Abu Dhabi Grand Prix 2012 - Race Day: ยาสมารีน่าปีนี้ไม่มีเหงา
ใครที่เคยเห็นว่าอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ จืดชืด แต่วันนี้กลับ "ดราม่า" ล้วนๆ ป่วนตลอดการแข่งขัน และใครที่รอชัยชนะแรกของคิมี่ ไรค์โคเน่นกับโลตัส...โอกาสนั้นมาถึงแล้วในที่สุด
ผลการแข่งขันรายการอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์
1. Kimi Raikkonen (Lotus-Renault) 1h45:58.667 2. Fernando Alonso (Ferrari) + 0.852 3. Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) + 4.163 4. Jenson Button (McLaren-Mercedes) + 7.787 5. Pastor Maldonado (Williams-Renault) + 13.007 6. Kamui Kobayashi (Sauber-Ferrari) + 20.076 7. Felipe Massa (Ferrari) + 22.896 8. Bruno Senna (Williams-Renault) + 23.542 9. Paul di Resta (Force India-Mercedes) + 24.160 10. Daniel Ricciardo (Toro Rosso-Ferrari) + 27.463 11. Michael Schumacher (Mercedes) + 28.075 12. Jean-Eric Vergne (Toro Rosso-Ferrari) + 34.906 13. Heikki Kovalainen (Caterham-Renault) + 47.764 14. Timo Glock (Marussia-Cosworth) + 56.473 15. Sergio Perez (Sauber-Ferrari) + 56.768 16. Vitaly Petrov (Caterham-Renault) + 1:04.595 17. Pedro de la Rosa (HRT-Cosworth) + 1:11.778
ผู้ที่ไม่จบการแข่งขัน - Charles Pic (Marussia-Cosworth) --on lap 42-- - Romain Grosjean (Lotus-Renault) --on lap 38-- - Mark Webber (Red Bull-Renault) --on lap 38-- - Lewis Hamilton (McLaren-Mercedes) --on lap 20-- - Narain Karthikeyan (HRT-Cosworth) --on lap 8-- - Nico Rosberg (Mercedes) --on lap 8-- - Nico Hulkenberg (Force India-Mercedes) --on lap 1--
ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) 1:43.964 -- on lap 54
อันดับเวลาต่อรอบเร็วที่สุด //www.formula1.com/results/season/2012/881/7179/fastest_laps.html
ข้อมูลเวลาการเข้าพิต //www.formula1.com/results/season/2012/881/7179/pit_stop_summary.html
*สภาพสนาม: แห้ง สภาพอากาศ: ท้องฟ้าสดใส อุณหภูมิ: 29 องศา อุณหภูมิพื้นสนาม: 29 องศา
ชัยชนะครั้งแรกของคิมี่ ไรค์โคเน่น ในรอบ 3 ปี
ไฮไลท์
- คิมี่ ไรค์โคเน่น ได้ชัยชนะวันนี้เป็นครั้งแรกของเขานับจากที่ชนะในเบลเยี่ยม ปี 2009 เป็นครั้งแรกของทีมโลตัสหรือเรโนลต์เดิมนับจากชัยชนะที่ญี่ปุ่น ปี 2008 และเป็นชัยชนะแรกภายใต้แบรนด์ "โลตัส" นับจากครั้งสุดท้ายที่ชนะในอเมริกา ปี 1987 โดยไรค์โคเน่นออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยมขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ตามหลังลูอิส แฮมิลตัน ซึ่งออกนำจากตำแหน่งโพล แต่นักขับอังกฤษโชคไม่ดีที่รถมีปัญหา ต้องออกจากการแข่งขันทั้งที่เพิ่งผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งทาง
- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ลดระยะห่างของคะแนนสะสมระหว่างเขากับเซบาสเตียน เวทเทล เหลือ 10 คะแนน ด้วยการขึ้นโพเดียมอันดับที่ 2 หลังจากแซงมาร์ก เว็บเบอร์ และพาสเตอร์ มัลโดนาโด ได้ในช่วงแรก รวมถึงยังมีโอกาสเกือบจะแซงผู้นำในช่วงท้ายหลังจากทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดหลายรอบติดกัน
