Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
 
5 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Turkish Grand Prix 2011

รอกันมานานพอสมควรหลังจากปล่อยให้ทุกคนได้กลับไปฉลองเทศกาลอีสเตอร์ สำหรับสัปดาห์นี้ก็จะเข้าสู่โหมดปกติแล้วค่ะ










รายละเอียดการแข่งขันและข้อมูลสนาม
สนามที่ 4
วันแข่งขัน : อาทิตย์ที่ 8 พ.ค. 54 (รอบจัดอันดับ เสาร์ที่ 7)
เวลาแข่งขัน (ไทย) : 19.00 น.
ชื่อสนาม : Istanbul Park
จำนวนรอบแข่งขัน : 58 รอบ (ทวนเข็มนาฬิกา)
ความยาวของสนาม : 5.338 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด : 309.396 กม.
ความเร็วสูงสุด: 315 กม./ชม.
อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อ 1 รอบ: 63%
ดาวน์ฟอร์ซ: ปานกลาง
อัตราการใช้ยาง: สูง
อัตราการใช้เบรก: ต่ำ
แรง G สูงสุด: 4.48
สถิติสนามต่อ 1 รอบ : 1:24.770 (ฮวน พาโบล มอนโตย่า / แม็คลาเรน - 2005)
พยากรณ์อากาศวันแข่ง : มีฝน อุณหภูมิ 10/15 องศาเซลเซียส

ผู้ชนะเตอร์กิช กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2010 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน)
2009 - เจนสัน บัตตัน (บรอว์น จีพี)
2008 - เฟลิเป้ มาสซ่า (เฟอร์รารี่)

โพลโพซิชั่น (Pole Position) 3 ปีหลังสุด
2010 - มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 1:26.295
2009 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:28.316
2008 - เฟลิเป้ มาสซ่า (เฟอร์รารี่) 1:27.617

เอฟไอเอได้กำหนดเขตการใช้ DRS หรือปีกหลังปรับได้ ดังนี้ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=f1star&month=04-05-2011&group=1&gblog=330

สำหรับโปรแกรมทั้งหมดในสุดสัปดาห์นี้ ติดตามได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ค่ะ
ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 6 พ.ค. เวลา 14.00-15.30 น. (ไทย)
ซ้อม 2 - ศุกร์ที่ 6 พ.ค. เวลา 18.00-19.30 น.
ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 7 พ.ค. เวลา 15.00-16.00 น.
รอบควอลิฟาย - เสาร์ที่ 7 พ.ค. เวลา 18.00-19.00 น.
แข่งขัน - อาทิตย์ที่ 8 พ.ค. เวลา 19.00 น.

บางเรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้หรือลืมไปแล้วเกี่ยวกับเตอร์กิช กรังด์ปรีซ์
- รายการนี้จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2005 โดยคิมี่ ไรค์โคเน่น ของแม็คลาเรน เป็นผู้ชนะ
- ผู้ที่ประสบความสำเร็จที่นี่มากที่สุดคือ เฟลิเป้ มาสซ่า นักขับบราซิเลียนของเฟอร์รารี่ โดยชนะที่นี่ 3 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2006-2008
- โค้ง 8 อันโด่งดังของสนามนี้มีความยาว 640 เมตร หรือมีระยะทางคิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ของการวิ่ง 1 รอบ และกินเวลา 8.5 วินาที หรือคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่เป็นสถิติสนามในขณะนี้ ลักษณะพิเศษของโค้งนี้คือหักซ้าย 3 ที มีความเร็วเฉลี่ยตลอดโค้งคือ 270 กม./ชม.


***********************************


มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลาออกของสมาชิกทีมวิลเลียมส์ แซม ไมเคิล ผู้อำนวยการด้านเทคนิค พร้อมทั้งจอห์น ทอมลินสัน หัวหน้าด้านแอโรไดนามิกส์ ซึ่งจะอยู่กับทีมจนถึงสิ้นสุดฤดูกาลนี้ค่ะ ทั้งสองคนอยู่กับทีมมานานทีเดียว โดยเฉพาะไมเคิลอยู่มาถึง 10 ปี แต่สาเหตุที่ลาออกในครั้งนี้เพราะทั้งสองคิดว่าผลงานในการสตาร์ทฤดูกาลนี้ของวิลเลียมส์ไม่ดี จึงอยากขอรับผิดชอบ และโดยส่วนตัวของไมเคิล เขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะไปหาความท้าทายใหม่ๆ แต่ถึงอย่างไรก็ยังทุ่มเทให้กับวิลเลียมส์เต็มที่จนถึงวันหมดสัญญาแน่นอน





