผ่านหรือไดรฟ์ทรูในเวลาต่อมา ในที่สุดเขาก็ออกจากการแข่งขันในช่วงท้ายขณะอยู่ในอันดับที่ 18 ส่วนนิโค รอสเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมก็วิ่งประคองเรื่อยๆ แต่ก็ยังสามารถเก็บ 1 คะแนนสุดท้ายให้ตนและทีมได้

- ยังมีการรับโทษไดรฟ์ทรูจากพาสเตอร์ มัลโดนาโด อีกคันจากกรณีไปกระแทกพอล ดิ เรสต้า ขณะพยายามแซงนักขับสก็อตต์ในรอบที่ 47 ส่วนนาเรน คาร์ธิเคยัน ต้องจอดรถเอชอาร์ทีที่โค้ง 4 เมื่อเหลือการแข่งขันอีก 5 รอบเนื่องจากระบบกันสะเทือนของรถเสียหาย ซึ่งกรรมการได้โบกธงเหลืองบริเวณนั้นจนกระทั่งหมดรอบการแข่งขัน


สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 11

ประเภทนักขับ
1. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 164 คะแนน
2. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 124 คะแนน
3. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 122 คะแนน
4. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 117 คะแนน
5. คิมี่ ไรค์โคเน่น (โลตัส) 116 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2012/

ประเภททีม
1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 246 คะแนน
2. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 193 คะแนน
3. โลตัส-เรโนลต์ 192 คะแนน
4. เฟอร์รารี่ 189 คะแนน
5. เมอร์เซเดส 106 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภททีมทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/


ต่อจากนี้ 1 เดือนเต็มจะเป็นการ "ปิดเทอมภาคฤดูร้อน" ให้นักขับและทีมงานได้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย หรือใครใคร่คิดอะไรใหม่ก็ทำไป แล้วมาพบกันใหม่ที่สนามสปา-ฟรองโคชองป์ในรายการเบลเจียน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายนค่ะ








*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ formula1.com
ภาพจาก formel1.de