Bloggang.com : finishline : Barcelona Test Part 2 # Day 5

Barcelona Test Part 2 # Day 5

ทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลวันสุดท้ายทำเอา 4 ทีม (ไม่นับรวมเอชอาร์ทีที่อย่างไรรถใหม่ก็ยังวิ่งไม่ได้เพราะชิ้นส่วนบางอย่างยังติดอยู่ที่ศุลกากร) เซ็งไปตามๆ กันค่ะเพราะเจอกับฝนตกหนัก ไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี ผลก็คือเวลาที่โพสต์ไว้ก็เป็นไปแบบขำๆ...

1. Nico Rosberg (Mercedes) 1m43.814s (35 laps)
2. Pastor Maldonado (Williams-Cosworth) 1m44.333s / + 0.519s (23)
3. Lewis Hamilton (McLaren-Mercedes) 1m44.560s / + 0.746s (33)
4. Michael Schumacher (Mercedes) -no time- (5)
5. Fernando Alonso (Ferrari) -no time- (5)

ในช่วงเช้าที่น้ำนองพื้นแทร็ค มีเพียง ลูอิส แฮมิลตัน คนเดียวเท่านั้นที่ทำเวลาโพสต์ไว้ ส่วนเวลาที่เร็วที่สุดของวันของนิโค รอสเบิร์ก เกิดขึ้นเมื่อสภาพพื้นผิวดีขึ้นในช่วงบ่ายมากแล้ว ด้านเฟอร์รารี่นั้นเนื่องจากขยันมาหลายวันแล้วและวันสุดท้ายสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย พวกเขาจึงแพ็คของกันตั้งแต่ก่อนหมดเวลาหลายชั่วโมง

เป็นอันว่าเสร็จสิ้นการทดสอบรถก่อนเปิดฤดูกาลแล้วนะคะ สำหรับพวก "บิ๊กโฟร์" เฟอร์รารี่กับเร้ดบูลเป็นทีมที่อยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สุด มีความเร็วและความสม่ำเสมอมากที่สุด เมอร์เซเดสก็กำลังใจดีขึ้นมากหลังจากผ่านการอัพเกรดรถและรถตอบสนองได้ดี สำหรับแม็คลาเรนนั้นขลุกขลักที่สุด มีปัญหาเป็นระยะและยังวิ่งไม่ได้เต็มที่ แต่เราทราบกันดีว่ายังไงก็ประมาททีมนี้ไม่ได้เด็ดขาด

ในส่วนของทีมระดับกลางลงไป โตโร รอสโซ่ โดดเด่นทีเดียวในช่วงที่ผ่านมา เช่นเดียวกับวิลเลียมส์และเซาเบอร์ที่ดูดีเช่นกันค่ะ ทีมที่น่าเป็นห่วงที่สุดจะเป็นทีมไหนไม่ได้นอกจากเอชอาร์ที ซึ่งรถของปี 2011 ยังไม่เคยได้ลองวิ่งแม้แต่กิโลเมตรเดียว พวกเขาจึงต้องไปเดบูต์กันที่เมลเบิร์นเลย

และเมื่อถึงสนามแรกแล้ว ภาพต่างๆ ของปีนี้ก็จะชัดเจนขึ้นอีกมากค่ะ

*ข้อมูลจาก autosport.com/f1

Create Date : 13 มีนาคม 2554

Last Update : 13 มีนาคม 2554 10:55:39 น.

10 comments

Counter : 1108 Pageviews.

McLaren ชอบต่อให้ทีมอื่นก่อนในช่วง 3 สนามแรกอะครับ อิอิอิ

HRT ปีที่แล้วรถไม่ได้ลองวิ่งเลยสักกิโลเดียว ปีนี้มีการพัฒนาทั้งรถทั้งคนได้ลองวิ่ง แต่ก็เป็นรถเก่าอยู่ดี *-*

โดย: fascinator IP: 124.120.209.62 วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:14:10:31 น.

งั้นต่อให้ซัก 10 สนามนะ fas คุง ทาง Red Bull Racing ยินดีรับน้ำใจตรงนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ยังไงก็ขอให้ Kubica หายไวๆนะครับ เหมือนต้องมีผ่าตัดเพิ่มอีก สู้ๆๆ

โดย: runtaro IP: 124.121.176.55 วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:18:12:55 น.