แซม ไมเคิล




ขณะเดียวกันทีมก็ได้เซ็นสัญญากับไมค์ คัฟแลน อดีตหัวหน้าเทคนิคของแม็คลาเรน ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับคดีล้วงลับเฟอร์รารี่เมื่อปี 2007 และถูกแบนจากฟอร์มูล่าวัน 2 ปี มาเป็นหัวหน้าวิศวกรคนใหม่ด้วยค่ะ




*ข้อมูลจาก formula1.com และ autosport.com/f1
ภาพจาก turkey4travel.com และ autosport.com/f1



Create Date : 05 พฤษภาคม 2554
Last Update : 7 พฤษภาคม 2554 10:26:58 น. 15 comments
Counter : 1315 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ วันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอคะ


โดย: JJ Hour IP: 110.49.241.38 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:54:26 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข่าวครับ
วันหยุดพักผ่อนบ้างนะเจ้าของบล็อก


โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 182.52.212.66 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:02:56 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับ

หลังจากที่พักกันมานานพอสมควร ในที่สุด F1 ก็กลับมาแข่งกันอีกครั้ง ประเด็นที่หลายๆคนให้ความสนใจก็คือเรื่องยาง ซึ่งส่งผลกระทยไปในหลายๆด้าน อย่างเช่นเรื่อง degradation ที่ทุกคนคาดว่าน่าจะสูง ซึ่งแนวโน้มของการเข้า pit ในสนามนี้ก็คงน่าจะเป็น 3 ครั้ง

เรื่องของโค้ง 8 ก็น่าสนใจ เพราะโค้งนี้เป็น 1 ในบรรดาโค้งที่โด่งดังที่สุดใน F1 ซึ่งทาง formula1.com ก็ได้ลงบทความเกี่ยวกับโค้ง 8 ซึ่งเป็นมุมมองจากทาง Mercedes ไว้

การ Qualify ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจเหมือนกัน เพราะหลังจากจบ race ที่จีน หลายๆคนได้ตั้งขัอสังเกตเกี่ยวกับ tactic ในช่วง Qualify ในเรื่องของการเก็บยางใหม่ไว้ใช้ใน race

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ M.Webber ที่มียาง soft ใหม่ๆถึง 3 ชุดไว้ใช้ในช่วง race ทำให้เค้าสามารถใช้ความได้เปรียบจากยางที่สดกว่าคนอื่นๆ จนไล่อันดับมาได้เยอะมาก ซึ่งหลายๆคนก็มีการพูดกันถึงเรื่องที่ยอมเสียโอกาสไปในช่วง Qualify เพื่อเก็บยางไว้ใช้ใน race ในรูปแบบเดียวกับ L.Hamilton ในสนามที่แล้ว

แต่มุมมองของหลายๆทีมก็คิดถึงอันดับในช่วง Qualify มากกว่าการเก็บยางไว้ใช้ เพราะการแย่งอันดับใน grid ค่อนข้างดุเดือด สนามที่ผ่านมา มีแค่ McLaren และ RBR ที่ใช้แค่ยาง Hard ในช่วง Q1 แล้วเอาตัวรอดมาได้ ซึ่งแตกต่างไปจากปีที่ผ่านมาพอสมควร ซึ่งบรรดาทีมใหญ่ๆจะสามารถเอาตัวรอดได้โดยใช้แค่ยาง Hard

อีกเรื่องนึงที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ การ update ชิ้นส่วนใหม่ๆให้กับรถ ซึ่งหลายๆทีมคงทำการบ้านกันมาอย่างหนักในช่วงที่กลับมาจากจีน ช่วง P1 และ P2 คงมีการทดสอบชิ้นส่วนต่างๆกันพอสมควร

สำหรับทีมเต็ง ก็คงจะเป็น RBR ตามเดิม แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ช่องว่างระหว่างทีมต่างๆจะเป็นอย่างไร เพราะ 3 สนามที่ผ่านมา RBR และ McLaren ดูจะทิ้งห่างจากผู้ที่ตามมาพอสมควร

ท้ายที่สุดแล้ว ต้องคอยติดตามดูว่า Turkish GP ในปีนี้จะมีอะไรตื่นเต้นแบบปีที่แล้วรึเปล่า เพราะปีที่แล้วถือว่าเป็นปีที่มีเรื่องราวกันพอสมควร ทั้งเรื่องกระทิงขวิดกันเอง และ "Save fuel"


โดย: Thomaskung IP: 58.9.213.192 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:35:37 น.  

