เปโดรซ่าทำเวลาดีที่สุดในการซ้อมวันแรก
เห็นเวลาแล้วมีลุ้นรอสซี่ขึ้นโพเดียมเหมือนกันนะเนี่ย เขาพอใจกับการเซ็ตรถมากทีเดียวถึงแม้ว่าจะตามหลังผู้นำอยู่ 0.767 วินาทีและยังมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีก แต่ที่แน่ๆ กำลังใจล้นเหลือจากแฟนๆ ในบ้านเกิด ส่วนสภาพร่างกายนั้น รอสซี่บอกว่าโอเคค่ะ แต่ในสนามนี้จะมีช่วงใช้เบรกหนักอยู่ 2-3 ช่วงและเป็นโค้งขวา ทำให้เขาเจ็บไหล่เล็กน้อย
ด้านทีมดูคาติ ผลการซ้อมออกมาอย่างนี้พวกเขาไม่แฮปปี้แน่นอน นักแข่งทั้ง 2 คนดูมีปัญหากับการเซ็ตรถ โดยเฉพาะเฮเด้นบอกว่าเขามีปัญหามากกับโค้ง 3 ก็ต้องดูกันค่ะผ่านไปคืนหนึ่งพวกเขาจะปรับแต่งรถให้ดีขึ้นทันคู่แข่งได้มากน้อยแค่ไหน
วันนี้โมโต้จีพีจะควอลิฟายกันในเวลาประมาณ 1 ทุ่ม เอ๊...แล้วจะมีถ่ายทอดสดเหมือนสนามที่แล้วที่น้อง Champ เจอทางทรูวิชั่นส์รึเปล่านะ ถ้าใครเปิดไปเจอรบกวนส่งข่าวกันด้วยนะคะ และถ้าเขาจะถ่ายทอดสดทุกรุ่นก็จะเริ่มด้วยรุ่น 125 ซีซี เวลา 6 โมงเย็นค่ะ
*********************************
แวะไปที่ฟอร์มูล่าวันกันหน่อยดีกว่า หลังจาก "เซ็บน้อยของเรา" เซบาสเตียน เวทเทล โดนรุมสับจากบรรดาคู่กรณีรายล่าสุดจากแม็คลาเรน รวมถึงนักข่าวนักวิจารณ์ทั่วโลก ล่าสุดน้องให้สัมภาษณ์กับหนังสือเยอรมัน
Auto Bild Motorsport ถึงสถานการณ์ล่าสุดของตนเองในโลกฟอร์มูล่าวัน
"ฟอร์มูล่าวันเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีคุณก็จะยอดเยี่ยมที่สุด แต่ถ้าคุณทำผิดพลาดและคนบางคนไม่ได้เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไม คุณก็จะกลายเป็นคนงี่เง่าขึ้นมาทันที เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องรู้เหตุผลที่แท้จริงด้วยตนเอง
"ที่ฮังการีผมเผลอไปในช่วงเซฟตี้คาร์เลยทำผิดพลาด และที่สปา เมื่อผมควบคุมรถไม่อยู่ตอนจะแซงเจนสัน บัตตัน ก็เป็นข้อผิดพลาดอีกเช่นกัน แต่ผมเปิดรับและซื่อสัตย์มากพอที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมก็ไม่ได้ภูมิใจกับมันหรอก แต่เราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้นอกจากพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ในท้ายที่สุด ความผิดพลาดต่างๆ จะทำให้เราเป็นนักขับที่ดีขึ้นได้"
ผมยังไหวครับ
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฮังการีและเบลเยียมจะทำให้เวทเทลสูญเสียแต้มที่มีค่าไป แต่เขาก็ยังคิดว่าจะสามารถกลับมาลุ้นแชมป์ได้
"พวกเราเป็นทีม แม้จะมีปัญหาใหญ่ๆ เกิดขึ้นแต่เรายังเก็บคะแนนได้มาก และก็เพราะไม่ใช่ว่าโชคดี แต่องค์ประกอบทุกอย่างของเราแข็งแกร่งมาก ผมไม่ได้กังวลอะไรเลย ผมรู้ว่าพวกเราดีขนาดไหนและจะคว้าแชมป์ปีนี้ให้ได้ ในช่วง 13 สนามที่ผ่านมาทุกอย่างไม่ได้ราบรื่น ถึงอย่างนั้นผมยังตามหลังอยู่ 31 คะแนน คู่แข่งของเรารู้ว่าเรายังรักษาความเร็วไว้ได้ ซึ่งทำให้เราไล่ทันได้ไม่ยาก"
อืมมมม อ่านแล้วก็รู้สึกดี ในฐานะที่เชียร์เวทเทล ทั้งเห็นใจและเข้าใจเลยค่ะว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่อย่างที่เราบอกเสมอ เราเองก็เชื่อมั่นในตัวเขาและจะเชียร์เขาตลอดไป สิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้จากบทสัมภาษณ์ทุกอันของเขาคือเขาเข้าใจในความเป็นไปของโลกฟอร์มูล่าวันและมีหัวใจที่เข้มแข็งมากในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ
สู้ๆ ต่อไปนะเจ้าเซ็บ!
ส่วนข่าวอื่นๆ ของฟอร์มูล่าวันในวันนี้...