ต่อให้ครึ่งฤดูกาลยังเคยมาแล้วเลย (2004 , 2009) *-*

โดย: fascinator IP: 124.120.209.62 วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:18:35:30 น.

McLaren เอ๊ยยย สู้ๆน๊าาา

ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ

โดย: Panaya11 IP: 110.169.188.95 วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:19:52:00 น.

ห้า ห้า เพิ่งรู้ว่าแฟนแมค ใจดีกันทุกคน อิอิ

โดย: runtaro IP: 124.121.176.55 วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:20:13:52 น.

ปีที่แล้ว McLAREN ฟอร์มดีมาก ในช่วง ครึ่ง season แรกนะครับ
ส่วนครึ่งหลัง นี่ยอมจำนน ให้ RED BULL และ FERRARI แบบสิ้นเชิงเลย

!!!!!!! เป็นแบบนี้ ยังจะต่อให้อีกหรอเนี่ย ????

แต่ไม่ประมาท็น่าจะดีนะ ก็เป็นทีมเดียว ที่มีแชมป์โลก สดๆ ในปี 2008 & 2009 อยู่ด้วยกัน

โดย: JUNE IP: 125.27.143.233 วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:22:25:43 น.

ใครว่าแมคยอมจำนน แค่รถพังบ่อยตะหาก

โดย: hstgz IP: 125.24.163.161 วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:7:04:08 น.

โดนม้าสอยหน้า กระทิงตามมาสอยหลัง หายไปหลาย 10 แต้มอยู่ครับ อิอิ

อย่างไรก็ดีปีนี้รถดีแต่บริหารยางไม่เป็นก็จบครับ

โดย: fascinator IP: 10.17.35.147, 124.121.196.206 วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:9:22:22 น.

เรื่องของ McLaren ผมยังมองโลกในแง่ดีนะครับ

ช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา McLaren ยังเป็นทีมที่น่ากลัวเสมอ ทั้งด้านความสามารถของทีม ที่พัฒนาและปรับปรุงรถให้ดีขึ้น อย่างเช่น F-Duct ที่โด่งดัง รวมไปถึงความสามารถของ Pit crew ที่ยอดเยี่ยมและแทบไม่ก่อความผิดพลาดเลย ซึ่งการที่ต้องเข้าพิทกันมากขึ้น ความสามารถของ Pit crew อาจจะเป็นจุดตัดสินก็ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของนักขับอย่าง Button และ Hamilton ก็น่าจะช่วยให้ McLaren มีลุ้นไปจนถึงช่วงปลายปีได้ ถึงแม้ว่ารถปัจจุบันอาจจะไม่ได้เป็นรถที่ถูกคาดหวังว่าเป็นรถที่เร็วที่สุด

ถ้า McLaren สามารถนำ upgrade ดีๆซักชุดมาติดตั้งบทรถได้ ก็น่าจะกลับมามีลุ้นแน่ๆ เหมือนอย่างที่ Mercedes ทำใน test ล่าสุด

แต่ถึงยังไง เรื่อง Reliability ก็ต้องมาดูกันอีกที เพราะรถของ McLaren วิ่งน้อยกว่าบรรดาทีมชั้นนำพอสมควร อย่างที่เราเห็นกันในปีที่แล้ว ต่อให้คะแนนนำอยู่พอสมควร ถ้า DNF ซํก 2 สนามติด สถานการณ์ก็พลิกได้เลย

เท่าที่ตามดู test ครั้งต่างๆ ปัญหาเกี่ยวกับ KERS ดูจะเป็นอะไรที่ลำบากที่สุดละครับ ถ้ารถใครมีปัญหาขึ้นมา เวลาที่จะแก้ไขก็ค่อนข้างมาก ถ้าต้อง Deactivated ระหว่าง race ก็เหมือนกับต่อน้ำหนักหลายสิบกิโลให้ชาวบ้านเค้าเลย แต่เรื่อง KERS สำหรับ McLaren น่าจะไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดนะครับ

อีกไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็รู้กันแล้วครับว่าศํกยภาพที่แท้จริงของแต่ละทีมจะเป็นอย่างไร หวังว่าปีนี้ก็คงได้ลุ้นกันยาวๆเหมือนปีที่แล้วนะครับ

โดย: Thomaskung IP: 58.11.58.29 วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:12:23:24 น.

555+

กลายเป็นบล็อกแฟนๆ แม็คลาเรน อิอิ

โดย: finishline

วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:16:22:29 น.