 
@น้อง JJ Hour
ไม่ออกไปไหนล่ะค่ะ ยังเห่อโน้ตบุ๊คใหม่อยู่ อิอิ

@คุณลุ่มน้ำตาปี
ขอบคุณนะคะ แต่อยู่ในโลกฟอร์มูล่าวัน เราไม่เคยเหนื่อยเลยค่ะ

@คุณ Thomaskung
ขอบคุณมากค่ะสำหรับ preview


โดย: finishline วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:37:07 น.  

 
สนามนี้ทีมที่มีการอัพเดทพาร์ทใหม่ ๆ เข้ามามากคือทีม Renault ครับ เดี๋ยวต้องดูกันว่าชิ้นส่วนใหม่ ๆ จะช่วยให้ Renault ขยับขึ้นมาเป็นทีมอันดับ 3 ได้หรือไม่

ในขณะที่ Ferrari เองก็กระหน่ำหาข้อผิดพลาดจากสนามที่ผ่าน ๆ มา มาแก้ไขกับรถตัวเอง อาจจะเห็นม้าขึ้นมาอยู่หัวแถวก็เป็นได้

ส่วน McLaren ไม่มีอะไรอัพเดทมากครับ ส่วนใหญ่ยังเป็นชิ้นส่วนเดิม ๆ จากสนามที่แล้ว

ปล. เค้าหยุดกันเรานั่งทำโอที (กระซิก ๆ)


โดย: fascinator IP: 116.68.150.230 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:51:00 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข่าวนะคะ

คิดถึงโค้ง 8 เหมือนกันนิ๊


โดย: Panaya11 IP: 124.121.216.78 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:31:40 น.  

 
ฮ่าๆๆ เบื่อตอนเปลี่ยนยาง


โดย: JUNE IP: 125.27.154.230 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:49:58 น.  

 
ที่แน่ๆ คนที่จะได้ fastest lap ในแต่ละสนามคือพวกรถ 5 ทีมนำบนตารางคะแนน ที่มีจังหวะเปลี่ยนยางในช่วงท้าย Race ดีที่สุด (ในขณะที่น้ำมันในรถเหลือน้อยๆ)


คงเป็นแบบนี้ไปอีกหลายสนาม...อิอิ


โดย: runtaro IP: 124.121.177.22 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:57:49 น.  

 
ตาย ๆ วันแรกเจ้าเซ็บก็แป่วซะแล้ว รถพังยับเยิน


โดย: JJ Hour IP: 202.28.9.78 วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:02:07 น.  

 
กลุ้มใจ!

ใครที่ดูซ้อมแรกคงทราบแล้วนะคะว่าสนามมีน้ำเจิ่งนองและเจ้าเซ็บก็เอารถไปฟาดกำแพงหลังออกจากโค้ง 8 เป็นที่เรียบร้อยค่ะ!

รถพังยับเยินทีเดียว อันนี้คงเป็นผลจากการใส่ยาง intermediate แล้วอาจระวังไม่มากพอด้วยล่ะค่ะ โธ่...แล้วซ้อม 2 นี่จะเอารถที่ไหนละเนี่ย?

ปล. เจ้าของบ้านขออนุญาตอัพบล็อกรวบยอดเป็นวันพรุ่งนี้เลยนะคะ


โดย: finishline วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:58:21 น.  

 
555+ ไอ้เซ็บมันหลุดนิดเดียวเองนะ แต่แถวนั้นอย่าได้หมุน กำแพงเหล็กล้วนๆ ^^'


วันนี้ P2 ยังไงก็ต้องพึ่งรถเบอร์ 2 ของพี่มาร์คคนเดียวแหละ ซ่อมไม่ทันหรอก แต่ดีหน่อยแดดออกละ


ดูจากคลิปแล้ว คงซ่อมทันแหละคืนนี้ ...