- เอฟไอเอกำหนดวันไปตรวจสอบครั้งสุดท้ายที่สนามเกาหลีเป็นวันที่ 21 กันยายน หรือ 1 เดือนก่อนหน้าการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ที่จริงตามกฎคือจะต้องให้ตรวจสอบขั้นสุดท้าย "ไม่น้อยกว่า 90 วัน" แต่ก็คงเขียนไว้อย่างนั้นเองล่ะค่ะ มันก็มีการยืดหยุ่นบ้าง ซึ่งสถาปนิกสนาม แฮร์มันน์ ทิลเก้ ยืนยันว่าเสร็จทันแน่นอน
- ทีมวิลเลียมส์กำลังจะหันไปโฟกัสกับรถในปี 2011 แล้ว โดยรถของปีนี้จะปล่อยชิ้นส่วนอัพเดทครั้งสุดท้ายในรายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งตอนนี้ผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลมเรียบร้อยแล้ว สำหรับการเตรียมรถในปีหน้า ทีมต่างๆ ต้องอ่านกฎให้เคลียร์เพราะจะเปลี่ยนไปจากปีนี้มากอยู่เหมือนกัน ทั้งการห้ามใช้ F-Duct และ Double Diffuser (หัวต่อกระจายลม) แล้วยังจะต้องเปลี่ยนไปใช้ยางปิเรลลี่ด้วย อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทีมวิลเลียมส์จะพา KERS กลับมาใหม่ โดยจะดีไซน์ให้เป็นระบบเก็บพลังงานในแบตเตอรี่เป็นตัวเลือกแรก แต่ก็จะทำให้ใช้แบบ Flywheel (ล้อช่วยแรง* - การสะสมพลังงานของจลน์โดยผ่านการหมุนของก้านเพลา. ทำให้เกิดพลังงานจากแรงหมุนที่คล้ายกับเครื่องยนต์ลูกสูบที่ชักขึ้น-ลง) ได้ด้วยเช่นกัน
*ล้อช่วยแรงทำด้วยเหล็กหล่อที่หนัก ยึดไว้ด้วยโบลท์เข้ากับปลายของเพลาข้อเหวี่ยง ในจังหวะจุดจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ลูกสูบจะถ่ายทอดกำลังให้กับเพลาข้อเหวี่ยงเพียงจังหวะเดียวเท่านั้น เพราะว่านอกจากจังหวะนี้แล้วในจังหวะอื่น ๆ กำลังจะสูญเสียไปเนื่องจากแรงเฉื่อยกับความฝืด ล้อช่วยแรงจะยังคงแรงการหมุน (แรงเฉื่อย)ในระหว่างจังหวะอื่น ๆไว้นอกเหนือจากจังหวะจุดระเบิด เพื่อทำให้เพลาข้อเหวี่ยงหมุนไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบเรียบ ฟันเฟื่องที่อยู่รอบขอบวงกลมของล้อช่วยแรงจะขบกับฟันเฟื่องขับของมอเตอร์สตาร์ท ในขณะที่เริ่มติดเครื่องยนต์ ในรถยนต์ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติล้อช่วยแรงนี้ถูกเปลี่ยนไปเป็นชุดทอร์คคอนเวอร์เตอร์
(ข้อมูลจาก guru.google.co.th)
- เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องทางเทคนิคเหมือนกันค่ะ ทีมต่างๆ เห็นพ้องต้องกันกับกฎใหม่ของฟอร์มูล่าวันปี 2013 ที่กำลังร่างอยู่ โดยคาดว่าจะนำเครื่องเทอร์โบและเรื่องของ Ground Effect (ผลกระทบเนื่องจากพื้นดิน - เรื่องทางหลักอากาศพลศาสตร์ที่ทำให้รถแข่งเกิดดาวน์ฟอร์ซ (downforce) ซึ่งช่วยให้รถเกาะถนนได้ดี) เข้ามาอีกครั้งเหมือนเมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 โดยจะให้ส่งผลถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
ในด้านเครื่องยนต์ คาดว่าจะใช้เครื่องเทอร์โบ 1.6 ลิตร 4 สูบ เป็นมาตรฐาน ทำกำลังได้ประมาณ 650bhp. และวางแผนจำกัดการใช้เครื่องยนต์จำนวน 5 เครื่องต่อคนต่อฤดูกาล ในด้านของการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะจำกัดอัตราการหมุนเวียนของเชื้อเพลิงเพื่อให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ส่วนเรื่อง Ground Effect จะมาช่วยให้รถแซงได้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ด้วยการทำสัดส่วนของดาวน์ฟอร์ซที่มีผลต่อการกระจายลมให้ดีขึ้น รวมทั้งพิจารณาเรื่องการเพิ่มการป้องกันอุบัติเหตุด้านหน้ารถด้วยการย้ายตำแหน่ง Sidepod (โป่งข้างของรถ) ไปข้างหน้ามากขึ้น
พาร์ทหลังว่าด้วยเรื่องทางเทคนิคทั้งนั้นเลย ถ้ามีอะไรผิดเพี้ยนไป คุณ fascinator หรือเพื่อนๆ คนอื่นที่มีความรู้ด้านเทคนิครถยนต์ จะช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไขก็ยินดีนะคะ
แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้ค่ะ
*ข้อมูลจาก motogp.com และ autosport.com/f1
ภาพจาก autosport.com/motogp และ formel1.de
Create Date : 04 กันยายน 2553 |
Last Update : 4 กันยายน 2553 10:37:20 น. |
|
15 comments
|
Counter : 1432 Pageviews. |
|