รายละเอียดการแข่งขันและข้อมูลสนาม
สนามที่ 14: 21-23 ก.ย. 55
ชื่อสนาม: มาริน่าเบย์สตรีทเซอร์กิต (สตรีทเซอร์กิต)
ทิศทางการวิ่ง: ทวนเข็มนาฬิกา
จำนวนรอบแข่งขัน: 61 รอบ
ความยาวของสนาม: 5.073 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 309.316 กม.
ความเร็วสูงสุด: 297 กม./ชม.
อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อ 1 รอบ: 44%
ดาวน์ฟอร์ซ: สูงมาก
อัตราการใช้ยาง: ปานกลาง
การเลือกยางของปิเรลลี่: ซอฟต์ (สีเหลือง) / ซูเปอร์ซอฟต์ (สีแดง)
อัตราการใช้เบรก: สูงมาก
แรง G สูงสุด: 3
DRS Zone: ใช้ได้ที่ระยะ 35 เมตรหลังโค้ง 5 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 230 เมตรก่อนโค้ง 5
จำกัดความเร็วในพิตเลน: 60 กม./ชม. ระหว่างช่วงฝึกซ้อม รอบควอลิฟาย และรอบแข่งขัน
สถิติสนามต่อ 1 รอบ: 1:45.599 (คิมี่ ไรค์โคเน่น / เฟอร์รารี่ - 2008)
พยากรณ์อากาศวันแข่งขัน: มีฝนฟ้าคะนอง อุณหภูมิ 25/31 องศาเซลเซียส
การเปลี่ยนแปลงของสนามหลังจากปี 2011
- มีการปรับปรุงผิวแทร็คบริเวณโค้ง 13 และพิตเลนสายนอก
- เคิร์บทั้งหมดที่ทำจากยางจะถูกแทนด้วยวัสดุที่มีเหล็กผสม ยึดติดกับพื้นด้วยสลักขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 24 มม.
โปรแกรมตลอดสุดสัปดาห์การแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย)
ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 21 ก.ย. เวลา 17.00-18.30 น.
ซ้อม 2 - ศุกร์ที่ 21 ก.ย. เวลา 20.30-22.00น.
ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 22 ก.ย. เวลา 17.00-18.00 น.
รอบควอลิฟาย - เสาร์ที่ 22 ก.ย. เวลา 20.00-21.00 น.
แข่งขัน - อาทิตย์ที่ 23 ก.ย. เวลา 19.00 น.
*ติดตามชมได้ทางช่องอีเอสพีเอ็นหรือเว็บไซต์ที่ขึ้นไว้ด้านขวานี้
ผู้ชนะสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2011 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล)
2010 - เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่)
2009 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน)
ผู้ได้ตำแหน่งโพล 3 ปีหลังสุด
2011 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:44.381
2010 - เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 1:45.390
2009 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 1:47.891
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์
- ไนท์เรซแห่งเดียวของฟอร์มูล่าวันแห่งนี้ต้องติดตั้งไฟทั้งหมด 1,600 ดวง ให้กำลังรวม 3,180,000 วัตต์ ซึ่งต้องใช้สายเคเบิ้ลสำหรับติดตั้งมีความยาวทั้งสิ้น 108,423 เมตร เท่ากับว่าระบบแสงของสนามทำความสว่างได้ ประมาณ 3,000 ลักส์ (lux) หรือมากกว่าความสว่างของสนามกีฬาทั่วไปถึง 4 เท่า
- มาริน่าเบย์เป็นสนามที่ใช้ความเร็วต่ำที่สุดอันดับที่ 2 ในปฏิทินการแข่งขันปีนี้รองจากโมนาโค โดยใช้ความเร็วเฉลี่ยเพียง 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและใช้ความเร็วในโค้งเฉลี่ย 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราการใช้คันเร่งสูงสุดต่อรอบแค่ 46% ซึ่งตรงข้ามกับสนามความเร็วสูงอย่างมอนซ่าที่ใช้คันเร่งเต็มที่ถึง 75% ใน 1 รอบอย่างสิ้นเชิง
- ด้วยความที่สนามนี้มีถึง 23 โค้ง เบรกจึงต้องรับบทหนักเช่นเดียวกับเกียร์บ็อกซ์ โดยนักขับต้องเปลี่ยนเกียร์ประมาณ 80 ครั้งใน 1 รอบ
- ก่อนที่สิงคโปร์จะได้จัดการแข่งขันฟอร์มูล่าวันครั้งแรกในปี 2008 พวกเขาเคยจัดการแข่งขันรายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ มาทุกปีระหว่างปี 1966-1973 โดยเป็นการแข่งขัน "ฟอร์มูล่าไลเบอร์" (Formula Libre) อันเป็นการแข่งขันที่นักขับใช้รถหลากหลายรูปแบบ นักขับที่ชนะรายการนี้ได้เป็นคนสุดท้ายในปี 1973 ได้แก่ แฟร์น ชุปป์พัน ซึ่งเคยลงแข่งขันในฟอร์มูล่าวัน 14 ครั้ง รายการแรกที่เขาเข้าร่วมคือเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ ปี 1972 แต่ไม่ได้สตาร์ทเนื่องจากเฮลมุท มาร์โค ขับแทน อย่างไรก็ตาม อีกสองปีถัดมาเขาได้ลงแข่งขันจริงๆ ในรายการเดิม และรายการสุดท้ายของเขาในฟอร์มูล่าวันคือดัตช์ กรังด์ปรีซ์ ปี 1977
- สิงคโปร์เป็นสนามที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นอยู่เสมอด้วยรูปแบบของสนามเอง ซึ่งนับตั้งแต่จัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2008 เป็นต้นมา เซฟตี้คาร์จะออกมาแทรกอย่างน้อย 1 ครั้งในการแข่งขันแต่ละปี
พรีวิวสนามแบบสามมิติโดยปิเรลลี่
คลิปจากยูทูบโดย NextgenAutoVideos
*ข้อมูลจาก formula1.com และ fia.com
ภาพจาก updatedtrends.com
ยังไงก็ขอให้แฟนๆ ทุกท่านที่ไปเกาะขอบสนามสิงคโปร์ปีนี้เดินทางโดยสวัสดิภาพและมีความสุขกับทริปนี้มากๆ นะคะ พวกเราทางนี้ขอรอของฝากเป็นภาพถ่ายบรรยากาศจากสนามแล้วกันค่ะ