โดย: runtaro IP: 172.30.50.66, 202.183.217.251 วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:15:22 น.  

 
หลังจาก P1 และ P2 ผ่านไป ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดก็คงเป็นเรื่องของ Vettel ละครับ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่นานๆทีจะเกิดกับ Vettel ซักครั้ง ซึ่งความผิดพลาดน่าจะเกิดจากตัวของ Vettel เอง การผิดพลาดของเค้าในครั้งนี้ ทำให้เค้ายังไม่ได้ลองวิ่งในสภาพสนามแห้งเลย

- สำหรับเรื่องยางที่หลายๆคนกลัวว่าจะเป็นปัญหาใหญ่นั้น L.Hamilton ได้บอกว่า การสึกหรอของยางน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่จีน ซึ่งน้อยกว่าที่เค้าคาดไว้พอสมควร และเค้าก็ได้พูดถึงเรื่องจำนวนการเข้าพิทว่า คงจะอยู่ที่ 2 หรือ 3 ครั้งเป็นอย่างมาก

- สำหรับเรื่องเวลาโดยรวม ที่น่าสนใจก็คงจะเป็น Mercedes ที่ทำเวลาได้อยู่ในช่วงหัวแถวใน P2 ซึ่งเป้าหมายหลักของ Mercedes ก็คงน่าจะเป็นการแย่งที่ 3 จาก Ferrari

ทางด้านทีมหัวแถวอย่าง McLaren ก็ยังคงน่าจะมีสัปดาห์ที่ดีอีกครั้ง ส่วนทาง RBR ก็ยังดูเงียบๆอยู่ ซึ่งโปรแกรมของในช่วง P2 ของ RBR ก็ใกล้เคียงกับที่มาเลเซียและที่จีน คือ เริ่มต้นด้วย Long run แบบค่อนข้างจะนานกว่าชาวบ้านแบบชัดเจน ซึ่ง M.Webber ก็วิ่งไป 12 รอบในชุดแรก ในช่วงที่ยางยังค่อนข้างดี เวลาก็ค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่พอถึงช่วงท้ายๆ เวลาก็แย่ลงแบบเห็นได้ชัด

เมื่อเปรียบเทียบกับสนามที่แล้ว Vettel วิ่งในชุดแรกของ P2 ไป 19 รอบ เวลาที่ดีที่สุดก็อยู่ประมาณ 1:42 กว่าๆ แล้วก็ลงมาเรื่อยๆ ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาที่เค้าวิ่งด้วยยาง Hard ใน race

แต่ถึงอย่างไร เวลาในช่วง P1 กับ P2 คงตัดสินอะไรแบบชัดเจนไม่ได้ เพราะยังมีตัวแปรอีกหลายปัจจัยที่เราไม่รู้ เช่น เรื่องน้ำหนักของรถ แต่เท่าที่ดูคร่าวๆ อันดับของแต่ละทีมไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เมื่อเทียบกับสนามที่แล้ว แต่ช่องว่างระหว่างแต่ละทีมอาจเปลี่ยนแปลงได้

แถมท้ายกันซักนิด เรื่องเกี่ยวกับจำนวนยางฝนที่ให้ใช้ ซึ่งทาง Pirelli ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า จำนวนยางอาจจะน้อยไปหน่อย ซึ่งแต่ละคนจะได้ยาง Intermediate 4 ชุด และ Full Wet จำนวน 3 ชุด ตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งผมก็คิดว่าจำนวนยางมันน้อยไปจริงๆ เพราะถ้าเจอฝนทุกช่วง ยางไม่น่าจะพอใช้ใน race จริงค่อนข้างแน่


โดย: Thomaskung IP: 61.90.115.29 วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:05:17 น.  

 
โค้ง 8 ก่อเรื่องอีกแล้ว....


โดย: hstgz IP: 101.108.22.82 วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:26:18 น.  

 
เบื่อแล้วนะ ปีนี้พูดกันแต่เรื่องยางรถ


โดย: เกลียดแดง IP: 58.64.112.165 วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:33:36 น.  

 
ก็เรื่องยางเป็นปัจจัยสำคัญของปีนี้นี่คะ :)


โดย: finishline วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:59:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.