- แม้เวทเทลจะสามารถไล่ขึ้นมาจนจบอันดับที่ 3 หลังต้องสตาร์ทจากพิตเลน แต่เส้นทางการแข่งขันของเขาวุ่นวายมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ในรอบต้นๆ เขาเบียดกับบรูโน่ เซนน่า ในจังหวะแซง จึงทำให้รถวิลเลียมส์เข้ามากระแทกปีกหน้าขวาของเขาไปแต่ยังวิ่งต่อได้ แต่ต่อมาเมื่อการแข่งขันอยู่ภายใต้เซฟตี้คาร์ครั้งแรก ขณะที่เขาอยู่ในอันดับที่ 13 แดเนียล ริกเคียร์โด้ ในรถโตโร รอสโซ ที่เขาตามอยู่เกิดเบรกกะทันหันจนเขาต้องหักหลบไปชนกับป้ายโซน DRS นั่นเองทีมจึงเรียกเข้าพิตให้เปลี่ยนปีกหน้าพร้อมกับเปลี่ยนจากยางมีเดียมเป็นซอฟต์ อันดับของเขาตกไปเป็นที่ 21 แต่ด้วยความได้เปรียบเรื่องยาง เวทเทลจึงไล่อันดับเต็มที่จนกระทั่งต้องเปลี่ยนยางอีกครั้งขณะอยู่ในอันดับที่ 2 เมื่อออกมาตามหลังเจนสัน บัตตัน ในอันดับที่ 4 เขาใช้ความได้เปรียบเรื่องยางอีกครั้งในการไล่เข้าและแซงเอาโพเดียมอันดับสุดท้ายมาได้สำเร็จ
- อันที่จริงความวุ่นวายของสนามนี้เกิดขึ้นตั้งแต่โค้งแรกเมื่อรถฟอร์ซอินเดียทั้งสองคันเบียดอยู่กับเซนน่า นิโค รอสเบิร์ก และโรแมง โกรส์ฌอง โดยนิโค ฮูลเคนเบิร์ก เป็นผู้ที่ต้องออกจากการแข่งขันคนแรก จากนั้นไม่นานก็เกิดอุบัติเหตุระหว่างรอสเบิร์กที่กลับออกมาร่วมการแข่งขันกับนาเรน คาร์ธิเคยัน หลังจากนักขับเมอร์เซเดสเสยท้ายรถเอชอาร์ทีซึ่งช้าลงขณะเข้าโค้งจนลอยข้ามคาร์ธิเคยันไปกระแทกกำแพงยางอย่างรุนแรง แต่โชคดีที่ทั้งสองไม่ได้รับบาดเจ็บ จากจังหวะนี้จึงเกิดเซฟตี้คาร์ครั้งแรกของวัน
- ไม่ใช่วันที่ดีของมาร์ก เว็บเบอร์ จริงๆ เริ่มจากเขาออกตัวได้ช้าจนทำให้ทั้งไรค์โคเน่นและมัลโดนาโดแซงไปได้ในโค้งแรก จากนั้นไม่นานก็ถูกอลอนโซ่แซงและพยายามจะแซงมัลโดนาโดในเวลาต่อมา แต่จังหวะไม่ดีพอจึงถูกรถวิลเลียม์สะกิดจนหมุน อีกครั้งเขาก็มีจังหวะกระแทกกับเฟลิเป้ มาสซ่า จนรถของเขาเองต้องหลุดแทร็คและมาสซ่าก็หมุนออกในจังหวะนั้น อย่างไรก็ตาม เว็บเบอร์ต้องออกจากการแข่งขันหลังจากอุบัติเหตุกลุ่มที่มีเซอร์จิโอ เปเรซ เป็นต้นเหตุ โดยในจังหวะที่เปเรซพยายามบีบจะแซงพอล ดิ เรสต้า แต่พลาดหลุดแทร็คไป ทำให้เขาหักรถเข้ามาตรงหน้าโรแมง โกรส์ฌอง ซึ่งพยายามหันหัวรถออกแต่ไปชิ่งกับรถของเว็บเบอร์ที่ตามมา เศษชิ้นส่วนของรถกระจายเต็มแทร็ค ทำให้เซฟตี้คาร์ออกมาอีกครั้ง ซึ่งทั้งโกรส์ฌองและเว็บเบอร์ออกจากการแข่งขันทันที ส่วนเปเรซต้องรับโทษจอดในพิต 10 วินาที (stop-go penalty)
- เซนน่าและดิ เรสต้า เจออุบัติเหตุในสนามนี้ แต่ยังโชคดีที่แข่งขันต่อได้และยังเก็บแต้มจากสนามนี้ได้อีกด้วย
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 18
ประเภทนักขับ 1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 255 คะแนน 2. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 245 คะแนน 3. คิมี่ ไรค์โคเน่น (โลตัส) 198 คะแนน 4. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 167 คะแนน 5. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 165 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2012/
ประเภททีม 1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 422 คะแนน 2. เฟอร์รารี่ 340 คะแนน 3. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 318 คะแนน 4. โลตัส-เรโนลต์ 288 คะแนน 5. เมอร์เซเดส 136 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภททีมทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/2012/
วันนี้ลุ้นจนแทบไม่ได้หายใจกันเลยใช่ไหมคะ และคาดว่าอีกสองสนามที่เหลือของฤดูกาลนี้ก็คงไม่น้อยหน้าเช่นกัน จากนี้เราพักก่อน 2 สัปดาห์และจะไปจบปีกันที่ทวีปอเมริกาโดยเริ่มจากสนามใหม่เอี่ยมอ่อง "เซอร์กิตออฟดิอเมริกาส์" แฟนๆ ติดตามลุ้นรายการยูไนเต็ดสเตท กรังด์ปรีซ์ ได้ในวันที่ 16-18 พฤศจิกายนค่ะ
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ formula1.com ภาพจาก formel1.de
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 0:15:51 น. |
|
25 comments
|
Counter : 1730 Pageviews. |
|
|